พระมงคลชัย กิตติโสภโณ อย่าหลงวิบากเด้อ
19 ก.ค. 2016
# ต้องมีเจตนาแบบใด ถวายของในวันเข้าพรรษาได้อานิสงค์มากสุดในกามาวจรภูมิ
เข้าพรรษาแล้ว คนก็คงจะไปถวายเทียน ถวายหลอดไฟ
ถวายผ้าสบง หรือถวายสิ่งอื่นๆ ที่แต่ละคนก็จะถวายสิ่งที่แตกต่างกันไป
ตามที่ตนคิดว่าควรนำไปถวายพระ
ถวายอะไรตาม (ถ้าเป็นสิ่งไม่มีโทษล้วนเป็นบุญทั้งนั้น) ยิ่งถ้ามีเจตนาถวายเพื่อจะต่ออายุพระพุทธศาสนาแล้ว ก็ยิ่งจะ
ได้อานิสงค์มากมายหลายกัปเลย
วันนี้ถ้าใครจะไปวัดถวายอะไรก็ตาม ตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงมาก
ก็ให้ปักเจตนาทำในใจว่า" "สิ่งที่เราจะถวายนี้ เรา
จะถวายเพื่อต่ออายุไขของพระศาสนา"
เจตนาแบบนี้ จะเกิดบุญมากกว่า
ส่วนเจตนาถวายเจาะจงเฉพาะแต่พระที่ตนรักที่ตนชอบที่ตนพอใจ ได้อานิสงค์ไม่มากเท่าเจตนาแบบแรก
สรุป เจตนาถวายต่ออายุพระพุทธศาสนามีมหาอานิสงค์เกิดขึ้นแรงกว่า
# ผู้มีปัญญา ถวายเสร็จแล้ว พึงอธิฐานว่า
"นิพพา นะ ปัจจะโย โหตุ"
ด้วยเหตุที่ข้าพระเจ้าถวายทานต่ออายุพระพุทธศาสนานี้
ขอจงเป็นเหตุให้ข้าพระเจ้าไม่มีทุกข์ทางใจในอาคตกาลอันใกล้นี่เถิด"
^ไม่มีทุกข์ทางใจก็คือนิพพานนั่นเอง^
ส่วนผู้ใดมาถึงวัดแล้ว แต่ลืม หรือไม่มีสิ่งที่จะนำไปถวาย
ก็เพียงแค่อนุโมทนาคือมีเจตนาพลอยยินดีไปกับคนที่เขาถวาย
เราก็ได้เป็นผู้มีส่วนแห่งบุญใหญ่นั้นแล้ว ไม่น้อยเลย
19 กรกฎาคม 2016 เวลา 19:29 น.
Phra Mongkolchai Kittisopano, don't be fooled.
19 Jul 2016
# What kind of intent must there be? Offering things on the day of Buddhist Lent is the most beneficial in Kamawacharaphum.
Lent People would probably go to offer candles and light bulbs.
Donate a robe or give something else that each person will offer something different
according to what they think should be presented to the monks
Give whatever you want (if it's something without blame, it's all a merit), the more you have the intention to offer it to renew the Buddhism, the more it will
I have received many merits.
Today, if anyone goes to the temple to offer anything from small to large
then let's put the intention in mind that " "This thing that we will offer
will be offered for the renewal of the religion"
This kind of intention will bring more merit.
As for the intent to offer, only the gods they love that they like and that they are satisfied with. The merit is not as much as the first intention.
In conclusion, the intention to offer for the renewal of Buddhism has a stronger effect.
# A wise person, having finished the offering, should pray that
"Nibbana na paccayo hot"
because of the fact that I offer this Buddhism renewal
Please cause me, my Lord, to be free from suffering in the near future."
^No mental suffering is nirvana.^
As for anyone who has arrived at the temple but has forgotten or has nothing to offer
It's just a blessing, that is, with the intention of Ploy being happy with the person he offers.
We have already become a participant of that great merit, not less.
19 July 2016 time 19:29
帕Mongkolchai Kittisopano，不要被愚弄。
2016 年 7 月 19 日
# 必須有什麼樣的意圖？ 在佛教大齋節當天供奉東西是在 Kawacharaphum 最有益的。
四旬期 人們可能會去提供蠟燭和燈泡。
捐贈一件長袍或其他東西 每個人都會提供不同的東西
根據他們認為應該呈現給僧侶的東西
想要什麼就給什麼（如果是沒有過錯的，都是功德），越是有心供奉更新佛法，越會
我獲得了許多功德。
今天，如果有人去寺廟供奉什麼 從小到大
那麼讓我們記住這個意圖“”我們將提供的這個東西
將被提供用於宗教的更新”
這種心意會帶來更多的功德。
至於供奉的心意，只有自己喜歡的、自己滿意的神明。 功德不如初心。
總而言之，為佛教復興獻祭的意圖具有更強的效果。
# 智者完成供品後，應該祈禱
“涅槃之熱”
因為我提供這個佛教更新
請讓我，我的主，在不久的將來免於痛苦。”
^沒有精神上的痛苦是涅槃。^
至於那些到了寺廟卻忘記了或沒有什麼可以供奉的人
這只是一種祝福，也就是說，Ploy 的意圖是對他提供的人感到滿意。
我們已經成為了這一偉大功德的參與者，而不是更少。
2016年7月19日 19:29
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น