สัตว์เล็กๆแมลงตัวเล็กๆ บินตกลงไปในโถขี้ แล้วมันขึ้นไปได้
เราก็ใช้นิ้วมือช้อนมันขึ้นมา แล้วเอาไปปล่อยข้างนอกห้องน้ำให้มันเป็นอิสระ
ขึ้นชื่อว่า เจตนาจะฆ่าเบียดเบียนสัตว์
นั้นไม่มี แม้แต่ยู้งมากินเลือดเราก็ไม่ตบ แต่เราจะเป่ามันออก หรือไล่มัน
แม้แต่ถูพื้นศาลา กำลังถูไปเจอมดตัวเดียว
เราก็ต้องหยุด แล้วยกไม้ถูพื่นข้ามไป แล้วถูต่อ เราไม่ฆ่า
ขึ้นชื่อว่าใยแมงมุม เวลาทำความสะห้อง
เราก็ไม่คิดว่าจะเอาชีวิตมัน แม้แต่รังของมันเราก็ไม่อยากพัง
(ถึงวินัยพระ จะบอกว่าสามารถทำได้)
เราก็ไม่อยากพังบ้านของมัน
ไฉนละ ขึ้นชื่อว่าเจตนาจะเบียดเบียนเพื่อนมนุษย์
ให้เขาทุกข์ใจทรมาณใจ นั้นไม่มี
#ถ้าคนเห็นการกระทำของเรา แล้วบอกว่า จิตใจพระรูปนี้ชอบทำเรื่องเบียดเบียนคนอื่นนัก"
แล้วเรามารู้ทีหลังว่า "เอ่อ..มีคนทุกข์ใจเสียใจเพราะการกระทำของเราด้วยรึนี่.. ทั้งที่เราไม่ได้มีเจตนาจะให้เขาทุกข์ใจเสียใจ"
จากนั้นเราจะสำนึกเร็วมาก..ทันทีเลย
ทั้งๆที่สิ่งเราทำไปนั้น เราคิดว่าเราทำถูกแล้ว "ไม่ได้มีเจตนาจะเบียดเบียนใครเลย"
"แต่มันไปเบียดเบียนโดยบอได้เจตนา"
ถ้าเราได้รู้ว่าเป็นการเบียดเบียนคนอื่นทั้งที่ไม่ได้เจตนาเลย"
ใจเรามันจะเศร้าหมองมีทุกข์อยู่ครู่หนึ่ง...
(มันคือใจสำนึกผิด ที่ไปเบียดเบียนโดยไม่เจตนา)
จากนั้นใจเศร้าหมองจะหายไป
กลายเป็นใจปกติที่เบา คือใจที่ไม่มีทุกข์เหมือนเมื่อกี้นี้
ไม่ต้องมีใครมาบอกดีๆ
หรือมาด่าว่าแรงๆ เราก็สำนึกแล้ว เพียงแค่เรารู้ว่าไปเบียดเบียนใครเข้า
#การสำนึกผิด ไม่ควรให้ใจเศร้าหมองไปด้วย"
แต่ควรให้ใจมันสำนึกผิดจริงๆ
การสำนึกผิดจริงๆ
มันคือ "หิริ" เป็นคุณธรรมของผู้ที่จะเป็นเทวดา"
ี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น