วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2564

Imported post: Facebook Post: 2021-06-01T21:15:02

หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร #ร่วมเดินธุดงค์กับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต # สำนักวิปัสสนาหินผานางคอย จ.อุบลราชธานี วัดสวนหินผานางคอย อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี คำสอน หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร > https://youtu.be/n-YAST68soI เรื่องเล่าหลวงปู่พรหมา เขมจาโร: เขาชื่อหาญ (สุนา แก้ววิจิตร) ตอนที่2 January 12, 2017 Ampol Jane หาญเล่าให้ฟังว่า พบและรู้จักหลวงปู่พรหมาครั้งแรกที่ภูเขาควาย เขานำกองกำลังลาดตระเวนอยู่แถวนั้น พบหลวงปู่พำนักอยู่ในถ้ำรูปเดียว เข้าไปกราบสนทนาด้วย ถูกชะตา จึงพากองกำลังทั้งหมดมากราบ หลวงปู่รดน้ำมนต์ให้ทุกคน ต่อมาหาญย้ายฐานลงมาทางแขวงจำปาศักดิ์ทำให้ขาดการติดต่อกับหลวงปู่ เรียกว่าต่างคนต่างไปไม่มีใครรู้ข่าวกัน คราวหนึ่งออกป่าล่าสัตว์คนเดียว ถูกลอบยิงด้วยปืนกลหนัก แบบที่มีขาตั้ง เรียกไม่ถูก ทั้งกระดูกขาฝ่าเท้าแตก ทำให้หนีไปได้ไม่ไกล กลับที่ตั้งไม่ได้ นอนหมดแรงจนสลบอยู่กลางป่าคนเดียว3วัน คิดว่าตายแน่ อยู่ๆหลวงปู่พรหมาก็ปรากฏตัว ลงมือช่วยเหลือรักษาแผล หลวงปู่มีน้ำ้มันงาทั้งนวดทั้งจัดกระดูกที่แตกให้เข้าที่ ทำเฝือก หายา(สมุนไพร)ทำทุกอย่างเพื่อช่วยเขาอยู่ตรงนั้นนานกว่า10วัน จนฟื้นกำลังแข็งแรงรอดตายค่อยพาเขากลับฐานที่ตั้ง ถามไปว่า “ใครไปตามหลวงปู่มาช่วยล่ะ” “ไม่มีใคร,ท่านมาของท่านเอง” จะคิดให้เป็นเรื่องเหตุบังเอิญก็พอได้ แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น นี่จึงเป็นเหตุให้หาญเกิดความรักความผูกพันและเคารพในองค์หลวงปู่ตลอดมา ในที่สุดทั้งกองร้อยของหาญได้สมัครเข้าเป็นศิษย์ท่านทั้งหมด กลายเป็นกองร้อยหนังเหนียว รู้จักทั่วไปในหมู่ศัตรูว่ากองร้อยคอแดง ——————————————- ช่วงนี้ผมมีงานต้องทำ จะยุ่งอยู่กับงานสัก4-5วัน ระหว่างนี้ไม่สะดวกมาเล่าสักเท่าไหร่ แต่จะหาจังหวะมาเล่านิดเล่าหน่อยไปเรื่อยๆทุกวันแล้วแต่โอกาส อย่าเพิ่งวงแตกกันล่ะ ใครมีธุระส่วนตัวก็เชิญตามสบาย เสร็จแล้วมาล้อมวงกันต่อ เดี๋ยวก็มา ———————— เรื่องเล่าหลวงปู่พรหมา เขมจาโร: เขาชื่อหาญ (สุนา แก้ววิจิตร) ตอนที่3 January 12, 2017 Ampol Jane เอาล่ะจะเล่าเรื่องเขาชื่อหาญต่ออีกสักพัก ไม่อยากเล่าจนลึกเกินไป ไม่รู้ว่าจะกระทบกับอะไรที่มันเปราะบางกันมั่ง เหตุการณ์ต่อไปนี้เกี่ยวข้องกับวัดโพธิและวัดเวินไซ วัดสำเร็จลุน สมัยนั้นวัดโพธิเป็นที่ตั้งของกองทหารญวน หาญกับพวกไล่ตีทหารญวนจากด้านนอกวัดเวินไซที่หนีพลางสู้พลางไปเรื่อยๆ โดยหนีไปทางวัดโพธิ เขาเล่าว่ามีเรื่องแปลกเกี่ยวกับคนแก่ในหมู่บ้านเวินไซที่มีการปะทะกันคนหนึ่ง คนแก่คนนี้นั่งจักตอกอยู่บนแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน เขายิงกันวุ่นวายจนชาวบ้านแตกหนีหาที่หลบซ่อนกันหมด แกก็ไม่ลุกจากแคร่ไปที่ไหน หาญเล่าว่า “ผู้เฒ่านั่นไม่กลัวปืน เขายิงกันอยู่ต่อหน้าก็นั่งมองดูเฉย ทั้งยังคอยตะโกนบอกพวกข้อยอีกด้วยว่า นั่นญวนหลบอยู่ตรงนั้น อยู่ตรงนี้ พวกข้อยได้อาศัยแกชี้บอกเลยได้เปรียบ” “สงสัยจะมีของดี” ผมว่า “นั่นสิ แกน่าจะโดนปืนบ้างนะ” หลังจากนั้นญวนก็ถอยหนีเข้าไปในวัดโพธิกันหมด ลูกน้องหาญคว้าอาร์พีจีขึ้นเล็งยิงเข้าไปในวัด “แปลกนะ ลูกอาร์พีจีมันพุ่งเข้าใส่วัด แต่พอจะถึงมันเชิดหัวขึ้นฟ้า, ยิงไปสองลูกเป็นเหมือนกัน ข้อยเลยยิงเอง ก็เหมือนกันอีก ข้อยจึงบอกลูกน้องว่าหยุดยิง ให้ค่อยคืบเข้าตีทีละน้อย” ในที่สุดก็เข้าไปในเขตวัด ยิงไล่ทหารญวนวุ่นวายในนั้น “มีพระมาตะโกนบอกข้อยว่า เกล็ดโพธิๆ.. ข้อยก็งงว่าเกล็ดโพธิอิหยังล่ะหัวพ่อ พระก็บอกเก็บเอาๆ” หาญจึงวิ่งเข้าไปที่ต้นโพธิแกะเอาเปลือกโพธิใส่กระเป๋าเท่าที่จะเอาได้ ในที่สุดทหารญวนก็แตกพ่ายหนีออกจากวัดไปหมด ยึดวัดได้แล้วหาญก็กลับออกมา ปล่อยวัดไว้เหมือนเดิม ภายหลังจึงได้แจกเกล็ดโพธิให้ลูกน้องแบ่งกันจนครบ ส่วนหาญเองบอกว่าเขากินเข้าไปเลยไม่ได้พก ต่อมาได้พบหลวงปู่พรหมาที่ไหนสักแห่ง(ลืม)หลวงปู่ทักว่า “ลูกเอ๊ย เจ้าไปล่วงเกินครูบาอาจารย์พ่อแล่วเด้อ” หาญอธิบายว่าเขาไม่เคยรู้เรื่องวัดโพธิหรือวัดเวินไซว่ามีความสำคัญอย่างไร และไม่ได้บอกหลวงปู่ถึงเรื่องปะทะกับทหารญวนในวัด แต่หลวงปู่กลับทักท้วงแล้วตำหนิกล่าวโทษ จึงทราบว่าที่ต้นโพธินั้นคือที่เผาสังขารสำเร็จลุน และสำเร็จลุนคืออาจารย์ของหลวงปู่ หลายเดือนต่อมาหาญจึงมีโอกาสกลับไปขอขมาลาโทษที่ต้นโพธิ ในขณะที่หาญเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง ต้นโพธิเป็นความฝันของผมที่จะได้เห็นได้สัมผัส ยากมากที่จะทำฝันให้เป็นจริง ลาวในเวลานั้นยังปิดประตูบ้านเงียบ ไม่มีทางจะเข้าไปได้โดยง่าย มาสมประสงค์กันไม่กี่ปีนี้เอง นั่นก็หลังจากตอนนั้นผ่านไปแล้วเกือบ20ปี หาญเล่าไว้อีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นเหตุการณ์ระหว่างลาวกำลังจะแตก ตอนนั้น(ไม่รู้ตอนไหน)กองกำลังลาวแดงบุกประชิดนครเวียงจันทน์ จะถึงขนาดล้อมนครหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ว่ามีการยิงสู้กันอยู่แถวๆนอกนคร หลวงปู่พรหมาขณะนั้นพำนักอยู่วัดอะไรไม่ทราบ(ลืม) อยู่ค่อนมาทางเหนือหรือใต้นครก็จำไม่ได้ กองกำลังของหาญก็ไปรวมตัวอยู่ที่วัดหลวงปู่ “วัดอยู่ตรงกลาง ฝ่ายรัฐบาลก็ยิงข้ามวัดไป ฝ่ายโน้นก็ยิงข้ามมา บางทีกระสุนก็ตกใส่วัด ทั้งอาร์พีจีหรืออื่นๆ แต่ไม่ีแตกไม่ีระเบิด หลวงปู่ฉีกจีวรแจกทุกคน ไมมี่อะไรจะให้ วัดหลวงปู่กลายเป็นที่หลบภัยของผู้หลักผู้ใหญ่ฝ่ายรัฐบาล เป็นที่สำหรับหนีมาขึ้นฮ.เพื่อหลบภัยออกนอกประเทศด้วย” หลังจากนั้นไม่นานลาวก็แตกสนิท กองกำลังของหาญก็สลายตัวหนีภัย หลวงปู่ก็หายสาปสูญไปด้วย เวลาผ่านไปนานเดือนนับปีจึงทราบข่าวว่าหลวงปู่ข้ามมาฝั่งไทย ดูเหมือนว่าการมาถึงไทยครั้งแรกนั้นหลวงปู่จะเข้าพำนักที่วัดบุปผาวัน อ.โขงเจียม จ.อุบลฯ ปีสองห้าหนึ่งกว่า ไม่แน่ใจว่าจะเป็นปี2518หรือเปล่า มีการออกเหรียญรุ่นแรกที่นี่ด้วย ตามภาพ _________________________ วัดหลวงปู่พรหมาในปัจจุบัน ทางแดงๆที่เห็นว่าเชื่อมวัดกับหมู่บ้านคือทางรถยนต์ สมัยนั้นไม่มี มีแค่ทางเดินเท้า ประวัติหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร เป็นคนบ้านกุศกร ต.กุศกร อ.ตระการพืชผล เกิดเมื่อพ.ศ.2440 บวชเป็นสามเณรเมื่ออายุ12ปี จากนั้นได้ศึกษาพระธรรมวินัยและวิชากับสมเด็จลุน ที่เวินชัยนคร จำปาศักดิ์ นานถึง 6 พรรษา หลังจากที่สมเด็จลุนได้มรณภาพลง หลวงปู่พรหมมาก็ได้ร่วมเดินธุดงค์พร้อมกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลังจากนั้นคณะพระธุดงค์ก็แยกย้ายกันไปหาสถานที่อันสงบเงียบบำเพ็ญภาวนาหาวิเวกกันต่ อไป ส่วนหลวงปู่พรหมมาได้จำพรรษาที่ถ้ำแห่งหนึ่งบนยอดภูเขาควายนานถึง 45 พรรษา ต่อมาได้ธุดงค์ข้ามมายังฝั่งไทย เมื่อปีพ.ศ.2533 หลวงปู่พรหมมาได้เห็นว่าถ้ำสวนหิน ภูกระเจียว ในวันเดือนหงายจะมีสัตว์ป่านานาชนิดวิ่งกันขวักไขว่ จึงได้พักบำเพ็ญเพียรแต่นั้นมา ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จฯมานมัสการหลวงปู่พรหมมาถึง 2 ครั้ง โดยก่อนจะมรณภาพหลวงปู่ได้ดูแลชาวบ้านดงนาและใกล้เคียงเพื่อพัฒนาในบางส่วนให้เรียบร ้อยสวยงามโดยเน้นการรักษาป่าสงวนฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น