วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

พระมงคลชัย กิตติโสภโณ อย่าหลงวิบากเด้อ6 พ.ค. 2016# ธรรมะนักภาวนา รูป / นามเมือไร่ที่รู้ลมหายใจ * เมื่อนั้นความคิดที่ไหลคิดไปอดีตเอ่ยคิดไปอนาฅดเอ่ย คิดไม่พอใจเอ่ย คิดไม่พอใจเอ่ยจะดับขาดสะบั้นไม่มีเหลือเลย (ก็คือภพที่เป็นนามธรรมดับ)และจะรู้สึกถึงความมีอยู่ของลมหายใจ จะรู้สึกถึงความมีอยู่ของกายที่สัมผัสกับผ้า เท้าสัมผัสกับหนังรองเท้า# นี้เรียกว่า วิญญาณ รู้รูปขันธ์เมื่อไร่ที่คิด * เมื่อนั้น รูปดับ (ภพที่เป็นรูปธรรมดับ) ลมหายใจมีอยู่ก็ไม่รู้ ผิวหนังสัมผัสกับผ้าก็ไม่รู้ เท้าสัมผัสกับหนังรองเท้าก็ไม่รู้และภพที่เป็นนามจะเกิด คือคิดไปอดีตคิดไปอนาฅด คิดพอใจ คิดไม่พอใจ จะเกิดขึ้นสายเลยให้เราพยาม รู้เห็นมันสลับกลับไปกลับมา บ่อยๆแล้วจะมี(ญาณ)ความรู้ความเข้าใจว่า นั่นมันเป็นสิ่งที่ถูกเห็นอารมณ์เองมันก็ (เกิด ชรา มรณะ) แม้แต่อารมณ์เอง มันก็แก่ชราเป็น เดินไปสู่ความมรณะเป็น โดยที่เราไม่ต้องไปบังคับให้มันดับเพราะมันดับทุกเสี่ยววินาที อารมณ์ในอนาฅดที่จะเกิดขึ้นด้วยเหตุใดก็ตามล้วนมาดับที่ปัจจุปัน แม้จะมีสติรู้มันก็ดับพร้อมไปกับผู้รู้* วิญญาณ(ธาตุรู้) ถ้าหากไม่ไปรู้ รูป ไม่ไปรู้ นาม จะเป็นอย่างไรหนอ ?พระพุทธเจ้าตรัสว่า " เมื่อวิญญาณไม่มีที่ตั้งอาศัย วิญาญาณจะแตกทำลาย" และวิญญาณจะไม่เกิดขึ้นมาดับอีกเหมืนเปลวเทียนที่ดับแล้วดับเลยนี้แล คือ หลุดพ้น นิพพาน วิมุต ธรรมธาตุ อมตะธาตุ อสังขตะ คือไม่การเสวยภพหรืออามรมณ์ใด ในโลกทั้ง 6 อีกเลย# โลกทั้ง 6 คือ อายตนะ 6# คนที่ตายแล้ว แล้วมียังมีร่างกายเหมือนตอนยังไม่ตายมาให้เห็นนั้น ศาสนาพุทธ เรียกว่า เปตร# วิญญาณที่กล่าวในโพสนี้ ไม่ใช่ เปตร นะแต่เป็นธาตุรู้

#ธรรมะนักภาวนา รูป / นาม
เมือไร่ที่รู้ลมหายใจ * เมื่อนั้นความคิดที่ไหลคิดไปอดีตเอ่ย คิดไปอนาฅดเอ่ย คิดไม่พอใจเอ่ย คิดไม่พอใจเอ่ย จะดับขาดสะบั้นไม่มีเหลือเลย (ก็คือภพที่เป็นนามธรรมดับ)
และจะรู้สึกถึงความมีอยู่ของลมหายใจ จะรู้สึกถึงความมีอยู่ของกายที่สัมผัสกับผ้า เท้าสัมผัสกับหนังรองเท้า
#นี้เรียกว่า วิญญาณ รู้รูปขันธ์

เมื่อไร่ที่คิด * เมื่อนั้น รูปดับ (ภพที่เป็นรูปธรรมดับ) ลมหายใจมีอยู่ก็ไม่รู้ ผิวหนังสัมผัสกับผ้าก็ไม่รู้ เท้าสัมผัสกับหนังรองเท้าก็ไม่รู้
และภพที่เป็นนามจะเกิด คือคิดไปอดีตคิดไปอนาฅด คิดพอใจ คิดไม่พอใจ จะเกิดขึ้นสายเล

ให้เราพยาม รู้เห็นมันสลับกลับไปกลับมา บ่อยๆ
แล้วจะมี(ญาณ)ความรู้ความเข้าใจว่า นั่นมันเป็นสิ่งที่ถูกเห็น
อารมณ์เองมันก็ (เกิด ชรา มรณะ) แม้แต่อารมณ์เอง มันก็ แก่ชราเป็น เดินไปสู่ความมรณะเป็น โดยที่เราไม่ต้องไปบังคับให้มันดับ
เพราะมันดับทุกเสี่ยววินาที อารมณ์ในอนาฅดที่จะเกิดขึ้นด้วยเหตุใดก็ตาม
ล้วนมาดับที่ปัจจุปัน แม้จะมีสติรู้มันก็ดับพร้อมไปกับผู้รู้

* วิญญาณ(ธาตุรู้) ถ้าหากไม่ไปรู้ รูป ไม่ไปรู้ นาม จะเป็นอย่างไรหนอ ?
พระพุทธเจ้าตรัสว่า " เมื่อวิญญาณไม่มีที่ตั้งอาศัย วิญาญาณจะแตกทำลาย" และวิญญาณจะไม่เกิดขึ้นมาดับอีก เหมืนเปลวเทียนที่ดับแล้วดับเลย

นี้แล คือ หลุดพ้น นิพพาน วิมุต ธรรมธาตุ อมตะธาตุ อสังขตะ คือไม่การเสวยภพหรืออามรมณ์ใด ในโลกทั้ง 6 อีกเลย

#โลกทั้ง 6 คือ อายตนะ 6
#คนที่ตายแล้ว แล้วมียังมีร่างกายเหมือนตอนยังไม่ตายมาให้เห็นนั้น ศาสนาพุทธ เรียกว่า เปตร
# วิญญาณที่กล่าวในโพสนี้ ไม่ใช่ เปตร นะ
แต่เป็นธาตุรู้

Phra Mongkolchai Kittisopano, don't be fooled.
 there is a monk  He understood that he had run out of merit.
 I want to feel  go around
 belonging to the villagers)
 claiming that he had lost his ordination and asked him to leave
 Lord, I have heard and considered  "If you really run out of merit
 There must be one very serious cause.  even have to move
 From the carpet, such as going to the car alms round, I don't know where it came from.
 Crash to death with that place  or like news on the web  3 monks sitting in a car
 on the way to the chanting of the Buddha  while not reaching  an accident
 with a ten-wheeled vehicle, death and death
 or sweep the leaves under the trees  Then a large wooden ledge broke down on its own over his neck.
 deduction of death
 Or, when he sees a female monkey, can't restrain his mind, he takes a gamble with a monkey.
 (fucking a monkey)
 and in the four paragraphs, intentionally
 The four paradigms are
 1
 2 Stealing things worth one baht or more
 3 Kill a human
 4 boasting of the human nature that does not exist within oneself  Dharma that transcends Wiss
 common man  I can see the angels
 I can fly  I can walk  I have attained
 Arahant, except he really thinks he is.
 Overall, his wear and tear was not because of his lack of merit, but because
 He made a new karma that was too harsh.  is the decision to feel
 He is the new karma.
 May 25, 2016 at 5:50 PM ·

帕Mongkolchai Kittisopano,不要被愚弄。
 有一個和尚 他明白自己的功德已經用完了。
 我想感受 四處走走
 屬於村民)
 聲稱他失去了出家並要求他離開
 主啊,我聽說過並考慮過 “如果你真的功虧一簣
 一定有一個非常嚴重的原因。 甚至不得不搬家
 從地毯上,如去汽車施捨,不知從何而來。
 和那個地方撞死 或喜歡網絡上的新聞 3個僧人坐在車裡
 去唸佛的路上 在達不到的時候 一次意外
 帶著十輪車,生死相隨
 或掃過樹下的樹葉 然後,一個巨大的木製國王在他的脖子上自行崩潰了。
 死亡扣除
 或者,當他看到一隻母猴時,他無法控制自己的想法,他與一隻猴子賭了一把。
 (他媽的猴子)
 並且在四個段落中,故意
 四種範式是
 1
 2 盜竊價值 1 泰銖或以上的物品
 3殺死一個人
 4 吹噓自己不存在的人性 超越維斯的佛法
 普通人 我可以看到天使
 我能飛 我可以走 我已經達到
 阿羅漢,除非他真的認為他是。
 總的來說,他的磨損不是因為他的功績不足,而是因為
 他造了一個太苛刻的新業力。 是感覺的決定
 他是新的業力。
 2016 年 5 月 25 日下午 5:50

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น