จิตในปัจจุบันเป็นใหญ่กว่าจิตในอดีตเป็นใหญ่กว่าจิตในอนาคตจิตดวงในอดีตเป็นจิตที่หลง ปรุงกิเลสขึ้นมาครอบตนแต่เมื่อมีสติรู้ขึ้นมาในปัจจุบันว่า จิตดวงที่แล้ว มันหลงปรุงกิเลสมาครอบตนกลายเป็นว่าจิตดวงปัจจุบัน ไม่รับกระแสภาวะที่จิตดวงเก่าส่งต่อให้จิตดวงใหม่สืบต่อแต่ว่าการไม่รับนั้นก็คือ ก็คือต้องมีสติแก้กล้ามากจึงละกระแสอารมณ์ที่จิตดวงเก่าโยนหรือถ่ายโอนมาให้หรือมองอีกมุมหนึ่งก็คือ จิตดวงที่เป็นอดีตดับพร้อมไปกับอารมณ์แล้ว แต่เนื่องด้วย อนุสัยความเคยชินจึงไปถือเอาอารมณ์จากที่เกิดที่ดับไปแล้วมาถือเอามายึดเป็นตนเพราะอะไร เพราะจิตดวงที่แล้วมันหลงจิตดวงใหม่มันก็เลยหลงตาม ความหลงสืบต่อกันแต่เมื่อเราพยายามภาวนาสัมมามรรค จิตดวงในปัจจุบันจะไม่หลงเหมือนจิตในอดีต แต่จะเริ่มมีสัมมามรรคเกิดขึ้น และสืบต่อถ่ายโอนไปให้ จิตดวงที่จะเกิดในอนาคตหรือถ้ามองในแง่มุมอนุสัยก็คือจิตดวงเก่าเคยถืออารมณ์อย่างไรจิตดวงใหม่ก็ถือตามเป็นไปแบบนี้เรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆขัดกับสิ่งที่ถูกรู้ กับผู้รู้ไหมรูป เวทนา สัญญา สังขารวิญญาณเป็นผู้เวียนรู้ไม่ขัดแย้งกันจิตดวงที่รู้สึกถึงกายก็ม#จิตดวงที่รู้อารมณ์ก็มี#จิตดวงที่หลงไปกับสิ่งที่ถูกรู้ก็มี#จิตดวงที่คิดก็มีรวมความแล้วก็คือขันธ์ ๕@ฝาก อย่าไปหลงกับปรัชญามากหลายเด้อ ออกจากภพที่ห้อยคอบ่อได้เด๊ะสำคัญที่ว่า สังขาร บ่เที่ยง(สิ่งที่นึกที่คิด พิมพ์ธรรมะอยู่นี้มันคือสังขาร)

จิตในปัจจุบันเป็นใหญ่กว่าจิตในอดีต

เป็นใหญ่กว่าจิตในอนาคต

จิตดวงในอดีตเป็นจิตที่หลง ปรุงกิเลสขึ้นมาครอบตน

แต่เมื่อมีสติรู้ขึ้นมาในปัจจุบัน

ว่า จิตดวงที่แล้ว มันหลงปรุงกิเลสมาครอบตน

กลายเป็นว่าจิตดวงปัจจุบัน ไม่รับกระแสภาวะที่จิตดวงเก่าส่งต่อให้จิตดวงใหม่สืบต่อ

แต่ว่าการไม่รับนั้นก็คือ ก็คือต้องมีสติแก้กล้ามาก

จึงละกระแสอารมณ์ที่จิตดวงเก่าโยนหรือถ่ายโอนมาให้

หรือมองอีกมุมหนึ่งก็คือ จิตดวงที่เป็นอดีตดับพร้อมไปกับอารมณ์แล้ว แต่เนื่องด้วย อนุสัยความเคยชิน

จึงไปถือเอาอารมณ์จากที่เกิดที่ดับไปแล้ว

มาถือเอามายึดเป็นตน

เพราะอะไร เพราะจิตดวงที่แล้วมันหลง

จิตดวงใหม่มันก็เลยหลงตาม ความหลงสืบต่อกัน

แต่เมื่อเราพยายามภาวนาสัมมามรรค จิตดวงในปัจจุบันจะไม่หลงเหมือนจิตในอดีต แต่จะเริ่มมีสัมมามรรคเกิดขึ้น และสืบต่อถ่ายโอนไปให้ จิตดวงที่จะเกิดในอนาคต

หรือถ้ามองในแง่มุมอนุสัย

ก็คือจิตดวงเก่าเคยถืออารมณ์อย่างไร

จิตดวงใหม่ก็ถือตาม

เป็นไปแบบนี้เรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ

ขัดกับสิ่งที่ถูกรู้ กับผู้รู้ไหม

รูป เวทนา สัญญา สังขาร

วิญญาณเป็นผู้เวียนรู้

ไม่ขัดแย้งกัน

จิตดวงที่รู้สึกถึงกายก็ม

#จิตดวงที่รู้อารมณ์ก็มี

#จิตดวงที่หลงไปกับสิ่งที่ถูกรู้ก็มี

#จิตดวงที่คิดก็มี

รวมความแล้วก็คือขันธ์ ๕

@ฝาก อย่าไปหลงกับปรัชญามากหลายเด้อ ออกจากภพที่ห้อยคอบ่อได้เด๊ะ

สำคัญที่ว่า สังขาร บ่เที่ยง

(สิ่งที่นึกที่คิด พิมพ์ธรรมะอยู่นี้มันคือสังขาร)