พอดีโพสกระทู้แรกเสร็จ ต้องไปทำกิจบางประการ เนื่อหาเลยไม่ต่อเนื่อง
โดยส่วนตัวแล้ว ชอบดูดวงนะครับ อาจติดมาจากบุเรงชาติก็ได้ อาตมาคิดว่าคงเคยเกิดเป็นพราหมณ์ในยุคใด ยุคหนึ่ง ไม่ต้องศึกษามากก็เข้าใจและสามารถพยากรณ์ได้บ้าง เรียนรู้ศาสตร์การพยากรณ์โดยข้อที่ว่าพระอรหันตสาวกองค์แรกของพระพุทธสาสนาเราก็เป็นพราหมณ์ผู้รู้ศาสตร์พยากรณ์ นั่นก็คือพระอัญญาโกณทัญญะ อันนี้คงไม่มีใครทักท้วงนะครับ พระอัญญาโกณทัญญะ และพราหมณาจารย์อีก 7 ท่าน ดูตามศาสตร์ของตน และได้ทำนายพยากรณ์เจ้าชายน้อยว่าจะได้เป็นพระมหาจักรพรรดิ์ และมีดวงออกบวชและจะเป็นศาสดาเอกของโลก ประการดประการหนึ่ง
เด็กทารกคนนั้น เกิดประหลาดที่สุดที่เคยมีมาในสมัยนั้น แม้ในสมัยนี้ก็จัดว่าประหลาด คือแม่ยืนคลอด เมื่อเกิดมาแล้วชำระล้างแล้วด้วยธารน้ำร้อน น้ำเย็นจากสรวงสวรรค์ ทารกมองไปในทุกทิศไม่เห็นมีใครเสมอท่านได้ ท่านลุกขึ้นย่างก้าวไป 7 ก้าว แล้วเปล่งวาจา พูดได้ เด็กพูดได้ และเป็นคำพูดที่ดังมาถึงปัจุบันนี้
สุดยอดของพราหมณาจารย์ทั้งหลาย 8 ท่าน มาฉันภัตตาหาร และทำนายทารก เจ้าชายน้อย เขาดูอะไรครับ ไม่มีบอกนะครับว่า พราหมณาจารย์เหล่านั้นมีฌาณ มีวิชชารู้กรรม เห็นอนาคต ก็ทราบได้ว่าเขาดูตามตำรามหาบุรุษ ประกอบด้วยอะไรบ้างวันเกิด - โหงวเฮ้ง - ดวงดาว หรืออะไรก็ตาม ภาพนี้มีคติ 2 อย่าง
1.) ถ้าทารกน้อย ไปในทางโลก เขาจะได้เป็นมหาจักรพรรดิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
2.) ถ้าเขาบวช จะได้เป็นมหาศาสดาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
นี้คือ ดวง ชะตา ของพระมหาโพธิสัตว์นะครับ ทำไมหมอดูชั้นครู ราชครู ยังอ่านไม่เหมือนกันเลยล่ะครับ
ถ้าทางธรรม ทางมติสวรรค์ ไม่มีคำว่าพระเจ้าจักรพรรดิ์หรอกครับ เชื่อไหม ไม่มีแน่นอน เพราะมีมติเดียวในสวรรค์ว่า สันดุสิตเทพบุตรโพธิสัตว์เจ้า จะมาอุบัติเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า และเหล่าสาวกทั้งหลายจะมาร่วมกันประกาศพระพุทธศาสนา อย่างเที่ยงแท้แน่นอน โกณทัญญะพราหมณ์ผู้นี้ ต้องเป็นพระสงฆ์รูปแรก และบรรลุพระอรหันต์รูปแรกแน่นอน อุปติสสะ และโกลิตะ ต้องมาเป็นอัครสาวกเบื้องขวา เบื้องซ้ายแน่นอน
อหิงสกะ ผู้เกิดมาในฤกษ์มหาโจร ตั้งชื่อแก้เคล็ด ว่าผู้ไม่เบียดเบียน แล้วนะ แก้ได้ไหม ยังเป็นโจรเหมือนเดิมครับ แต่ละความเป็นโจรได้ไหม ละได้เป็นพระอรหันต์เลย ถามว่าความเป็นพระอรหันต์ในชาตินี้เคลื่อนได้ไหม เคลื่อนได้แน่ ๆ ถ้าไม่ได้รับความเอื้อเฟื้อจากพระพุทธเจ้า มาห้ามท่านไว้ ไม่ให้ทำอนันตริยกรรมฆ่าแม่ตัวเอง
ภาพที่ยกมานี้ มีอะไรน่าสังเกตบ้างครับ
1.) บางอย่างต้องเกิดขึ้นแน่ แต่ไม่ปรากฏใน ลักษณะที่สามารถสังเกตได้ทางโหราศาสตร์
2.) บางอย่างเกิดขึ้นตามลักษณะที่สามารถสังเกตได้ทางโหราศาสตร์ แต่แก้ไขได้ และไม่เป็นไปตามด้วงอย่างนั้น
3.) ลักษณะที่สามารถสังเกตได้ทางโหราศาสตร์ บางอย่างเกิดจริง บางอย่างไม่เกิดอะไรเลย หรือเกิดน้อยกว่าที่น่าจะเป็น
อาตมาสรุปว่า....
ที่สุดอยู่ที่ เรา หนึ่งสมอง สองมือ เราเกิดดาวอาภัพ ก็สามารถฝ่าฟันปัญหาทุกอย่างได้ สร้างตนได้ด้วยวิบากใหม่ได้
ตัวเราในชาติก่อน ขีดดวงเรามาอย่างไร สร้างวิบากไว้อย่างไร เราก็จะเริ่มต้นด้วยทุนเท่านั้นที่มีให้ ที่เราเองสร้างสม สั่งสมไว้
คนจน คนป่วย คนลำบาก ยาจก ขอทาน โสเภณี ไปพระนิพพานมากมาย ในพุทธประวัติ
ราชา กษัตริย์ อำมาตย์ ครู อาจารย์ เศรษฐี ไปนรกเยอะแยะ
รวยแล้วติดวัฏฏะ กับป่วยแล้วเบื่อสังขาร เห็นทุกข์แท้จริง เห็นอริยสัจ นิโรธดับทุกข์ได้ อันไหนดีกว่ากัน
ดังนั้นหากจะพูดถึงดวง ขอจงสร้างดวง ชะตาของตนเอง
ด้วยบารมีทั้ง 10 ประการ ทั้งขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นสูงสุด
ช่วงที่อาตมาดวงตกที่สุดในทางตัวเลขทางโหราศาสตร์ เป็นวาระที่อาตมาได้เข้ามาสู่ผ้ากาสาวพัสตร์อย่างเต็มตัว ช่วงที่ดีที่สุดในทางโหราศาสตร์ กลับกาลเป็นช่วงที่วุ่นวายไปด้วยคน งาน ภาระ ไม่สงบเลย เงินเยอะ คนชมเยอะ ลาภสักการะมาเยอะ นี้มันเหยื่อของมารชัด ๆ
ขอท่านผู้ใดที่ได้อ่านจงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด ในทุกข์มีสุข ในสุขก็มีทุกข์ แล้วมันก็จะผ่านพ้นไปครับ
กิเลสก็เป็นอนิจจัง ไม่มีใครโลภ โกรธ หลงได้ทั้งชาติ โกรธมาก ท้องเสียปวดอุจจาระแค่นี้ ความโกรธก็หายแล้ว ห้องน้ำสำคัญกว่า วิบากกรรมที่ขีด เขียนมาเป็นตัวเรา ปรุงแต่งมาเป็นตัวเรามันก็กฏแห่งกรรมที่กำลังแสดงผล ขอเราเป็นเพียงผู้รู้ ผู้ดู ก็พอแล้ว พระทุกขัง กำลังอนิจจัง และจะอนัตตาในที่สุดครับ
บุคคลผู้หมกมุ่นเรื่องดวง โชค ชะตา คือบุคคลผู้หมกมุ่นอยู่ในโลกธรรม 8
บุคคลผู้ทำสิ่งใดไม่รู้จักกาละเทศะ เวลาอันควรไม่ควร ก็ไม่จัดเป็นสัตตบุรุษ
ฤกษ์ดี ฤกษ์ทำการมงคล คือฤกษ์ที่มนุษย์ เทวดา มัศรัทธา มีบุญ ว่างพร้อม ๆ กันในช่วงนั้น ๆ ส่วนใหญ่ก่อน หรือหลังวันพระ อันนี้เหมาะแก่โยมที่ต้องการความช่วยเหลือจากท่านที่ล่วงลับไปแล้ว หรือประกาศงานบุญ โครงการอันเป็นกุศล คนว่าง เทวดาว่าง หล่อพระ สร้างสถานปฏิบัติธรรม งานเกี่ยวกับพระศาสนาจึงมักเลือกใช้วันประเภทนี้ เพื่อให้เทวดาไม่ติดไปฟังธรรมที่ไหน หรือมีกิจการไหน ๆ จะได้ว่างมาที่นี่เยอะ ๆ ทั้งมนุษย์ และจิตวิญญาณ
เรื่องอื่นไม่ทราบครับ รู้มาเท่านี้ว่าจะเลือกฤกษ์ดียังไง ในการทำงานที่จะได้บุญเยอะๆ แก่คนอื่น
มาลองใช้ อนาคตังสญาณกันดูนะครับว่า ชาติหน้าดวงเราจะเป็นอย่างไร ?
บุญ กับ บาป ชาตินี้ทำอะไรมากกว่ากัน....
..............บาปมากกว่า ชาติหน้า ภพหน้า ต้องทุกข์มากกว่าสุขแน่นอน
..............บุญมากกว่า ชาติหน้า ภพหน้า ต้องสุขมากกว่า ทุกข์แน่นอน
เคยฆ่าสัตว์ไหม มากไหม.....
..............เคยบ่อย ๆ สนุกชอบใจในการฆ่า ชาติหน้าจะได้รับทุกข์ทางร่างกาย หากไม่มีบุญค้ำอาจถูฏฆ่า หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้
..............เคยอุบัติเหตุ ไม่จงใจนัก ชาติหน้าอาจรับความทรมานร่างกายพอประมาณ
..............เคยทรมานสัตว์ ต้องเจ็บป่วย ทรมานทางร่างกายบางประการ แน่นอนอาจจากโรคภัยไข้เจ็บ หรือ อุบัติเหตุ
เคยลักทรัพย์ไหม.....
..............เคย สนุก ตั้งใจทำ ชาติหน้าข้าวของเราต้องโดนลัก ขโมย หรือเสียหายแน่นอน
เคยผิดสีลข้อ 3 ไหม.....
..............เคย ลูกเขา ชาติหน้า ลูกเรามักจะถูกระเมิดทางเพศ(อันนีมักจะเกิดแบบทันเห็นชาตินี้)
..............เคย ผัว เมีย เขา ชาติหน้า เราต้องถูกแย้งด้วย รักใคร เขารักเราไม่จริง คนในปกครองไม่เชื่อถือ พูดไม่ฟัง
นี้เกิดแน่ ๆ ไม่ว่าหลังความตายเราจะผ่านนรก หรือขึ้นสวรรค์ หรือพรหมโลก ลงมาจุติเป็นมนุษย์ เจอแน่ ๆ บางอย่างเป็นชนกกรรม นำให้ไปเกิดในที่อันสมควรแก่กรรมที่เราเคยทำไว้ ขอให้เข้าใจให้ดีว่า ไม่มีโชคดี โชคร้าย ชีวิตเราไม่ได้เกิดจากโชค ทุกอย่างสมควรแก่กรรมที่เราเคยทำไว้ทั้งสิ้น.....
อย่าโทษฟ้า ดิน อย่าโทษพระพรหม เพราะเขาเป็นผู้มีเมตตา ไม่ลิขิตชีวิตใคร ๆ ให้บัดซบได้หรอกนะครับ ถ้าพรหม หรือพระเจ้าเขียนชีวิตเราจริง คงทำให้เรารวยทุกคน เป็นคนดีทุกคน ไม่มีศัตรู ไม่มีคนโง่ คนเลว แต่นี่พรหมไม่ได้เขียน พระเจ้าไม่ได้ลิขิต ต้องยิ้มรับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ เพราะไม่ใช่ใครทำ กรรมของเรา เราทำเอง ต้องรับเองครับ
"สมควรแก่กรรมที่ทำมา" ถูกแล้ว ชอบแล้วที่เป็นเช่นนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น