ดีแล้วที่เติ้ลมาทางธรรมแบบนี้ คนแบบนี้ตกต่ำยาก เทวดาเขาฮู้เมิ๊ด มนุษย์แต่ละคนเป็นจังใดทางใจ เขาฮู้เมิ๊ด ผู้ใดมีธรรมแบบนี้เขาแฮงมักอยากต่อยอดส่งเข้าไปทางธรรม ให้ฮู้แจ้งอายตนะภายนอกและอายตนะภายในชัดกว่าเก่า สาธุโมทนานำ..
โผฏฐัพพะ คือหยังติ?
ลองเอามือซ้ายจับ,แตะ,ต้อง,ถูก,กระทบ อันใด๋กะใด ที่มือข้างขาวเบิ่ง
นั่นละภาษาพระพุทธเจ้าเอิ่นว่า "โผฏฐัพพะ" แปลเป็นไทยว่า สิ่งสัมผัสถูกต้องทางกาย
ถ้าตามตำรา เพิลว่า โผฏฐัพพะ คือ เย็น ร้อน อ่อน แขง
:เย็น คือจังเอาก้อนน้ำแข็งมาถืกแขน
:ร้อน คือจังเอาโทรศัพท์กำลังฮ้อนๆย้อนเฮาเล่น เอามาถืก
:อ่อน คือจั่งเฮามือไปถือไปถืกหน้าท้องอันนุ่มๆ
:แข็ง คือจังเฮามือไปถือลูกบิดประตู
เป็นต้น
(วิญญาณ ,ใจ , ธรรมารมณ์)
สิสมุติอุปมาให้ฟังเด้อ
*วิญญาณ เปรียบเสมือนตาใน(บ่แมนตาเนื้อเด๊ะ) ตาในนี้มีหน้าที่เดียวคือเห็น
*ใจ
เปรียบเสมือน ประตู
*ธรรมารมณ์
เปรียบเสมือน เรื่องราวต่างๆที่อยู่ภายนอกประตู คือจังลมซะ
วิญญาณ ถ้าไปฮู้ธรรมารมณ์ที่เป็นทุกข์
ถ้าเว้าในทางขันธ์๕
กะคือ วิญญาณ เคลื่อนออกไปฮู้ เวทนาขันธ์(ที่เป็นทุกข์)
วิญญาณ ถ้าไปฮู้ธรรมารมณ์ที่เป็นสุข
ถ้าเว้าในทางขันธ์๕
กะคือ วิณญาณ เคลื่อนออกไปฮู้เวทนาขันธ์(ที่เป็นสุข)
#ให้ฮู้สุขฮู้ทุกข์ซะกอนเด้อ
ตามนี่ละ"เวทนานุปัสนาสติปัฏฐาน"
"กิเลสทั้งหลายทั้งปวง พระพุทธเจ้าเว้าย่อให้เหลืออยู่ ๓ ตัว
๑ ราคะ กะคือ การที่เข้าไปยินดีกับ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส
๒ โทสะ การที่เข้าซังบ่พอใจ ในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส
ถ้าจิตมีมีราคะ กะให้ฮู้ราคะ
ถ้าจิตมีโทสะเกิด กะให้ฮู้โทสะ
สิเห็น ราคะ กับ โทสะ บ่เที่ยง คอยหายไป
๓ โมหะ กะคืออาการขาดสติไหลไปกับธรรมารมณ์ บ่เป็นผู้รู้ผู้ดู ธรรมารมณ์
บ่เป็นผู้รู้ผู้ดูราคะ
บ่เป็นผู้รู้ผู้ดูโทสะ
แต่มัวไหลจมไปกับราคะจมไปกับโทสะ
#หลวงตาวัดเก่าบอ บอกว่า
ถ้ามีสติเกิดขึ้นมา มันสิไปทำลายโมหะเองอัตโนมัติ
แต่บ่ทำลายขาดเมิ๊ดเด๊ะ
แต่สิคอยทำลายคึจังรองเท้าคอยสึกไปๆย้อนเดินดู๋ ถืกพื้นถนน
ถ้ารองเท้าสึกไปจนเมิ๊ด
กะคือกะคือโมหะเมิ๊ดอวิชชากะเมิ๊ดตาม
นั่นละจบกิจสำเร็จหลุดพ้นแล้ว
ดีแล้วที่เติ้ลมาทางธรรมแบบนี้ คนแบบนี้ตกต่ำยาก เทวดาเขารู้หมด มนุษย์แต่ละคนเป็นยังไงทางใจ เขารู้หมด ผู้ใดมีธรรมแบบนี้เขายิ่งชอบอยากต่อยอดส่งเข้าไปทางธรรม ให้รู้แจ้งอายตนะภายนอกและอายตนะภายในชัดกว่าเก่า สาธุโมทนาด้วย..
โผฏฐัพพะ คืออะไรน่ะเหรอ?
ลองเอามือซ้ายจับ,แตะ,ต้อง,ถูก,กระทบ อะไรก็ได้ ใช้มือข้างขวาดู
นั่นละภาษาพระพุทธเจ้าเรียกว่า "โผฏฐัพพะ" แปลเป็นไทยว่า สิ่งสัมผัสถูกต้องทางกาย
ถ้าตามตำรา ท่านว่า โผฏฐัพพะ คือ เย็น ร้อน อ่อน แขง
:เย็น คือเช่นเรา เอาก้อนน้ำแข็งมาถูกแขน
:ร้อน คือเอาโทรศัพท์กำลังร้อนๆเพราะเราเล่น เอามาโดน
:อ่อน คืออย่างเช่นเรามือไปถูกหน้าท้องอันนุ่มๆ
:แข็ง คืออย่างเช่นเรามือไปถูกลูกบิดประตู
เป็นต้น
(วิญญาณ ,ใจ , ธรรมารมณ์) จะสมมุติอุปมาให้ฟังน่ะ
*วิญญาณ เปรียบเสมือนตาใน(ไม่ใช่ตาเนื้อน่ะ) ตาในนี้มีหน้าที่เดียวคือเห็น
*ใจ
เปรียบเสมือน ประตู
*ธรรมารมณ์
เปรียบเสมือน เรื่องราวต่างๆที่อยู่ภายนอกประตู คืออย่างเช่นเป็นลมพัด
วิญญาณ ถ้าไปรู้ธรรมารมณ์ที่เป็นทุกข์
ถ้าพูดในทางขันธ์๕
ก็คือ วิญญาณ เคลื่อนออกไปรู้ เวทนาขันธ์(ที่เป็นทุกข์)
วิญญาณ ถ้าไปรู้ธรรมารมณ์ที่เป็นสุข
ถ้าพูดในทางขันธ์๕
ก็คือ วิณญาณ เคลื่อนออกไปรู้เวทนาขันธ์(ที่เป็นสุข)
#ให้รู้สุขรู้ทุกข์ซะก่อนน่ะ
ตามนี่ละ"เวทนานุปัสนาสติปัฏฐาน"
"กิเลสทั้งหลายทั้งปวง พระพุทธเจ้าพูดย่อให้เหลืออยู่ ๓ ตัว
๑ ราคะ ก็คือ การที่เข้าไปยินดีกับ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส
๒ โทสะ การที่เข้าชังไม่พอใจ ในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส
ถ้าจิตมีมีราคะ ก็ให้รู้ราคะ
ถ้าจิตมีโทสะเกิด ก็ให้รู้โทสะ
จะเห็น ราคะ กับ โทสะ ไม่เที่ยง ค่อยหายไปเรื่อยๆ
๓ โมหะ ก็คืออาการขาดสติไหลไปกับธรรมารมณ์ ไม่เป็นผู้รู้ผู้ดู ธรรมารมณ์
ไม่เป็นผู้รู้ผู้ดูราคะ
ไม่่เป็นผู้รู้ผู้ดูโทสะ
แต่มัวไหลจมไปกับราคะจมไปกับโทสะ
#หลวงตาวัดเก่าบอ บอกว่า
ถ้ามีสติเกิดขึ้นมา มันจะไปทำลายโมหะเองอัตโนมัติ
แต่ไม่ทำลายขาดหมดน่ะ
แต่จะค่อยๆทำลาย เปรียบเหมือนอย่างเช่นรองเท้าค่อยๆสึกหรอไปๆเพราะการเดิน บ่อยถูกพื้นถนน
ถ้ารองเท้าสึกหรอไปจนหมด
ก็คือโมหะหมดอวิชชาก็หมดตาม
นั่นละจบกิจสำเร็จหลุดพ้นแล้ว
good This kind of person is hard to fall into. He knows all How each human being is mentally, he knows it all. Whoever has this kind of Dharma, the more he likes to extend it to the Dharma. to enlighten the outer senses and the inner senses more clearly than before Congratulations too..
What is a dart?
Try grabbing, touching, hitting, hitting, hitting anything with your right hand.
That is, in the language of Buddha, it is called "Photatpha", which translates into Thai as physical contact
According to the textbooks, thottappa is cold, hot, weak and strong.
:Cool, like us, put an ice cube on your arm.
:Hot, because the phone is hot because we play, hit it
:Soft, i.e. we put our hands on the soft belly.
:Hard, is like our hands touching the doorknob.
etc.
(spirit, mind, dharma) will assume a parable to listen to.
*Soul is like the inner eye (not the physical eye), the eye in this one has only one function: to see.
*heart
like a door
*Dharma
It's like a story outside the door. is like a wind blowing
Spirit, if you go to know the dharma that is suffering
If speaking in the 5th aggregates
is that the spirit moves out to know suffering (suffering)
Spirit, if you go to know a happy Dharma
If speaking in the 5th aggregates
That is, Vinyana moves out to know the feeling of feeling (which is happiness).
#Let you know happiness and suffering first.
Follow this "Vedananupassana Satipatthana"
"All defilements The Buddha abbreviated the remaining three figures.
1 Raga is the pleasure of sight, sound, smell, taste, and touch.
2 hatred, displeasure in form, sound, smell, taste, touch
If the mind has sensuality, let it know it.
If the mind is born with hatred, let it know it.
You will see the lust and hatred gradually disappear.
3 Moha is the lack of consciousness flowing with dharmas. Not a person who knows, sees, morals
Not a person who sees sensuality
not knowing who sees wrath
but drowning in lust, sinking with wrath
#Luang Ta Wat Kao Bo said that
If consciousness arises It will automatically destroy the rulers.
but not completely destroyed
but will gradually destroy It's like, for example, shoes gradually wear out because of walking. often hit the road
If the shoes are completely worn out
that is, all ignorance is gone
That's the end of the successful mission.
好的 這種人很難落入。 他什麼都知道 每個人的心理如何,他都知道,誰有這種佛法,他越喜歡把它延伸到佛法上。 比以前更清楚地啟發外部感官和內部感官 也恭喜。。
什麼是飛鏢?
嘗試用右手抓住、觸摸、擊打、擊打、擊打任何東西。
也就是說,在佛陀的語言中,它被稱為“Photatpha”,翻譯成泰語為 身體接觸
根據教科書,thottappa 是冷、熱、弱和強。
:酷,像我們一樣,在你的手臂上放一塊冰塊。
:熱,因為手機很熱,因為我們玩和打它
:柔軟,即我們將手放在柔軟的腹部。
: 硬,就像我們的手觸摸門把手。
等等
(精神,思想,佛法)將假設一個比喻來聽。
*靈魂就像內眼(不是肉眼)。
*心
像一扇門
*法
就像門外的故事。 就像一陣風吹過
精神,如果你去了解受苦的佛法
如果在第五蘊中說話
是精神走出去知道 受苦(受苦)
精神,如果你去了解快樂的佛法
如果在第五蘊中說話
也就是說,毘尼那移出去了解感受的感覺(即快樂)。
#先讓你知道快樂和痛苦。
跟隨這個“Vedananupassana Satipatthana”
“所有的煩惱 佛陀將其餘三個數字縮寫。
1 Raga 是視覺、聽覺、嗅覺、味覺和触覺的愉悅。
2 嗔恨,色、聲、香、味、觸的不悅
如果心有欲,讓它知道它。
如果心生起嗔恨,讓它知道。
你會看到慾望和仇恨逐漸消失。
3 Moha 是缺乏隨法流轉的意識。 不是一個知道,看到,道德的人
不是一個看到肉慾的人
不知道誰看到了憤怒
但沉溺於情慾,沉淪於憤怒
#Luang Ta Wat Kao Bo 說
如果意識生起 它會自動摧毀統治者本身。
但沒有完全摧毀。
但會逐漸摧毀 比如說,鞋子會因為走路而逐漸磨損。 經常上路
如果鞋子完全磨損
也就是說,所有的無知都消失了
這就是成功任務的結束。
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น