วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2565

สัตว์เล็กๆแมลงตัวเล็กๆ บินตกลงไปในโถขี้ แล้วมันขึ้นไปได้เราก็ใช้นิ้วมือช้อนมันขึ้นมา แล้วเอาไปปล่อยข้างนอกห้องน้ำให้มันเป็นอิสระ

สัตว์เล็กๆแมลงตัวเล็กๆ บินตกลงไปในโถขี้ แล้วมันขึ้นไปได้
เราก็ใช้นิ้วมือช้อนมันขึ้นมา แล้วเอาไปปล่อยข้างนอกห้องน้ำให้มันเป็นอิสระ

ขึ้นชื่อว่า เจตนาจะฆ่าเบียดเบียนสัตว์
นั้นไม่มี แม้แต่ยู้งมากินเลือดเราก็ไม่ตบ แต่เราจะเป่ามันออก หรือไล่มัน

แม้แต่ถูพื้นศาลา กำลังถูไปเจอมดตัวเดียว
เราก็ต้องหยุด แล้วยกไม้ถูพื่นข้ามไป แล้วถูต่อ เราไม่ฆ่า

ขึ้นชื่อว่าใยแมงมุม เวลาทำความสะห้อง
เราก็ไม่คิดว่าจะเอาชีวิตมัน แม้แต่รังของมันเราก็ไม่อยากพัง
(ถึงวินัยพระ จะบอกว่าสามารถทำได้)
เราก็ไม่อยากพังบ้านของมัน


ไฉนละ ขึ้นชื่อว่าเจตนาจะเบียดเบียนเพื่อนมนุษย์
ให้เขาทุกข์ใจทรมาณใจ นั้นไม่มี


#ถ้าคนเห็นการกระทำของเรา แล้วบอกว่า จิตใจพระรูปนี้ชอบทำเรื่องเบียดเบียนคนอื่นนัก" 

แล้วเรามารู้ทีหลังว่า "เอ่อ..มีคนทุกข์ใจเสียใจเพราะการกระทำของเราด้วยรึนี่.. ทั้งที่เราไม่ได้มีเจตนาจะให้เขาทุกข์ใจเสียใจ"


จากนั้นเราจะสำนึกเร็วมาก..ทันทีเลย 
ทั้งๆที่สิ่งเราทำไปนั้น เราคิดว่าเราทำถูกแล้ว "ไม่ได้มีเจตนาจะเบียดเบียนใครเลย"


 "แต่มันไปเบียดเบียนโดยบอได้เจตนา"

ถ้าเราได้รู้ว่าเป็นการเบียดเบียนคนอื่นทั้งที่ไม่ได้เจตนาเลย"
 ใจเรามันจะเศร้าหมองมีทุกข์อยู่ครู่หนึ่ง... 
(มันคือใจสำนึกผิด ที่ไปเบียดเบียนโดยไม่เจตนา)

จากนั้นใจเศร้าหมองจะหายไป
กลายเป็นใจปกติที่เบา คือใจที่ไม่มีทุกข์เหมือนเมื่อกี้นี้


ไม่ต้องมีใครมาบอกดีๆ
หรือมาด่าว่าแรงๆ เราก็สำนึกแล้ว เพียงแค่เรารู้ว่าไปเบียดเบียนใครเข้า


#การสำนึกผิด ไม่ควรให้ใจเศร้าหมองไปด้วย"
แต่ควรให้ใจมันสำนึกผิดจริงๆ

การสำนึกผิดจริงๆ
มันคือ "หิริ" เป็นคุณธรรมของผู้ที่จะเป็นเทวดา"









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น