วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2565

หมาเห็น"รถวิ่งผ่านไปผ่านมาจนชิน"ฉันใดก็ฉันนั้น "ผู้รู้"เห็น --> ธรรมารมณ์ ปรวนแปรเปลี่ยนแปลงทนอยู่ในสภาวะเดิมไม่ได้แม้ไม่ได้มีตัณาอยากให้มันหายไปแต่ธรรมารมณ์เองแม้ตัวของมันเองก็อยู่ในสภาพอาการเดิมไม่ได้ ที่สุดก็กลายเป็นอนัตตา#ผู้ได้เสพธรรมะของจริงทางตา คืออ่านบ้างทางหู คือเสียงบ้างเมื่อทราบเข้าใจแล้วว่าธรรมารมณ์ ตกเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาเมื่อมีสติ(ความระลึกได้) ย่อมไม่ยึดถือว่าธรรมารมณ์คือเราเขาย่อมเห็น ความปรวนแปร แปรปรวนของธรรมารมณ์ เหมือนรถที่ผ่านไปผ่านมาบนถนน

หมาเห็น"รถวิ่งผ่านไปผ่านมาจนชิน"

ฉันใดก็ฉันนั้น
 "ผู้รู้"เห็น --> ธรรมารมณ์ ปรวนแปรเปลี่ยนแปลงทนอยู่ในสภาวะเดิมไม่ได้

แม้ไม่ได้มีตัณาอยากให้มันหายไป
แต่ธรรมารมณ์เองแม้ตัวของมันเองก็อยู่ในสภาพอาการเดิมไม่ได้ ที่สุดก็กลายเป็นอนัตตา

#ผู้ได้เสพธรรมะของจริง
ทางตา คืออ่านบ้าง
ทางหู คือเสียงบ้าง
เมื่อทราบเข้าใจแล้วว่า
ธรรมารมณ์ ตกเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

เมื่อมีสติ(ความระลึกได้) ย่อมไม่ยึดถือว่าธรรมารมณ์คือเรา

เขาย่อมเห็น ความปรวนแปร แปรปรวนของธรรมารมณ์ เหมือนรถที่ผ่านไปผ่านมาบนถนน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น