วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

คนในโลกนี้ มีจิตคิดส่งใจมุ่งไปทางต่างๆ ที่ต่างกัน ทางไหนดี ทางไหนควรไปคิดไปทางไหนดี ดำเนินชีวิตไปทางไหนดีบ้างว่าวิทยาศาตร์เป็นทางที่ดี ยกใจเทให้หมดบ้างว่าพุทธศาสตร์เป็นทางที่ดียกใจเทให้หมดบ้างว่าเขาพาทำก็ทำๆตามเขาแล้วแต่สังคมจะพาเป็นไป ไม่ว่าจะเป็นหมู่เพื่อน ยกใจให้ค่านิยมไปหมดก็เพราะไม่รู้ว่า อะไรมันคืออะไรอะไรมันเป็นอะไร ไม่เข้าใจความจริง แม้ข้าพระเจ้าเองก็ยังไม่เข้าใจสัจธรรมสูงสุดตอนนี้ธรรมของโลกียะ(ธรรมฝ่ายเข้า)นั้นเหมือนจะรุ่นแรงมากคืออย่างเช่น เห็นเขาแต่งรถ ก็ต้องการดิ้นรนขวานขวายแต่งรถคือเห็นเขาเอาเมีย ก็ต้องการเอาเมียเหมือนเขาคือเห็นเขาเอาผัว ก็ต้องการเอาผัวเหมือนเขาเห็นเขามีแฟน ก็ต้องการจะมีแฟนเหมือนเขาเห็นเขามียศ ก็ต้องการจะมียศเหมือนเขาเห็นเขารวย ก็ต้องการจะรวยเหมือนเขาและอื่นๆ ฯรวมความแล้ว หรือย่นย่อลงมาก็คือ ธรรมฝ่ายเข้า,ฝ่ายยึดติด ใน อายตนะภายนอก คือรูป ยึดเสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์และอายตนะภายในอีกส่วนที่ไม่เหมือนใครมีศาตร์เดียวคือธรรมฝ่ายเวียนออก โลกุตระนั้นเองถ้าพูดย่นย่อก็คือ ออกจาก รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ออกจากการรู้แจ้งทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นธรรมหมุ่นออกซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากและแปลกประหลาด อัศจรรย์ว่ามีธรรมแบบนี้ด้วยนี่คือแยกประเภทธรรมทุกศาตร์ทั้งโลก ทุกศาสนา เป็น๒ส่วน มีหมุ่นเข้า มีหมุ่นออกธรรมหมุ่นออกนั้น ตามคำภีย์ท่านกล่าวว่า ผู้ที่จะเกิดมาสอนธรรมแบบนี้หาได้ยากเกิดขึ้นได้ยาก คือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตะมะส่วนธรรมฝ่ายเข้านั้น มีมากมายก่ายกองในโลกผู้ฉลาดก็ต้องเลือกแล้วแหละจะดำเนินจิตไปทางไหนมีฝ่ายเข้า กับฝ่ายออกถ้าฝ่ายออกคือหลุดพ้น ท่านกล่าวว่าเป็นบรมสุข เป็นอมตะถ้าฝ่ายเข้า ท่านกล่าวว่าเป็นทุกข์(ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้)เป็นอยู่อย่างนี้ร่ำไปทุกชาติ ท่านกล่าวว่า เราทุกคนเคยเกิดมานับครั้งไม่ได้ มากกว่าเม็ดดินหรือทรายในโลกเม็ดดินหรือเม็ดทรายในโลกมีอยู่เพียงเท่าใดกี่ล้านเม็ด ภพชาติที่เราเคยเกิดมากกว่านั้นอีกพัดพรากจากสิ่งที่ยึดทุกชาติธรรมฝ่ายเข้า เป็นไปเพื่อเกิดตาย ไม่แล้วเสร็จเป็น ไม่มีที่สิ้นสุดเลยธรรมฝ่ายออก เป็นไปเพื่อเกิดแล้วไม่ตาย ชื่อของนิพพาน ,อะมะตะ,นิพพาน,วิมุต,วิราคะ,อสังขะตะ)เลือกเอาแล้วแหละถ้าเลือกธรรมฝ่ายออก อย่าลีลอชักช้าเพราะปฏิปทาผู้บอกผู้สอนนั้นหมดไปเรื่อยๆ พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ผ่านไปแล้ว 2,559 ปี ถ้าจะรอพระศรีอายรเมตไตรยังประมาทอยู่กินอาหารเลี้ยงร่างกายเพื่อให้ ดำเนินทางจิตไปได้"ภายนอกอย่างหนึ่ง ภายในอย่างหนึ่ง"กายแตกทำลายจิตสะสมการเห็นไตรลักษณ์กี่ครั้ง ๆ ท่านกล่าวว่า ก็เป็นเหตุให้ภพชาติสั้นลง อุปทานก็คลายไปใกล้นิพพานเข้าไปเรื่อยๆ หมดภพหมดชาตินั้นแหละ เรียกว่าอมตะ หรือนิพพาน#วิจารธรรมของโลก:คุณกำลังคิดอะไรอยู่?

คนในโลกนี้ มีจิตคิดส่งใจมุ่งไปทางต่างๆ ที่ต่างกัน ทางไหนดี ทางไหนควรไป
คิดไปทางไหนดี ดำเนินชีวิตไปทางไหนดี

บ้างว่าวิทยาศาตร์เป็นทางที่ดี ยกใจเทให้หมด

บ้างว่าพุทธศาสตร์เป็นทางที่ดี
ยกใจเทให้หมด

บ้างว่าเขาพาทำ
ก็ทำๆตามเขาแล้วแต่สังคมจะพาเป็นไป ไม่ว่าจะเป็นหมู่เพื่อน ยกใจให้ค่านิยมไปหมด

ก็เพราะไม่รู้ว่า อะไรมันคืออะไร
อะไรมันเป็นอะไร ไม่เข้าใจความจริง แม้ข้าพระเจ้าเองก็ยังไม่เข้าใจสัจธรรมสูงสุด

ตอนนี้ธรรมของโลกียะ(ธรรมฝ่ายเข้า)
นั้นเหมือนจะรุ่นแรงมาก
คืออย่างเช่น 
เห็นเขาแต่งรถ ก็ต้องการดิ้นรนขวานขวายแต่งรถ
คือเห็นเขาเอาเมีย ก็ต้องการเอาเมียเหมือนเขา
คือเห็นเขาเอาผัว ก็ต้องการเอาผัวเหมือนเขา
เห็นเขามีแฟน ก็ต้องการจะมีแฟนเหมือนเขา

เห็นเขามียศ ก็ต้องการจะมียศเหมือนเขา
เห็นเขารวย ก็ต้องการจะรวยเหมือนเขา
และอื่นๆ ฯ

รวมความแล้ว หรือย่นย่อลงมา
ก็คือ ธรรมฝ่ายเข้า,ฝ่ายยึดติด ใน อายตนะภายนอก คือรูป ยึดเสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์
และอายตนะภายในอีก

ส่วนที่ไม่เหมือนใครมีศาตร์เดียว
คือธรรมฝ่ายเวียนออก โลกุตระนั้นเอง
ถ้าพูดย่นย่อก็คือ ออกจาก รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ออกจากการรู้แจ้งทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ 

เป็นธรรมหมุ่นออก
ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก
และแปลกประหลาด อัศจรรย์
ว่ามีธรรมแบบนี้ด้วย

นี่คือแยกประเภทธรรมทุกศาตร์ทั้งโลก ทุกศาสนา เป็น๒ส่วน มีหมุ่นเข้า มีหมุ่นออก

ธรรมหมุ่นออกนั้น ตามคำภีย์ท่านกล่าวว่า ผู้ที่จะเกิดมาสอนธรรมแบบนี้หาได้ยากเกิดขึ้นได้ยาก คือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตะมะ

ส่วนธรรมฝ่ายเข้านั้น มีมากมายก่ายกองในโลก

ผู้ฉลาดก็ต้องเลือกแล้วแหละ
จะดำเนินจิตไปทางไหน
มีฝ่ายเข้า กับฝ่ายออก

ถ้าฝ่ายออกคือหลุดพ้น ท่านกล่าวว่าเป็นบรมสุข เป็นอมตะ

ถ้าฝ่ายเข้า ท่านกล่าวว่า
เป็นทุกข์(ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้)เป็นอยู่อย่างนี้ร่ำไปทุกชาติ 

ท่านกล่าวว่า เราทุกคนเคยเกิดมานับครั้งไม่ได้ มากกว่าเม็ดดินหรือทรายในโลก

เม็ดดินหรือเม็ดทรายในโลกมีอยู่เพียงเท่าใด
กี่ล้านเม็ด ภพชาติที่เราเคยเกิดมากกว่านั้นอีก

พัดพรากจากสิ่งที่ยึดทุกชาติ

ธรรมฝ่ายเข้า เป็นไปเพื่อเกิดตาย ไม่แล้วเสร็จเป็น ไม่มีที่สิ้นสุดเลย

ธรรมฝ่ายออก เป็นไปเพื่อเกิดแล้วไม่ตาย ชื่อของนิพพาน ,อะมะตะ,นิพพาน,วิมุต,วิราคะ,อสังขะตะ)

เลือกเอาแล้วแหละ
ถ้าเลือกธรรมฝ่ายออก อย่าลีลอชักช้า
เพราะปฏิปทาผู้บอกผู้สอนนั้นหมดไปเรื่อยๆ พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ผ่านไปแล้ว 2,559 ปี ถ้าจะรอพระศรีอายรเมตไตรยังประมาทอยู่

กินอาหารเลี้ยงร่างกายเพื่อให้ ดำเนินทางจิตไปได้
"
ภายนอกอย่างหนึ่ง ภายในอย่างหนึ่ง
"

กายแตกทำลาย
จิตสะสมการเห็นไตรลักษณ์
กี่ครั้ง ๆ ท่านกล่าวว่า ก็เป็นเหตุให้ภพชาติสั้นลง อุปทานก็คลายไป
ใกล้นิพพานเข้าไปเรื่อยๆ 

หมดภพหมดชาตินั้นแหละ เรียกว่าอมตะ หรือนิพพาน

#วิจารธรรมของโลก

:คุณกำลังคิดอะไรอยู่?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น