วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

นิยายเรื่องสั่นอิงธรรมะ

พระมงคลชัย กิตติโสภโณ อย่าหลงวิบากเด้อ
15 ส.ค. 2016
(ใครเคยขโมยเงินพระ ควรรีบหามาใช้หนี้คืน ตามที่ขโมยไป
อย่าให้ผ่านชาตินี้ไปโดยไม่ได้ใช้หนี้)
ยิ่งเป็นกรรมที่ทำกับพระ เวลาได้รับผลกรรม แทบเสียวสันหลัง
เพราะไม่ธรรมดาเหมือนกับทำกับคนทั่วไป ควรรีบหามาคืนก่
อนจะไม่มีโอกาสให้หา"
เท่าที่อ่านธรรมะมาหลายที่
แค่เป็นหนี้ ๕ บาท ก็ไปเกิดเป็นวัว
เจ้าหนี้ พอรู้ว่าลูกหนี้ตายแล้ว ก็ยอมยกหนี้ให้ เป็นโมฆะไม่ต้อง
จ่ายหนี้แล้ว
สมัยก่อน เงิน ๕ บาทมันมีค่ามากนะ ถ้าไปถามคนแก่ก็พอ
จะรู้ว่ามันมีค่ามากถึงกับไปซื้อหมูได้ตัวหนึ่งเลย
# เรื่องโจรปล้นพระ
พระองค์หนึ่งขึ้นรถแทกซี่ บังเอิญคนขับแทกซี่นั้นดันเป็นโ
จรที่เพิ่งปล้นเอารถแทกซี่คันที่ขับอยู่นี่มาหมาดๆเมื่อ 4 ชัวโมงที่
แล้ว
สาเหตุที่ปล้น เพราะเมียมีความต้องการเงิน จึงทำทุกวิถี่ทา
งเพื่อให้ได้มาซึ่งเงิน มาให้เมีย
แล้วจึงปล้นเงินพระในย่ามอีก ได้4,000 บาทเกลี้ยง เมื่อได้เงินแล้ว
จึงขับรถไปทางป่า
คิดว่าจะจอดรถไล่ให้พระลงข้างป่าเมื่อลงแล้วค่อ
ยซักเอาปืนยิ่งใส่ให้ตาย
เมื่อคิดอย่างนั้นโจรจึงจอดรถ แล้วไล่พระให้ลง
พระก็เปิดประตูลงด้วยดีอย่างว่าง่าย เมื่อลงไปแล้วโจ
รก็ซักปืนเล็งไปที่พระองค์นั้น เตรียมจะยิง
ทันใดนั้น พระองค์นั้นด้วยความเมตตาสงสารโจร เพราะ
จะทำบาปหนัก
จึงพูดว่า" โจรเอ๋ย..อันว่าความตายนั้นอาตมาไม่กลัวดอก
เพราะอาตมาทำกุศลมาจนมั่นใจแล้ว ว่าตายแล้วจะไปส
ู่ภพที่ดีแนนอน
แม้เจ้าไม่ยิง อาตมาก็จะต้องตายอยู่แล้ว เพราะทุกชีวิตไม
่อาจล่วงพ้นความตายไปได้
แม้เจ้าจะยิง อาตมาก็ไม่กลัวดอก
เพราะมั่นใจในคุณธรรมความดีของตน ว่าทำมาดีแล้ว
ส่วนเจ้าตั่งหากเป็นผู้ที่ควรกลัวตาย เพราะมัวทำแต่บาป
หาบแต่กรรมเพื่อเมียชั่ว
อาตมาไม่กลัวดอกความตาย
แม้เจ้าจะยิ่งหรือไม่ยิงอาตมาก็จะต้องตายในเร็วๆวันนี้
โจรพูด : ท่านรู้ได้ยังไงว่า เมียผมชั่ว
พระ ตอบ : โจรเอ่ย ตัวเธอเอง ยังพอมีความรู้สึกสำนึกผิดชอบชั่วดี
อยู่ ยังพอกลับใจมาเป็นคนดีได้ ยังไม่สายดอก
แค่อย่าทำชั่วตามที่เมียบอก
เงิน4,000 นี้ แม้เจ้าจะเอาไปให้เมียก็ไม่พอ
เพราะเมียเจ้าเล่นการพนัน และเอาให้กิ๊ก แม้เจ้าจะเที่ยว
ปล้นหาเงินได้ แสนหนึ่ง ก็ไม่พอหรอกสำหรับเมีย
และอาตมาก็ไม่ได้เสียดายเงินนั้นดอก
ที่อาตมาต้องมาโดนปล้นครั้งนี้
เพราะกรรมในชาติก่อน ที่อาตมาเคย "เป็นพ่อค้าขายเ
ครื่องบริขารสำหรับพระสงฆ์ คือจีวร บาต แล้วอุบาสกคนหนึ
่งมาขอซื้อจีวร ตั้งใจจะนำไปถวายพระสงฆ์
อาตมาด็ขายให้
อุบาสกก็จ่ายเงินตามราคานั้น
อาตมาแม้ได้กำไรจากการตั้งราคาขายแล้ว
ก็โกงอุบาสกคนซื่อนั้นบอกว่า จ่ายมาอีกยังไม่พอ
อุบาสกก็จ่ายอย่างว่าง่าย
แล้วก็เดินออกไป
ต่อมาก็ร้อนใจรู้สึกผิด คิดว่า ไม่ควรโกงเลยๆ
ยิ่งเป็นอุบาสกด้วยแล้ว ยิ่งไม่ควรเลยๆ
ด้วยกรรมนั้น
ทำให้ชาติต่อมา จะทำการค้าขายอะไร ก็ขายไม่ดี
ขาดทุน เป็นอยู่อย่างนั้น ๕๐๐ ชาติ
จนมาถึงชาตินี้ แม้จะไปบิณฑบาตที่ไหน ก็ไม่มีค่อยมีใครใส่
ให้อาตมาเลย ต้องขอเพื่อนพระด้วยกันกินอยู่บ่อยครั้ง
โจร พูด: ผมไม่เชื่อหรอก ท่านไม่ต้องมาสอนผม
----------
แต่ด้วยความที่ใจของโจรยังพอมีหิริโอตตับปะ(ควา
มเกรงกลัวบาป และผลของบาป)ผุดขึ้นมาเตื่อนที่ใจ
เลยไม่กล้ายิ่งพระ
แล้วจึงขับรถหนีไป
ผ่านไป 4 เดือน เขายังไม่ถอดส่วนประกอบต่างๆ
ของรถแยกออก เพื่อส่งไปขาย ตามร้านที่รับซื้ออะไหล่
เขาคิดไตร่ตรองพิจารณา
อยู่หลายวัน จากนั้น เขาจึงตัดสินใจ ขับรถไปทิ้งไว้
ขวางทางถนน ทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
พร้อมเขียนจดหมาย "ขอโทษเจ้าของรถ และขอให้นำรถไปแ
จ้งตำรวจให้หาเจ้าของรถ"
จากนั้นเขาจึงเลิกกับเมีย
ส่วนพระองค์นั้นต่อมา ๗ วัน ก็มรณะภาพลง
ต่อแต่นั้นมาเขารู้สึกไม่สบายใจเรื่องเงิน จึงไปขออาศัยญาต
ิจากต่างจังหวัด เพื่อให้หางานให้ทำ ได้เงินมาแล้วจะ
เอาไปทำบุญชดใช้หนี้ที่อดีตได้เคยปล้นเงินพระ
ต่อมา 4 เดือน เขาจึงได้เงินครบ 4,000 แต่เจ้านายให้เพิ่มอีก
1,000 เพราะเห็นว่ามีความขยันทำงาน
เขาจึงนำเงินนี้ไปทำบุญก่อนทำ ก็อธิฐานว่า" ข้าพระเจ้าขอ
ใช้หนี้ พระองค์นั้น ที่ข้าพระเจ้าเคยปล้น ด้วยเงินนี้ 5,000 บาท
และขอตั้งสัจจะว่า จะไม่ปล้น โกง ขโมยของๆใครอีก
เขาจึงคิดว่า เรานี้ตั้งแต่เกิดมา เคยทำกุศลน้อยมาก
เคยทำบาปมากกว่า
เครื่องป้องกันความ
ตายเรายังไม่พอ เขาจึงคิดต่อไปว่า ถ้าให้ตายตอนนี้
พร้อมไหม
ก็ตอบตนเองว่ายังไม่พร้อม
เพราะกุศลที่เคยทำมีน้อยมาก
เราควรออกบวชประพฤธรรม ภาวนา อันเป็นกุศลสูงสุด
เขาจึงลาหัวหน้า แล้วออกบวช
ประพฤภาวนาอยู่ในวัดป่า
ทุกครั้งก่อนนอนเขาก็จะ ตั้งจิตอุทิศแผ่บุญ ลำพึงไปหาคนที่เ
ขาเคยฆ่าเคยทำไม่ดีต่อ
หลังจากนั้นผ่านไป สิบปี
เขาก็ออกเผ่ยแผ่ธรรมะสั่งสอนประชาชน
# มืดมา สว่างไป
จบนิยายเรื่องสั่นอิงธรรมะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น