วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

โหมดใช้อินเทอร์เน็ต ไปที่โหมดเฉพาะข้อความ ประวัติการแก้ไขพระมงคลชัย กิตติโสภโณ อย่าหลงวิบากเด้อ8 มี.ค. 2016๑.เวลาที่มีคนด่าเรา?เสียงด่าของเขานั้นมันไม่ได้ เป็นยาสั่งหรือยาดลใจสั่งให้เราต้องแน่นอกอึดอัดร้อนทุกข์ใจเลย"ต้องอารมณ์เสียนะ" ไม่มี"ต้องไม่สบายใจนะ" ไม่มี"ต้องอารมณ์ไม่ดีนะ" ไม่มี"ต้องหงุดหงิดนะ" ไม่มี"ต้องโกธรเลือดขึ้นหน้านะ" ไม่มีสั่งเลย""และในเสียงด่า ก็ไม่มีคำพูดหรือคำพยัญชนะที่สั่งจิตเราบอกเรา อ๊ะ..ให้สร้างกระแสจิต ที่เป็นความทุกข์ใจมาเผาตนเองนะ"เอาให้ร้อนๆไปเลย ระเบิดประทุอยู่กลางใจเลยนะไม่มีบอกเลยแต่ความอัดอัดแน่นร้อนใจที่เป็นทุกข์นั้น เรานี่เองเป็นผู้ปรุ่งผู้สร้างมันขึ้นมาเพื่อเผารนบันทอนจิตจนร้อนอกร้อนใจจนไม่เป็นสุขเสียงด่าก็อยู่ส่วนหนึ่ง ที่มาจากปากเขา..................ความอึดอัดแน่นร้อนกลางอกเหมือนมีลูกไฟวิ่งอยู่ภายในอันนี้ไม่ได้มาจากเขาเลยแต่จิตเรานี้เองเป็นผู้สร้างความไม่สบายใจขึ้นมา สร้างมาเผาจิตตนเอง จนเป็นทุกข์ซ้ำใน ทั้งกลางวันและกลางคืนเมื่อมันผ่านไปแล้ว..... จิตก็ยังปรุงยังสร้างกระแสความทุกข์ขึ้นเผารนอีก ร้อนอกร้อนใจอีกเป็นรอบที่สองผ่านไปอีกก็ยังสร้างมาเผาอีกเป็นรอบที่สาม ที่สี่ ที่ห้า..... จนวันตายก็ไม่รู้#ตามธรรมดาผู้เป็นปุถุชน ต้องโง่แบบนี้กันทุกคนต่อเมื่อได้ฟังหรือได้อ่านจนเขาใจว่าอ๋อ... ความทุกข์ทางใจ เรานี่เองเป็นผู้โง่สร้างขึ้นมาทำร้ายบันทอนจิตตนเองเหมือนกับเผลอเอามีดแทงตนเองเลือดไหลใหญ่เลย....#นี้คือปุถุชนผู้โง่เขลาต่อเมื่อเป็นปุถุชนผู้ฉลาดมีปัญญาดีไม่หลงสร้างไฟทุกข์ภายในขึ้นมาซ้ำเติมตนเขาจะปฏิบัติอย่างนี้ เมื่อได้ยินเสียงที่ไม่น่าพอใจเขาจะพยายามข่มจิตไว้ไม่ให้มันโง่..หลงสร้างไฟคือความทุกข์ร้อนมาย่างเผาตนเองอุปมาเหมือนกับ บุรุษอยู่ในกองฟางข้าว(กองเฟือง)ถึงจะหนาวแค่ไหน จะข่มจิตไว้ ไม่ยอมหลงจุดไฟเพื่อผิงเพราะมันจะไหม้ตนเองร้อนตาย# เขาคนนี้ข่มจิตตนเองไว้ไม่ให้..หลงก่อไฟร้อนมาย่างเผาตนเองเขาไปไหน..มาไหน..ไม่ทุกข์ใจเอิงเอ่ย...ส่วนคนด่านั้น ด่าไปด้วยทุกข์ไปด้วยทั้งๆที่จริงเขาด่าแบบไม่ต้อง มีทุกข์ก็ได้# ทางตาก็เหมือนกันเวลาที่มีคนแสดงอาการเคลือนไหวของร่างกาย ท่าต่างๆรูปเคลือนไหวท่าต่างๆนั้นที่เราเห็นมันไม่ได้เป็นยาสั่งหรือยาดลใจสั่งเรา บังคับเราต้องแน่นอกอึดอัดร้อนทุกข์ใจเลย"ต้องอารมณ์เสียนะ" ไม่มี"ต้องไม่สบายใจนะ" ไม่มี"ต้องอารมณ์ไม่ดีนะ" ไม่มี"ต้องหงุดหงิดนะ" ไม่มี"ต้องโกธรเลือดขึ้นหน้านะ" ไม่มีสั่งเลย""และในรูปที่เคลือนไหว ก็ไม่มีคำพูดหรือคำพยัญชนะ หรือความหมายเป็นนัยว่าที่สั่งจิตเราบอกเรา อ๊ะ..ให้สร้างกระแสจิต ที่เป็นความทุกข์ใจมาเผาตนเองนะ"เอาให้ร้อนๆไปเลย ระเบิดประทุอยู่กลางใจเลยนะไม่มีบอกเลยแต่ความอัดอัดแน่นร้อนใจที่เป็นทุกข์นั้น เรานี่เองเป็นผู้ปรุ่งผู้สร้างมันขึ้นมาเพื่อเผารนบันทอนจิตจนร้อนอกร้อนใจจนไม่เป็นสุขรูปเคลื่อนไหวก็อยู่ส่วนหนึ่ง ที่มาจากเขาขยับร่างกายส่วนต่างๆคนเดียวบ้าง สองคนบ้าง หลายคนบ้าง..................ความอึดอัดแน่นร้อนกลางอกเหมือนมีลูกไฟวิ่งอยู่ภายในอันนี้ไม่ได้มาจากเขาเลยแต่จิตเรานี้เองเป็นผู้สร้างความไม่สบายใจขึ้นมา สร้างมาเผาจิตตนเอง จนเป็นทุกข์ซ้ำใน ทั้งกลางวันและกลางคืนเมื่อมันผ่านไปแล้ว..... จิตก็ยังปรุงยังสร้างกระแสความทุกข์ขึ้นเผารนอีก ร้อนอกร้อนใจอีกเป็นรอบที่สองผ่านไปอีกก็ยังสร้างมาเผาอีกเป็นรอบที่สาม ที่สี่ ที่ห้า..... จนวันตายก็ไม่รู้#ตามธรรมดาผู้เป็นปุถุชน ต้องโง่แบบนี้กันทุกคนต่อเมื่อได้ฟังหรือได้อ่านจนเขาใจว่าอ๋อ... ความทุกข์ทางใจ เรานี่เองเป็นผู้โง่สร้างขึ้นมาทำร้ายบันทอนจิตตนเองเหมือนกับเผลอเอามีดแทงตนเองเลือดไหลใหญ่เลย....#นี้คือปุถุชนผู้โง่เขลาต่อเมื่อเป็นปุถุชนผู้ฉลาดมีปัญญาดีไม่หลงสร้างไฟทุกข์ภายในขึ้นมาซ้ำเติมตนเขาจะปฏิบัติอย่างนี้ เมื่อได้ยินเสียงที่ไม่น่าพอใจเขาจะพยายามข่มจิตไว้ไม่ให้มันโง่..หลงสร้างไฟคือความทุกข์ร้อนมาย่างเผาตนเองอุปมาเหมือนกับ บุรุษอยู่ในกองฟางข้าว(กองเฟือง)ถึงจะหนาวแค่ไหน จะข่มจิตไว้ ไม่ยอมหลงจุดไฟเพื่อผิงเพราะมันจะไหม้ตนเองร้อนตาย# เขาคนนี้ข่มจิตตนเองไว้ไม่ให้..หลงก่อไฟร้อนมาย่างเผาตนเองเขาไปไหน..มาไหน..ไม่ทุกข์ใจ เอิงเอ่ย......ชาตินี้ปุถุชนคนนี้ได้วิชาฉลาด เจอธรรมแท้พระพุทธเจ้าไม่หลงสร้างทุกข์ขึ้นมาเผาตน เมื่อเกิดการเห็นสิ่งอันเป็นที่ไม่น่าพอใจทั้งหลาย ก็เฉยๆไม่รู้จะสร้างความร้อนใจมาเผาตนทำไม หาเหตุผลไม่ได้เลย....ถ้าเมื่อต้องมาเกิดชาติใหม่อุปนิสัยเก่าคือการที่ไม่ยอมสร้างทุกข์ใจขึ้นมาเผาตน จะติดตามมาด้วย...#คำว่าทุกข์ คืออาการทั้งหลายทั้งปวงที่ไม่สบายใจหงุดหงิดเอ่ย เซงเอ่ย เศร้าเอ่ย โกธรเอ่ย โมโหเอ่ยแค้นใจเอ่ย กระวนกะวายใจเอ่ยเจ็บจากการอกหักเอ่ย เป็นต้น#####################ในกรณีแห่ง อินทรีย์5คือ ตา หู จมูก ลิ้น กายเมื่อเกิดผัสสะหรือเกิดการรับรู้ วิธีปฏิบัติคล้ายกับวิธีปฏิบัติต่อหู เมื่อมีการได้ยินเสียงในทางตา เมื่อมีการเห็น เหมือนสองข้อแรกพระมงคลชัย กิตติโสภโณ อย่าหลงวิบากเด้อ19 พ.ค. 2021๑.เวลาที่มีคนด่าเรา?เสียงด่าของเขานั้นมันไม่ได้ เป็นยาสั่งหรือยาดลใจสั่งให้เราต้องแน่นอกอึดอัดร้อนทุกข์ใจเลย"ต้องอารมณ์เสียนะ" ไม่มี"ต้องไม่สบายใจนะ" ไม่มี"ต้องเครียดน่ะ" ไม่มี"ต้องอารมณ์ไม่ดีนะ" ไม่มี"ต้องเศร้าน่ะ" ไม่มี"ต้องหงุดหงิดนะ" ไม่มี"ต้องโกธรเลือดขึ้นหน้านะ" ไม่มีสั่งเลย""และในเสียงด่า ก็ไม่มีคำพูดหรือคำพยัญชนะที่สั่งจิตเราบอกเรา อ๊ะ..ให้สร้างกระแสจิต ที่เป็นความทุกข์ใจมาเผาตนเองนะ"เอาให้ร้อนๆไปเลย ระเบิดประทุอยู่กลางใจเลยนะไม่มีบอกเลยแต่ความอัดอัดแน่นร้อนใจที่เป็นทุกข์นั้น เรานี่เองเป็นผู้ปรุ่งผู้สร้างมันขึ้นมาเพื่อเผารนบันทอนจิตจนร้อนอกร้อนใจจนไม่เป็นสุขเสียงด่าก็อยู่ส่วนหนึ่ง ที่มาจากปากเขา..................ความอึดอัดแน่นร้อนกลางอกเหมือนมีลูกไฟวิ่งอยู่ภายในอันนี้ไม่ได้มาจากเขาเลยแต่จิตเรานี้เองเป็นผู้สร้างความไม่สบายใจขึ้นมา สร้างมาเผาจิตตนเอง จนเป็นทุกข์ซ้ำใน ทั้งกลางวันและกลางคืนเมื่อมันผ่านไปแล้ว..... จิตก็ยังปรุงยังสร้างกระแสความทุกข์ขึ้นเผารนอีก ร้อนอกร้อนใจอีกเป็นรอบที่สองผ่านไปอีกก็ยังสร้างมาเผาอีกเป็นรอบที่สาม ที่สี่ ที่ห้า..... จนวันตายก็ไม่รู้#ตามธรรมดาผู้เป็นปุถุชน ต้องโง่แบบนี้กันทุกคนต่อเมื่อได้ฟังหรือได้อ่านจนเขาใจว่าอ๋อ... ความทุกข์ทางใจ เรานี่เองเป็นผู้โง่สร้างขึ้นมาทำร้ายบันทอนจิตตนเองเหมือนกับเผลอเอามีดแทงตนเองเลือดไหลใหญ่เลย....#นี้คือปุถุชนผู้โง่เขลาต่อเมื่อเป็นปุถุชนผู้ฉลาดมีปัญญาดีไม่หลงสร้างไฟทุกข์ภายในขึ้นมาซ้ำเติมตนเขาจะปฏิบัติอย่างนี้ เมื่อได้ยินเสียงที่ไม่น่าพอใจเขาจะพยายามข่มจิตไว้ไม่ให้มันโง่..หลงสร้างไฟคือความทุกข์ร้อนมาย่างเผาตนเองอุปมาเหมือนกับ บุรุษอยู่ในกองฟางข้าว(กองเฟือง)ถึงจะหนาวแค่ไหน จะข่มจิตไว้ ไม่ยอมหลงจุดไฟเพื่อผิงเพราะมันจะไหม้ตนเองร้อนตาย# เขาคนนี้ข่มจิตตนเองไว้ไม่ให้..หลงก่อไฟร้อนมาย่างเผาตนเองเขาไปไหน..มาไหน..ไม่ทุกข์ใจเอิงเอ่ย...ส่วนคนด่านั้น ด่าไปด้วยทุกข์ไปด้วยทั้งๆที่จริงเขาด่าแบบไม่ต้อง มีทุกข์ก็ได้# ทางตาก็เหมือนกันเวลาที่มีคนแสดงอาการเคลือนไหวของร่างกาย ท่าต่างๆรูปเคลือนไหวท่าต่างๆนั้นที่เราเห็นมันไม่ได้เป็นยาสั่งหรือยาดลใจสั่งเรา บังคับเราต้องแน่นอกอึดอัดร้อนทุกข์ใจเลย"ต้องอารมณ์เสียนะ" ไม่มี"ต้องไม่สบายใจนะ" ไม่มี"ต้องอารมณ์ไม่ดีนะ" ไม่มี"ต้องหงุดหงิดนะ" ไม่มี"ต้องโกธรเลือดขึ้นหน้านะ" ไม่มีสั่งเลย""และในรูปที่เคลือนไหว ก็ไม่มีคำพูดหรือคำพยัญชนะ หรือความหมายเป็นนัยว่าที่สั่งจิตเราบอกเรา อ๊ะ..ให้สร้างกระแสจิต ที่เป็นความทุกข์ใจมาเผาตนเองนะ"เอาให้ร้อนๆไปเลย ระเบิดประทุอยู่กลางใจเลยนะไม่มีบอกเลยแต่ความอัดอัดแน่นร้อนใจที่เป็นทุกข์นั้น เรานี่เองเป็นผู้ปรุ่งผู้สร้างมันขึ้นมาเพื่อเผารนบันทอนจิตจนร้อนอกร้อนใจจนไม่เป็นสุขรูปเคลื่อนไหวก็อยู่ส่วนหนึ่ง ที่มาจากเขาขยับร่างกายส่วนต่างๆคนเดียวบ้าง สองคนบ้าง หลายคนบ้าง..................ความอึดอัดแน่นร้อนกลางอกเหมือนมีลูกไฟวิ่งอยู่ภายในอันนี้ไม่ได้มาจากเขาเลยแต่จิตเรานี้เองเป็นผู้สร้างความไม่สบายใจขึ้นมา สร้างมาเผาจิตตนเอง จนเป็นทุกข์ซ้ำใน ทั้งกลางวันและกลางคืนเมื่อมันผ่านไปแล้ว..... จิตก็ยังปรุงยังสร้างกระแสความทุกข์ขึ้นเผารนอีก ร้อนอกร้อนใจอีกเป็นรอบที่สองผ่านไปอีกก็ยังสร้างมาเผาอีกเป็นรอบที่สาม ที่สี่ ที่ห้า..... จนวันตายก็ไม่รู้#ตามธรรมดาผู้เป็นปุถุชน ต้องโง่แบบนี้กันทุกคนต่อเมื่อได้ฟังหรือได้อ่านจนเขาใจว่าอ๋อ... ความทุกข์ทางใจ เรานี่เองเป็นผู้โง่สร้างขึ้นมาทำร้ายบันทอนจิตตนเองเหมือนกับเผลอเอามีดแทงตนเองเลือดไหลใหญ่เลย....#นี้คือปุถุชนผู้โง่เขลาต่อเมื่อเป็นปุถุชนผู้ฉลาดมีปัญญาดีไม่หลงสร้างไฟทุกข์ภายในขึ้นมาซ้ำเติมตนเขาจะปฏิบัติอย่างนี้ เมื่อได้ยินเสียงที่ไม่น่าพอใจเขาจะพยายามข่มจิตไว้ไม่ให้มันโง่..หลงสร้างไฟคือความทุกข์ร้อนมาย่างเผาตนเองอุปมาเหมือนกับ บุรุษอยู่ในกองฟางข้าว(กองเฟือง)ถึงจะหนาวแค่ไหน จะข่มจิตไว้ ไม่ยอมหลงจุดไฟเพื่อผิงเพราะมันจะไหม้ตนเองร้อนตาย# เขาคนนี้ข่มจิตตนเองไว้ไม่ให้..หลงก่อไฟร้อนมาย่างเผาตนเองเขาไปไหน..มาไหน..ไม่ทุกข์ใจ เอิงเอ่ย......ชาตินี้ปุถุชนคนนี้ได้วิชาฉลาด เจอธรรมแท้พระพุทธเจ้าไม่หลงสร้างทุกข์ขึ้นมาเผาตน เมื่อเกิดการเห็นสิ่งอันเป็นที่ไม่น่าพอใจทั้งหลาย ก็เฉยๆไม่รู้จะสร้างความร้อนใจมาเผาตนทำไม หาเหตุผลไม่ได้เลย....ถ้าเมื่อต้องมาเกิดชาติใหม่อุปนิสัยเก่าคือการที่ไม่ยอมสร้างทุกข์ใจขึ้นมาเผาตน จะติดตามมาด้วย...#คำว่าทุกข์ คืออาการทั้งหลายทั้งปวงที่ไม่สบายใจหงุดหงิดเอ่ย เซงเอ่ย เศร้าเอ่ย โกธรเอ่ย โมโหเอ่ยแค้นใจเอ่ย กระวนกะวายใจเอ่ยเจ็บจากการอกหักเอ่ย เป็นต้น#####################ในกรณีแห่ง อินทรีย์5คือ ตา หู จมูก ลิ้น กายเมื่อเกิดผัสสะหรือเกิดการรับรู้ วิธีปฏิบัติคล้ายกับวิธีปฏิบัติต่อหู เมื่อมีการได้ยินเสียงในทางตา เมื่อมีการเห็น เหมือนสองข้อแรกพระมงคลชัย กิตติโสภโณ อย่าหลงวิบากเด้อ

โหมดใช้อินเทอร์เน็ต
๑.เวลาที่มีคนด่าเรา?
เสียงด่าของเขานั้นมันไม่ได้ เป็นยาสั่งหรือยาดลใจสั่งให้เรา
ต้องแน่นอกอึดอัดร้อนทุกข์ใจเลย

"ต้องอารมณ์เสียนะ" ไม่มี

"ต้องไม่สบายใจนะ" ไม่มี

"ต้องอารมณ์ไม่ดีนะ" ไม่มี

"ต้องหงุดหงิดนะ" ไม่มี

"ต้องโกธรเลือดขึ้นหน้านะ" ไม่มีสั่งเลย

""
และในเสียงด่า ก็ไม่มีคำพูดหรือคำพยัญชนะ
ที่สั่งจิตเราบอกเรา อ๊ะ..ให้สร้างกระแสจิต ที่เป็นความทุกข์ใจมาเผาตนเองนะ"
เอาให้ร้อนๆไปเลย ระเบิดประทุอยู่กลางใจเลยนะ
ไม่มีบอกเลย

แต่ความอัดอัดแน่นร้อนใจที่เป็นทุกข์นั้น เรานี่เองเป็นผู้ปรุ่งผู้สร้างมันขึ้นมา
เพื่อเผารนบันทอนจิตจนร้อนอกร้อนใจ
จนไม่เป็นสุข

เสียงด่าก็อยู่ส่วนหนึ่ง ที่มาจากปากเขา
..................
ความอึดอัดแน่นร้อนกลางอก
เหมือนมีลูกไฟวิ่งอยู่ภายใน
อันนี้ไม่ได้มาจากเขาเลย

แต่จิตเรานี้เองเป็นผู้สร้างความไม่สบายใจขึ้นมา สร้างมาเผาจิตตนเอง จนเป็นทุกข์ซ้ำใน ทั้งกลางวันและกลางคืน

เมื่อมันผ่านไปแล้ว..... จิตก็ยังปรุงยังสร้างกระแสความทุกข์ขึ้นเผารนอีก ร้อนอกร้อนใจอีกเป็นรอบที่สอง
ผ่านไปอีกก็ยังสร้างมาเผาอีกเป็นรอบที่สาม ที่สี่ ที่ห้า..... จนวันตายก็ไม่รู

#ตามธรรมดาผู้เป็นปุถุชน ต้องโง่แบบนี้กันทุกคน

ต่อเมื่อได้ฟังหรือได้อ่านจนเขาใจว่า
อ๋อ... ความทุกข์ทางใจ เรานี่เองเป็นผู้โง่สร้างขึ้นมาทำร้ายบันทอนจิตตนเอง
เหมือนกับเผลอเอามีดแทงตนเองเลือดไหลใหญ่เลย....

#นี้คือปุถุชนผู้โง่เขลา

ต่อเมื่อเป็นปุถุชนผู้ฉลาดมีปัญญาดี
ไม่หลงสร้างไฟทุกข์ภายในขึ้นมาซ้ำเติมตน
เขาจะปฏิบัติอย่างนี้ เมื่อได้ยินเสียงที่ไม่น่าพอใจ

เขาจะพยายามข่มจิตไว้
ไม่ให้มันโง่..หลงสร้างไฟ
คือความทุกข์ร้อนมาย่างเผาตนเอง

อุปมาเหมือนกับ บุรุษอยู่ในกองฟางข้าว(กองเฟือง)
ถึงจะหนาวแค่ไหน จะข่มจิตไว้ ไม่ยอมหลงจุดไฟเพื่อผิง
เพราะมันจะไหม้ตนเองร้อนตาย

# เขาคนนี้ข่มจิตตนเองไว้
ไม่ให้..หลงก่อไฟร้อนมาย่างเผาตนเอง
เขาไปไหน..มาไหน..ไม่ทุกข์ใจเอิงเอ่ย...
ส่วนคนด่านั้น ด่าไปด้วยทุกข์ไปด้วย
ทั้งๆที่จริงเขาด่าแบบไม่ต้อง มีทุกข์ก็ได้

# ทางตาก็เหมือนกั

เวลาที่มีคนแสดงอาการเคลือนไหวของร่างกาย ท่าต่างๆ
รูปเคลือนไหวท่าต่างๆนั้นที่เราเห็น
มันไม่ได้เป็นยาสั่งหรือยาดลใจ
สั่งเรา บังคับเรา
ต้องแน่นอกอึดอัดร้อนทุกข์ใจเลย

"ต้องอารมณ์เสียนะ" ไม่มี

"ต้องไม่สบายใจนะ" ไม่มี

"ต้องอารมณ์ไม่ดีนะ" ไม่มี

"ต้องหงุดหงิดนะ" ไม่มี

"ต้องโกธรเลือดขึ้นหน้านะ" ไม่มีสั่งเลย

""
และในรูปที่เคลือนไหว ก็ไม่มีคำพูดหรือคำพยัญชนะ หรือความหมายเป็นนัยว่า
ที่สั่งจิตเราบอกเรา อ๊ะ..ให้สร้างกระแสจิต ที่เป็นความทุกข์ใจมาเผาตนเองนะ"
เอาให้ร้อนๆไปเลย ระเบิดประทุอยู่กลางใจเลยนะ
ไม่มีบอกเลย

แต่ความอัดอัดแน่นร้อนใจที่เป็นทุกข์นั้น เรานี่เองเป็นผู้ปรุ่งผู้สร้างมันขึ้นมา
เพื่อเผารนบันทอนจิตจนร้อนอกร้อนใจ
จนไม่เป็นสุข

รูปเคลื่อนไหวก็อยู่ส่วนหนึ่ง ที่มาจากเขาขยับร่างกายส่วนต่าง
คนเดียวบ้าง สองคนบ้าง หลายคนบ้าง
..................
ความอึดอัดแน่นร้อนกลางอก
เหมือนมีลูกไฟวิ่งอยู่ภายใน
อันนี้ไม่ได้มาจากเขาเลย

แต่จิตเรานี้เองเป็นผู้สร้างความไม่สบายใจขึ้นมา สร้างมาเผาจิตตนเอง จนเป็นทุกข์ซ้ำใน ทั้งกลางวันและกลางคืน

เมื่อมันผ่านไปแล้ว..... จิตก็ยังปรุงยังสร้างกระแสความทุกข์ขึ้นเผารนอีก ร้อนอกร้อนใจอีกเป็นรอบที่สอง
ผ่านไปอีกก็ยังสร้างมาเผาอีกเป็นรอบที่สาม ที่สี่ ที่ห้า..... จนวันตายก็ไม่รู

#ตามธรรมดาผู้เป็นปุถุชน ต้องโง่แบบนี้กันทุกคน

ต่อเมื่อได้ฟังหรือได้อ่านจนเขาใจว่า
อ๋อ... ความทุกข์ทางใจ เรานี่เองเป็นผู้โง่สร้างขึ้นมาทำร้ายบันทอนจิตตนเอง
เหมือนกับเผลอเอามีดแทงตนเองเลือดไหลใหญ่เลย....
#นี้คือปุถุชนผู้โง่เขลา

ต่อเมื่อเป็นปุถุชนผู้ฉลาดมีปัญญาดี
ไม่หลงสร้างไฟทุกข์ภายในขึ้นมาซ้ำเติมตน
เขาจะปฏิบัติอย่างนี้ เมื่อได้ยินเสียงที่ไม่น่าพอใจ

เขาจะพยายามข่มจิตไว้
ไม่ให้มันโง่..หลงสร้างไฟ
คือความทุกข์ร้อนมาย่างเผาตนเอง

อุปมาเหมือนกับ บุรุษอยู่ในกองฟางข้าว(กองเฟือง)
ถึงจะหนาวแค่ไหน จะข่มจิตไว้ ไม่ยอมหลงจุดไฟเพื่อผิง
เพราะมันจะไหม้ตนเองร้อนตาย

# เขาคนนี้ข่มจิตตนเองไว้
ไม่ให้..หลงก่อไฟร้อนมาย่างเผาตนเอง
เขาไปไหน..มาไหน..ไม่ทุกข์ใจ เอิงเอ่ย......

ชาตินี้ปุถุชนคนนี้ได้วิชาฉลาด เจอธรรมแท้พระพุทธเจ้า
ไม่หลงสร้างทุกข์ขึ้นมา
เผาตน เมื่อเกิดการเห็นสิ่งอันเป็นที่ไม่น่าพอใจทั้งหลาย ก็เฉยๆไม่รู้จะสร้างความร้อนใจมาเผาตนทำไม หาเหตุผลไม่ได้เลย

....

ถ้าเมื่อต้องมาเกิดชาติใหม่
อุปนิสัยเก่าคือการที่ไม่ยอมสร้างทุกข์ใจขึ้นมาเผาตน จะติดตามมาด้วย...

#คำว่าทุกข์ คืออาการทั้งหลายทั้งปวงที่ไม่สบายใจ
หงุดหงิดเอ่ย เซงเอ่ย เศร้าเอ่ย โกธรเอ่ย โมโหเอ่ย
แค้นใจเอ่ย กระวนกะวายใจเอ่
เจ็บจากการอกหักเอ่ย เป็นต้น

#####################
ในกรณีแห่ง อินทรีย์5
คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย
เมื่อเกิดผัสสะหรือเกิดการรับรู้ วิธีปฏิบัติคล้ายกับวิธีปฏิบัติต่อ
หู เมื่อมีการได้ยินเสียง
ในทางตา เมื่อมีการเห็น เหมือนสองข้อแรก
    ๑.เวลาที่มีคนด่าเรา?
    เสียงด่าของเขานั้นมันไม่ได้ เป็นยาสั่งหรือยาดลใจสั่งให้เรา
    ต้องแน่นอกอึดอัดร้อนทุกข์ใจเลย

    "ต้องอารมณ์เสียนะ" ไม่มี

    "ต้องไม่สบายใจนะ" ไม่มี

    "ต้องเครียดน่ะ" ไม่มี

    "ต้องอารมณ์ไม่ดีนะ" ไม่มี

    "ต้องเศร้าน่ะ" ไม่มี

    "ต้องหงุดหงิดนะ" ไม่มี

    "ต้องโกธรเลือดขึ้นหน้านะ" ไม่มีสั่งเลย

    ""
    และในเสียงด่า ก็ไม่มีคำพูดหรือคำพยัญชนะ
    ที่สั่งจิตเราบอกเรา อ๊ะ..ให้สร้างกระแสจิต ที่เป็นความทุกข์ใจมาเผาตนเองนะ"
    เอาให้ร้อนๆไปเลย ระเบิดประทุอยู่กลางใจเลยนะ
    ไม่มีบอกเลย

    แต่ความอัดอัดแน่นร้อนใจที่เป็นทุกข์นั้น เรานี่เองเป็นผู้ปรุ่งผู้สร้างมันขึ้นมา
    เพื่อเผารนบันทอนจิตจนร้อนอกร้อนใจ
    จนไม่เป็นสุข

    เสียงด่าก็อยู่ส่วนหนึ่ง ที่มาจากปากเขา
    ..................
    ความอึดอัดแน่นร้อนกลางอก
    เหมือนมีลูกไฟวิ่งอยู่ภายใน
    อันนี้ไม่ได้มาจากเขาเลย

    แต่จิตเรานี้เองเป็นผู้สร้างความไม่สบายใจขึ้นมา สร้างมาเผาจิตตนเอง จนเป็นทุกข์ซ้ำใน ทั้งกลางวันและกลางคืน

    เมื่อมันผ่านไปแล้ว..... จิตก็ยังปรุงยังสร้างกระแสความทุกข์ขึ้นเผารนอีก ร้อนอกร้อนใจอีกเป็นรอบที่สอง
    ผ่านไปอีกก็ยังสร้างมาเผาอีกเป็นรอบที่สาม ที่สี่ ที่ห้า..... จนวันตายก็ไม่รู

    #ตามธรรมดาผู้เป็นปุถุชน ต้องโง่แบบนี้กันทุกคน

    ต่อเมื่อได้ฟังหรือได้อ่านจนเขาใจว่า
    อ๋อ... ความทุกข์ทางใจ เรานี่เองเป็นผู้โง่สร้างขึ้นมาทำร้ายบันทอนจิตตนเอง
    เหมือนกับเผลอเอามีดแทงตนเองเลือดไหลใหญ่เลย....

    #นี้คือปุถุชนผู้โง่เขลา

    ต่อเมื่อเป็นปุถุชนผู้ฉลาดมีปัญญาดี
    ไม่หลงสร้างไฟทุกข์ภายในขึ้นมาซ้ำเติมตน
    เขาจะปฏิบัติอย่างนี้ เมื่อได้ยินเสียงที่ไม่น่าพอใจ

    เขาจะพยายามข่มจิตไว้
    ไม่ให้มันโง่..หลงสร้างไฟ
    คือความทุกข์ร้อนมาย่างเผาตนเอง

    อุปมาเหมือนกับ บุรุษอยู่ในกองฟางข้าว(กองเฟือง)
    ถึงจะหนาวแค่ไหน จะข่มจิตไว้ ไม่ยอมหลงจุดไฟเพื่อผิง
    เพราะมันจะไหม้ตนเองร้อนตาย

    # เขาคนนี้ข่มจิตตนเองไว้
    ไม่ให้..หลงก่อไฟร้อนมาย่างเผาตนเอง
    เขาไปไหน..มาไหน..ไม่ทุกข์ใจเอิงเอ่ย...
    ส่วนคนด่านั้น ด่าไปด้วยทุกข์ไปด้วย
    ทั้งๆที่จริงเขาด่าแบบไม่ต้อง มีทุกข์ก็ได้

    # ทางตาก็เหมือนกั

    เวลาที่มีคนแสดงอาการเคลือนไหวของร่างกาย ท่าต่างๆ
    รูปเคลือนไหวท่าต่างๆนั้นที่เราเห็น
    มันไม่ได้เป็นยาสั่งหรือยาดลใจ
    สั่งเรา บังคับเรา
    ต้องแน่นอกอึดอัดร้อนทุกข์ใจเลย

    "ต้องอารมณ์เสียนะ" ไม่มี

    "ต้องไม่สบายใจนะ" ไม่มี

    "ต้องอารมณ์ไม่ดีนะ" ไม่มี

    "ต้องหงุดหงิดนะ" ไม่มี

    "ต้องโกธรเลือดขึ้นหน้านะ" ไม่มีสั่งเลย

    ""
    และในรูปที่เคลือนไหว ก็ไม่มีคำพูดหรือคำพยัญชนะ หรือความหมายเป็นนัยว่า
    ที่สั่งจิตเราบอกเรา อ๊ะ..ให้สร้างกระแสจิต ที่เป็นความทุกข์ใจมาเผาตนเองนะ"
    เอาให้ร้อนๆไปเลย ระเบิดประทุอยู่กลางใจเลยนะ
    ไม่มีบอกเลย

    แต่ความอัดอัดแน่นร้อนใจที่เป็นทุกข์นั้น เรานี่เองเป็นผู้ปรุ่งผู้สร้างมันขึ้นมา
    เพื่อเผารนบันทอนจิตจนร้อนอกร้อนใจ
    จนไม่เป็นสุข

    รูปเคลื่อนไหวก็อยู่ส่วนหนึ่ง ที่มาจากเขาขยับร่างกายส่วนต่าง
    คนเดียวบ้าง สองคนบ้าง หลายคนบ้าง
    ..................
    ความอึดอัดแน่นร้อนกลางอก
    เหมือนมีลูกไฟวิ่งอยู่ภายใน
    อันนี้ไม่ได้มาจากเขาเลย

    แต่จิตเรานี้เองเป็นผู้สร้างความไม่สบายใจขึ้นมา สร้างมาเผาจิตตนเอง จนเป็นทุกข์ซ้ำใน ทั้งกลางวันและกลางคืน

    เมื่อมันผ่านไปแล้ว..... จิตก็ยังปรุงยังสร้างกระแสความทุกข์ขึ้นเผารนอีก ร้อนอกร้อนใจอีกเป็นรอบที่สอง
    ผ่านไปอีกก็ยังสร้างมาเผาอีกเป็นรอบที่สาม ที่สี่ ที่ห้า..... จนวันตายก็ไม่รู

    #ตามธรรมดาผู้เป็นปุถุชน ต้องโง่แบบนี้กันทุกคน

    ต่อเมื่อได้ฟังหรือได้อ่านจนเขาใจว่า
    อ๋อ... ความทุกข์ทางใจ เรานี่เองเป็นผู้โง่สร้างขึ้นมาทำร้ายบันทอนจิตตนเอง
    เหมือนกับเผลอเอามีดแทงตนเองเลือดไหลใหญ่เลย....
    #นี้คือปุถุชนผู้โง่เขลา

    ต่อเมื่อเป็นปุถุชนผู้ฉลาดมีปัญญาดี
    ไม่หลงสร้างไฟทุกข์ภายในขึ้นมาซ้ำเติมตน
    เขาจะปฏิบัติอย่างนี้ เมื่อได้ยินเสียงที่ไม่น่าพอใจ

    เขาจะพยายามข่มจิตไว้
    ไม่ให้มันโง่..หลงสร้างไฟ
    คือความทุกข์ร้อนมาย่างเผาตนเอง

    อุปมาเหมือนกับ บุรุษอยู่ในกองฟางข้าว(กองเฟือง)
    ถึงจะหนาวแค่ไหน จะข่มจิตไว้ ไม่ยอมหลงจุดไฟเพื่อผิง
    เพราะมันจะไหม้ตนเองร้อนตาย

    # เขาคนนี้ข่มจิตตนเองไว้
    ไม่ให้..หลงก่อไฟร้อนมาย่างเผาตนเอง
    เขาไปไหน..มาไหน..ไม่ทุกข์ใจ เอิงเอ่ย......

    ชาตินี้ปุถุชนคนนี้ได้วิชาฉลาด เจอธรรมแท้พระพุทธเจ้า
    ไม่หลงสร้างทุกข์ขึ้นมา
    เผาตน เมื่อเกิดการเห็นสิ่งอันเป็นที่ไม่น่าพอใจทั้งหลาย ก็เฉยๆไม่รู้จะสร้างความร้อนใจมาเผาตนทำไม หาเหตุผลไม่ได้เลย

    ....

    ถ้าเมื่อต้องมาเกิดชาติใหม่
    อุปนิสัยเก่าคือการที่ไม่ยอมสร้างทุกข์ใจขึ้นมาเผาตน จะติดตามมาด้วย...

    #คำว่าทุกข์ คืออาการทั้งหลายทั้งปวงที่ไม่สบายใจ
    หงุดหงิดเอ่ย เซงเอ่ย เศร้าเอ่ย โกธรเอ่ย โมโหเอ่ย
    แค้นใจเอ่ย กระวนกะวายใจเอ่
    เจ็บจากการอกหักเอ่ย เป็นต้น

    #####################
    ในกรณีแห่ง อินทรีย์5
    คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย
    เมื่อเกิดผัสสะหรือเกิดการรับรู้ วิธีปฏิบัติคล้ายกับวิธีปฏิบัติต่อ
    หู เมื่อมีการได้ยินเสียง
    ในทางตา เมื่อมีการเห็น เหมือนสองข้อแรก

    互聯網模式
    1.當有人大喊大叫時我們?
    他的責罵所以不是處方藥?啟發了我們
    一定不舒服好難過

    一定很傷心“不

    ”一定不舒服。“不

    ”一定不能情緒化“不

    ”,你必須生氣。“不

    ”一定要氣血在前面。”根本沒有命令

    “”
    ,並用責備的聲音 沒有言語支配我們思想的輔音詞
    我們,啊,讓我們創建一個痛苦的心靈感應來燒自己。
    讓它變熱炸彈爆炸了。在我的心裡,我
    不能告訴你,

    但壓縮急於苦難,我們才是創作者燒到包子上
    脾氣暴躁心中
    不悅

    ,咒罵聲還在。從他嘴裡說出來
    …………………………………………………………………………...
    密封性在胸口中間,
    像一個火球裡面
    ,這不來來自他,

    但這是我的靈魂是創造者我更不滿意為燒心而生獨自一人,直到我再次痛苦日夜晚上,

    當它經過而且……心還是熟的。創建一個電流我又不耐煩了是第二輪
    再次通過被遺棄再次燃燒第三,第四,第五輪……直到我死的那一天,我都不知道。#像往常一樣

    一定是這麼傻的。大家,

    聽完之後或者讀到他心說:“
    哦……心的痛苦。我們就是那個這個傻瓜創造了傷心自我,
    就像一個自刺刀我這麼大....

    #這是一個普通人。愚蠢

    的時候聰明人雅迪
    不迷戀生火內心苦惱給自己灌水,
    他會行動當聽到這個不滿意

    他會試圖壓制保持它,
    不要讓它變得愚蠢..生火
    是苦烤和自烤

    喜歡 堆裡的人稻田)
    不管多冷我會壓抑我的心,我不會墜入火海
    ,因為它會燃燒又熱又

    拯救自己,
    不要讓..迷路。烤薯條他去哪兒了?
    ..不要難過我說……
    至於罵人 被悲傷詛咒此外,
    儘管他你可以詛咒而不受苦。

    #眼睛是一樣的。n.

    當某人表演時議案 b身體、姿勢
    、動作我們
    ,這不是藥。命令或啟發,
    命令我們,強迫我們
    ,必須固執好難過

    一定很傷心“不

    ”一定不舒服。“不

    ”一定不能情緒化“不

    ”,你必須生氣。“不

    ”一定要氣血在前面“根本沒有順序


    和在畫的圖片中醒了,沒話說?輔音或意義我說
    我們思想的秩序我們,啊,讓我們創建一個痛苦的心靈感應來燒自己。
    讓它變熱炸彈爆炸了。在我的心裡,我
    不能告訴你,

    但壓縮急於苦難,我們才是創作者燒到包子上
    脾氣暴躁心靈
    不快樂。

    動畫是部分地 來自他移動不同的身體一些人
    ,一些人,一些人,一些人
    .........
    密封性在胸口中間,
    像一個火球裡面
    ,這不來來自他,

    但這是我的靈魂是創造者我更不滿意為燒心而生獨自一人,直到我再次痛苦日夜晚上,

    當它經過而且……心還是熟的。創建一個電流我又不耐煩了是第二輪
    再次通過被遺棄再次燃燒第三,第四,第五輪……直到我死的那一天,我都不知道。#像往常一樣

    一定是這麼傻的。大家,

    聽完之後或者讀到他心說:“
    哦……心的痛苦。我們就是那個這個傻瓜創造了傷心自我,
    就像一個自刺刀我這麼大....
    #這是一個普通人。愚蠢

    的時候聰明人雅迪
    不迷戀生火內心苦惱給自己灌水,
    他會行動當聽到這個不滿意

    他會試圖壓制保持它,
    不要讓它變得愚蠢..生火
    是苦烤和自烤

    喜歡 堆裡的人稻田)
    不管多冷我會壓抑我的心,我不會墜入火海
    ,因為它會燃燒又熱又

    拯救自己,
    不要讓..迷路。烤薯條他去哪兒了?
    ..我不難過,我說......

    這個民族這很聰明 見佛真法上帝
    不會妄想製造苦難。上來,
    看到就自焚什麼是一點都不滿意我只是不知道放棄不耐煩你為什麼自焚?我找不到原因。L

    ....

    如果你必須來生了新的生活,
    舊的習慣是拒絕傷心燃燒自己會隨之而來。..

    #痛苦這個詞就是所有症狀。全部再見,
    生氣,曾說,傷心,說生氣,說生氣
    ,說怨恨,說焦急。你因為心碎
    而受傷說等等。

    ######################
    以 5 種有機物為例,
    即眼、耳、鼻、舌、身。
    或穿孔類似的做法隨著實踐聽的時候貼在耳朵上

    看的時候眼睛裡有聲音 像前兩個一樣
      1.當有人大喊大叫時我們?
      他的責罵所以不是處方藥?啟發了我們
      一定不舒服好難過

      一定很傷心“不

      ”一定不舒服。

      ,“你必須有壓力。”沒有

      “一定是心情不好不,“你必須

      難過。”不,“你必須

      難過。”“不

      ”一定要氣血在前面。”根本沒有命令

      “”
      ,並用責備的聲音 沒有言語支配我們思想的輔音詞
      我們,啊,讓我們創建一個痛苦的心靈感應來燒自己。
      讓它變熱炸彈爆炸了。在我的心裡,我
      不能告訴你,

      但壓縮急於苦難,我們才是創作者燒到包子上
      脾氣暴躁心中
      不悅

      ,咒罵聲還在。從他嘴裡說出來
      …………………………………………………………………………...
      密封性在胸口中間,
      像一個火球裡面
      ,這不來來自他,

      但這是我的靈魂是創造者我更不滿意為燒心而生獨自一人,直到我再次痛苦日夜晚上,

      當它經過而且……心還是熟的。創建一個電流我又不耐煩了是第二輪
      再次通過被遺棄再次燃燒第三,第四,第五輪……直到我死的那一天,我都不知道。#像往常一樣

      一定是這麼傻的。大家,

      聽完之後或者讀到他心說:“
      哦……心的痛苦。我們就是那個這個傻瓜創造了傷心自我,
      就像一個自刺刀我這麼大....

      #這是一個普通人。愚蠢

      的時候聰明人雅迪
      不迷戀生火內心苦惱給自己灌水,
      他會行動當聽到這個不滿意

      他會試圖壓制保持它,
      不要讓它變得愚蠢..生火
      是苦烤和自烤

      喜歡 堆裡的人稻田)
      不管多冷我會壓抑我的心,我不會墜入火海
      ,因為它會燃燒又熱又

      拯救自己,
      不要讓..迷路。烤薯條他去哪兒了?
      ..不要難過我說……
      至於罵人 被悲傷詛咒此外,
      儘管他你可以詛咒而不受苦。

      #眼睛是一樣的。n.

      當某人表演時議案 b身體、姿勢
      、動作我們
      ,這不是藥。命令或啟發,
      命令我們,強迫我們
      ,必須固執好難過

      一定很傷心“不

      ”一定不舒服。“不

      ”一定不能情緒化“不

      ”,你必須生氣。“不

      ”一定要氣血在前面“根本沒有順序


      和在畫的圖片中醒了,沒話說?輔音或意義我說
      我們思想的秩序我們,啊,讓我們創建一個痛苦的心靈感應來燒自己。
      讓它變熱炸彈爆炸了。在我的心裡,我
      不能告訴你,

      但壓縮急於苦難,我們才是創作者燒到包子上
      脾氣暴躁心靈
      不快樂。

      動畫是部分地 來自他移動不同的身體一些人
      ,一些人,一些人,一些人
      .........
      密封性在胸口中間,
      像一個火球裡面
      ,這不來來自他,

      但這是我的靈魂是創造者我更不滿意為燒心而生獨自一人,直到我再次痛苦日夜晚上,

      當它經過而且……心還是熟的。創建一個電流我又不耐煩了是第二輪
      再次通過被遺棄再次燃燒第三,第四,第五輪……直到我死的那一天,我都不知道。#像往常一樣

      一定是這麼傻的。大家,

      聽完之後或者讀到他心說:“
      哦……心的痛苦。我們就是那個這個傻瓜創造了傷心自我,
      就像一個自刺刀我這麼大....
      #這是一個普通人。愚蠢

      的時候聰明人雅迪
      不迷戀生火內心苦惱給自己灌水,
      他會行動當聽到這個不滿意

      他會試圖壓制保持它,
      不要讓它變得愚蠢..生火
      是苦烤和自烤

      喜歡 堆裡的人稻田)
      不管多冷我會壓抑我的心,我不會墜入火海
      ,因為它會燃燒又熱又

      拯救自己,
      不要讓..迷路。烤薯條他去哪兒了?
      ..我不難過,我說......

      這個民族這很聰明 見佛真法上帝
      不會妄想製造苦難。上來,
      看到就自焚什麼是一點都不滿意我只是不知道放棄不耐煩你為什麼自焚?我找不到原因。L

      ....

      如果你必須來生了新的生活,
      舊的習慣是拒絕傷心燃燒自己會隨之而來。..

      #痛苦這個詞就是所有症狀。全部再見,
      生氣,曾說,傷心,說生氣,說生氣
      ,說怨恨,說焦急。你因為心碎
      而受傷說等等。

      ######################
      以 5 種有機物為例,
      即眼、耳、鼻、舌、身。
      或穿孔類似的做法隨著實踐聽的時候貼在耳朵上

      看的時候眼睛裡有聲音 像前兩個一樣
        任何可以看到此帖子的人都可以看到修訂歷史記錄。

        ไม่มีความคิดเห็น:

        แสดงความคิดเห็น

        หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น