วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

พระมงคลชัย กิตติโสภโณ อย่าหลงวิบากเด้อ24 ก.ค. 2016ผู้หญิงหรือผู้ชายที่เข้ามาขณะที่เรายังไม่ได้เลิกกับแฟน ส่วนใหญ่จะเป็นคู่กรรมคู่เวรไม่ใช่คู่บุญหรอกส่วนคู่บุญจะมาช่วงที่เราโสดเท่านั้น# ไม่ใช่หลวงพี่พูดเอง แต่มาจากคำของหมอดูที่มีประสบการณ์ดูดวงมามากและเป็นหมอดูที่ปฏิบัติธรรมด้วย(หมอพี)หลวงพี่อ่านแล้วก็เห็นด้วย เพราะมันจริงยกตัวอย่างของจริงเลย จะขอพูดภาษาง่ายๆเจ้าชายสิธทัตธะ ตอนที่พระองค์ยังไม่ได้ออกบวชยังไม่ได้ตรัสรู้อนุตตระสัมมาสัมโพธิ์ญาณ (คือยังเป็นเจ้าชายในวังอยู่ช่วงนั้นพระองค์โสด และหล่อมาก) ยังไม่มีแฟน แม้จะมีเจ้าหญิงจากหลายเมือง ที่มาชอบพระองค์สนใจพระองค์เจ้าหญิงแต่ละเมืองนี่สวยไม่ใช่ธรรดาๆนะ แต่พระองค์ก็ไม่สนใจไม่รักใครเลยจนมาวันหนึ่ง เป็นวันที่พระเจ้าสุทโทธะนะ หาอุบายวิธีที่จะให้พระองค์ แต่งงานให้ได้ ก็เลยประข่าวไปทั่วเมืองต่างๆให้พระราชาจากเมืองต่างๆ ให้ส่งลูกสาวงามมา เพื่อให้เจ้าชายสิทธัตธะเลือกเป็นคู่(พระราชาจากเมืองต่างๆทราบข่าวแล้ว ไม่อยากส่งลูกสาวตนเองไปให้เพราะกลัวว่า เจ้าชายสิทธัตถะจะเลี้ยงลูกสาวไม่ได้เลี้ยงไม่กลุ้ม เดี๋ยวจะไปลำบากเป็นทุกข์ สงสารลูกจึงส่งข่าวกลับไปว่า"ให้เจ้าชายสิทธัตทะทดสอบทุกศิลปศาตร์ ทั้งยิงธนู ฟัดดาบขี้ม้า ประลอง และอื่นๆอีกมาก ให้ดูก่อนเมื่อข่าวมาถึงพระเจ้าสุทโทโนะผู้เป็นพ่อ จึงไปบอกลูกให้ทดสอบตามที่เขาต้องการพระองค์ก็เชื่อฟังพ่อ ก็ไปทดสอบทุกศาตร์ จนพระองค์ผ่านการทดสอบทุกอย่างพระราชาจากเมืองต่างๆ พอรู้ว่าเจ้าชายสิทธัตธะเก่งทุกศาตร์ก็อยากให้แต่งกับลูกสาวตนเอง จึงส่งลูกสาวไปหาให้เจ้าชายดูพระเจ้าสุทโธทนะ จึงให้เจ้าชายประทานของเล็กๆน้อยๆเพชรบ้าง พลอยบ้าง ทองบ้าง แหวนบ้าง ให้แก่ลูกสาวจากเมืองต่างๆที่มาแล้วเจ้าชายแม้จะเห็นลูกสาวจากเมืองต่างๆขนาดนี้แล้ว ก็ไม่มีใจที่คิดจะชอบจะถูกใจหญิงใดเลยสักคน(จนพวกอำมาต ที่สังเกตการณ์ดูว่าเจ้าชายจะมีความพอใจหรือมีพิรุดกับหญิงใด เพื่อจะนำไปทูลพระเจ้าสุทโทธะนะต่างก็คิดว่าจะผิดหวังอุบายหาคู่นี้)ในขณะนั้นเองจนมาถึงเจ้าหญิงนางสุดท้าย คือนางยโสธราที่จะได้รับของจากมือพระองค์พระองค์แค่เห็นนางก็สะดุดใจแล้ว มีอาการต่างจากที่พบหญิงอื่นมาก่อนจนพวกอำมาตหลายคนที่สังเกตอยู่นั้น มั่นใจเลยว่าเจ้าชายพอใจหญิงนี้ๆ จึงนำความไปทูลพระเจ้าสุทโทธะนะพระเจ้าสุทโธทะนะจึงหาลือให้ เจ้าชายอภิเสกสมรสกับพระนางยโสธรา(แต่งงานกันนั้นเอง)ก็มีพระราชาจางเมืองต่างๆมาร่วมมากมายและขอตัดตอนไปเล่าอีกช่วงหนึ่งคือช่วงที่พระองค์ออกบวชและได้ตรัสรู้กฏธรรมชาติทั้งรูปธรรมละนามธรรมแล้วพระเจ้าสุทโธทะนะส่งข่าวไปหาพระองค์(ตอนนี้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว) ให้มาแสดงธรรมโปรดพระญาติต่างในวังหน่อยพระองค์เมื่อรู้แล้วก็รับปาก ว่าจะไปจนถึงเวลาออกเดินทางจนถึงวังได้ตรัสกับพระนางยโสธราว่า "พระนางยโสธรานี้เป็นคู่บารมีกับพระองค์มาหลายภพหลายชาติแล้ว ไม่ใช่แค่ชาตินี้ (คืออยู่ด้วยกันแบบสามีภรรยาและสร้างบุญกุศลร่วมกับพระองค์มามาย)"# และขอสรุปไปตอนจบพระนางยโสธนาออกบวชเป็นภิกษุณี และบรรลุอรหันต์(พ้นนรกถาวร)และเป็นเลิศในด้านระลึกชาติ# และสุดท้ายแม้จะเป็นคู่บารมีกันก็ไม่ใช่ว่า จะได้เป็นคู่กันอีกทุกชาติเพราะต้องสร้าง ศรัทธา ศีล จาคะ ปัญญา ให้เสมอกัน (ซึ่งได้โพสไว้เมื่อวานก่อนแล้วถ้าจนใจอ่าน)

พระมงคลชัย กิตติโสภโณ อย่าหลงวิบากเด้อ
24 ก.ค. 2016
ผู้หญิงหรือผู้ชายที่เข้ามาขณะที่เรายังไม่ได้เลิกกับแฟน ส่วน
ใหญ่จะเป็นคู่กรรมคู่เวรไม่ใช่คู่บุญหรอก
ส่วนคู่บุญจะมาช่วงที่เราโสดเท่านั้น
# ไม่ใช่หลวงพี่พูดเอง แต่มาจากคำของหมอดู
ที่มีประสบการณ์ดูดวงมามาก
และเป็นหมอดูที่ปฏิบัติธรรมด้วย
(หมอพี)
หลวงพี่อ่านแล้วก็เห็นด้วย เพราะมันจริง
ยกตัวอย่างของจริงเลย จะขอพูดภาษาง่ายๆ
เจ้าชายสิธทัตธะ ตอนที่พระองค์ยังไม่ได้ออกบวชยังไม่ได้ตรัสรู้อ
นุตตระสัมมาสัมโพธิ์ญาณ (คือยังเป็นเจ้าชายในวังอยู่
ช่วงนั้นพระองค์โสด และหล่อมาก) ยังไม่มีแฟน แม้จะมีเจ้าหญิง
จากหลายเมือง ที่มาชอบพระองค์สนใจพระองค์
เจ้าหญิงแต่ละเมืองนี่สวยไม่ใช่ธรรดาๆนะ แต่พระองค์ก็ไม่สนใจ
ไม่รักใครเลย
จนมาวันหนึ่ง เป็นวันที่พระเจ้าสุทโทธะนะ หาอุบายวิธีที่จะ
ให้พระองค์ แต่งงานให้ได้ ก็เลยประข่าวไปทั่วเมืองต่างๆ
ให้พระราชาจากเมืองต่างๆ ให้ส่งลูกสาวงามมา เพื่อ
ให้เจ้าชายสิทธัตธะเลือกเป็นคู
(พระราชาจากเมืองต่างๆทราบข่าวแล้ว ไม่อยากส่งลูกสา
วตนเองไปให
้เพราะกลัวว่า เจ้าชายสิทธัตถะจะเลี้ยงลูกสาวไม่ได้เลี้ยงไม่ก
ลุ้ม เดี๋ยวจะไปลำบากเป็นทุกข์ สงสารลูก
จึงส่งข่าวกลับไปว่า
"ให้เจ้าชายสิทธัตทะทดสอบทุกศิลปศาตร์ ทั้งยิงธนู ฟัดดาบ
ขี้ม้า ประลอง และอื่นๆอีกมาก ให้ดูก่อน
เมื่อข่าวมาถึงพระเจ้าสุทโทโนะผู้เป็นพ่อ จึงไปบอกลูกให้ท
ดสอบตามที่เขาต้องการ
พระองค์ก็เชื่อฟังพ่อ ก็ไปทดสอบทุกศาตร์ จนพระองค์ผ่านกา
รทดสอบทุกอย่าง
พระราชาจากเมืองต่างๆ พอรู้ว่าเจ้าชายสิทธัตธะเก่งทุก
ศาตร์ก็อยากให้แต่งกับลูกสาวตนเอง จึงส่งลูกสาวไปหา
ให้เจ้าชายดู
พระเจ้าสุทโธทนะ จึงให้เจ้าชายประทานของเล็กๆน้อยๆ
เพชรบ้าง พลอยบ้าง ทองบ้าง แหวนบ้าง ให้แก่ลูกสาวจาก
เมืองต่างๆที่มาแล้ว
เจ้าชายแม้จะเห็นลูกสาวจากเมืองต่างๆขนาดนี้แล้ว ก็
ไม่มีใจที่คิดจะชอบจะถูกใจหญิงใดเลยสักคน
(จนพวกอำมาต ที่สังเกตการณ์ดูว่าเจ้าชายจะมีความพอใจ
หรือมีพิรุดกับหญิงใด เพื่อจะนำไปทูลพระเจ้าสุทโทธะนะ
ต่างก็คิดว่าจะผิดหวังอุบายหาคู่นี้)
ในขณะนั้นเอง
จนมาถึงเจ้าหญิงนางสุดท้าย คือนางยโสธรา
ที่จะได้รับของจากมือพระองค์
พระองค์แค่เห็นนางก็สะดุดใจแล้ว มีอาการต่างจากที่พบหญิง
อื่นมาก่อน
จนพวกอำมาตหลายคนที่สังเกตอยู่นั้น มั่นใจเลยว่า
เจ้าชายพอใจหญิงนี้ๆ จึงนำความไปทูลพระเจ้าสุทโทธะนะ
พระเจ้าสุทโธทะนะจึงหาลือให้ เจ้าชายอภิเสกสมรส
กับพระนางยโสธรา(แต่งงานกันนั้นเอง)
ก็มีพระราชาจางเมืองต่างๆมาร่วมมากมาย
และขอตัดตอนไปเล่าอีกช่วงหนึ่ง
คือช่วงที่พระองค์ออกบวชและได้ตรัสรู้กฏธรรมชาติทั้งรูปธรรม
ละนามธรรมแล้ว
พระเจ้าสุทโธทะนะส่งข่าวไปหาพระองค์(ตอนนี้เป็น
พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว) ให้มาแสดงธรรมโป
รดพระญาติต่างในวังหน่อย
พระองค์เมื่อรู้แล้วก็รับปาก ว่าจะไป
จนถึงเวลาออกเดินทาง
จนถึงวัง
ได้ตรัสกับพระนางยโสธราว่า "พระนางยโสธรานี้เป็นคู่บารมีกั
บพระองค์มาหลายภพหลายชาติแล้ว ไม่ใช่แค่ชาตินี้ (คืออยู่
ด้วยกันแบบสามีภรรยา
และสร้างบุญกุศลร่วมกับพระองค์มามาย)"
# และขอสรุปไปตอนจบ
พระนางยโสธนาออกบวชเป็นภิกษุณี และบรรลุอรหันต์(
พ้นนรกถาวร)
และเป็นเลิศในด้านระลึกชาติ
# และสุดท้ายแม้จะเป็นคู่บารมีกัน
ก็ไม่ใช่ว่า จะได้เป็นคู่กันอีกทุกชาติ
เพราะต้องสร้าง ศรัทธา ศีล จาคะ ปัญญา ให้เสมอกัน (ซึ่ง
ได้โพสไว้เมื่อวานก่อนแล้ว
ถ้าจนใจอ่าน)
24 กรกฎาคม 2016 เวลา 20:06 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น