วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2565

มีศีล ๒๒๗มีหิริ โอตับปะมีกุศลกรรมบทสิบ กายสะอาด วจีสะอาด มโนสะอาดเลี้ยงชีพที่ถูกทาง ไม่ขโมยกิน ไม่กินของที่เป็นภัยต่อร่างกายไม่ยกตน ข่มผู้อื่นสำรวมอินทรี ๖ สุขไม่กำหนัด ทุกข์ไม่ขัดเคียงบริโภคอาหารเพื่อปรารภความเพียร ไม่ฉันเพื่อตกแต่ง เล่นเป็นผู้ตื่นอยู่ไม่ง่วง เดินจรงกลม สลับนั้งสมาธิ ไปจนถึงปฐมยาม ๔ทุ่ม) แล้วนอนอย่างมีสติพร้อมจะลุก เมื่อถึงมัฌชิมยา ตี๒)เมื่อลุกแล้วทำจิตให้ตื่นหายง่วงนอนด้วยการปรารภความเพียรจรงกลมสลับนั้งสมาธิ จนถึง ปัจฉิมยามสว่าง)มีสติในการคู่ ในการก้าว ในการถอย ในการดื่ม ในการนั้ง ในการปัจสาวะ ในการอุจระ ในการเลียว ในการครองผ้า ในการเดิน ในการลิ้มรส ทำความรู้สึกตัวในการ เดินบิฑบาติเมื่อกลับจากบิฑบาติแล้วให้มีสติในการ เคี้ยวการฉัน การลิ้มรส การยก การกลืน การเคลื่อนไหวในการเดิน ในการพูด ในการเดินในการล้างบาติ ในการเข้าห้องนำในการจงกลมให้วิเวกอยู่แต่เพียงผู้เดียว ตามป่า ป่าช้า ป่าชัต ซอกเขา ล้อมฟาง โคนไม ในกะฏีนั่งสมาธิ ละพยาบาต ละนิวรร๕ มีจิตตั้งมั่นเป็นอารมณ์อันเดียว บำเพ็ญทำฌาน

มีศีล  ๒๒๗

มีหิริ โอตับปะ

มีกุศลกรรมบทสิบ 
กายสะอาด วจีสะอาด มโนสะอาด

เลี้ยงชีพที่ถูกทาง ไม่ขโมยกิน ไม่กินของที่เป็นภัยต่อร่างกาย
ไม่ยกตน ข่มผู้อื่น

สำรวมอินทรี ๖ 
สุขไม่กำหนัด ทุกข์ไม่ขัดเคียง

บริโภคอาหารเพื่อปรารภความเพียร ไม่ฉันเพื่อตกแต่ง เล่น

เป็นผู้ตื่นอยู่ไม่ง่วง เดินจรงกลม สลับนั้งสมาธิ ไปจนถึงปฐมยาม ๔ทุ่ม)

 แล้วนอนอย่างมีสติพร้อมจะลุก เมื่อถึง
มัฌชิมยา ตี๒)

เมื่อลุกแล้วทำจิตให้ตื่นหายง่วงนอน
ด้วยการปรารภความเพียร
จรงกลมสลับนั้งสมาธิ จนถึง ปัจฉิมยาม
สว่าง)

มีสติในการคู่ ในการก้าว ในการถอย ในการดื่ม ในการนั้ง ในการปัจสาวะ ในการอุจระ ในการเลียว ในการครองผ้า ในการเดิน ในการลิ้มรส ทำความรู้สึกตัวในการ เดินบิฑบาติ

เมื่อกลับจากบิฑบาติแล้ว
ให้มีสติในการ เคี้ยวการฉัน การลิ้มรส การยก การกลืน การเคลื่อนไหว

ในการเดิน ในการพูด ในการเดินในการล้างบาติ ในการเข้าห้องนำ
ในการจงกลม

ให้วิเวกอยู่แต่เพียงผู้เดียว ตามป่า ป่าช้า ป่าชัต ซอกเขา ล้อมฟาง โคนไม ในกะฏี
นั่งสมาธิ ละพยาบาต ละนิวรร๕ มีจิตตั้งมั่นเป็นอารมณ์อันเดียว บำเพ็ญทำฌาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น