วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ถาม:รูป = ร่างกายเวทนา = สุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์สัญญา = ความจำมั่นหมายสังขาร = ?วิญญาน = ความรู้สึกขอความคิดเห็นนะครับว่า สังขารในขั้นห้านี้ควรแปลว่าอะไร และมีหน้าที่อย่างไรในกระบวนการทำงานของมัน...ขอความอนุเคราะ...

ถาม:รูป = ร่างกาย
เวทนา = สุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์
สัญญา = ความจำมั่นหมาย
สังขาร = ?
วิญญาน = ความรู้สึก
ขอความคิดเห็นนะครับว่า สังขารในขั้นห้านี้ควรแปลว่าอะไร และมีหน้าที่อย่างไรในกระบวนการทำงานของมัน...ขอความอนุเคราะ...

ตอบ:สังขาร มี ความหมายหลายนัย
๑ รูปขันธ์ คือ มหาภูตรูป๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม 
๒ เวทนาขันธ์ คือ จักขุสัมผัสสะชาเวทนาที่เป็น สุขเวทนา/ทุกขเวทนา/อทุกขมสุขเวทนา
มโนสัมผัสสะชาเวทนา ที่เป็น สุขเวทนา/ ทุกขเวทนา/ อทุกขมสุขเวทนา/
๓ สัญญาขันธ์ คือ รูปสัญญา สัทธะสัญญา คัณธะสัญญา ระสะสัญญา โผฏฐัพพะสัญญา
๔ สังขารขันธ์ คือ รูปสัญญเจตนา สัทธะสัญญเจตนา คัณธะสัญญาเจตนา ระสะสัญญเจตนา โผฏฐัพพะสัญญเจตนา ธัมมะสัญญเจตนา
๕ วิญญาณขันธ์ คือ จักขุวิญญาณ ฯ มโนวิญญาณ

(2)

ขันธ์ ๕ คือ
๑ . รูปขันธ์ คือ มหาภูตรูปสี่ ดิน น้ำ ไฟ ลม
๒ . เวทนาขันธ์ คือ สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนา
๓ . สัญญาขันธ์ คือ สีเขียว สีแดง สีขาว (รูปสัญญา)
๔ . สังขารขันธ์ คือ 
สิ่งที่ปรุงแต่งให้สำเร็จออกมาเป็นรูปขันธ์
สิ่งที่ปรุงแต่งให้สำเร็จออกมาเป็นเวทนาขันธ์
สิ่งที่ปรุงแต่งให้สำเร็จออกมาเป็นสัญญาขันธ์
สิ่งที่ปรุงแต่งให้สำเร็จออกมาเป็นสังขารขันธ์
สิ่งที่ปรุงแต่งให้สำเร็จออกมาเป็นวิญญาญขันธ์


มรรคต่อ สังขารขันธ์ คือ 


" กะเฮาบ่ได้สำคัญไง 


พระพุทธเจ้าจึงไม่ให้ถือมั่นธรรมชาติตน


เมื่อยังหลงถือมั่นธรรมชาติตนอยู่ เมื่อไร่จะได้พบ"พระอภิมหาบรมสุข" 


เมื่อยังหลงถือมั่นธรรมชาติตนอยู่อย่างนี้


เมื่อไร่จะได้พบ "อมตธาตุ"


เมื่อยังหลงถือมั่นธรรมชาติตนเองอยู่ 


เมื่อไรจะได้พบ "พระนิพพาน"


เมื่อยังหลงถือมั่นธรรมชาติเราอยู่


เมื่อไรจะพบ "พระสันติสุข"


เมื่อยังหลงถือมั่นในสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสบอกไม่ให้ถือมั่น


แล้วเมื่อไร จะพบ "ธรรมธาตุ"


เมื่อยังหลงถือมั่นเราอยู่ 


เมื่อไรจะพบ "ที่สุดสิ้นแห่งทุกข์ที่แท้จริง"


เมื่อยังหลงถือมั่นธรรมชาติตนคือจิตนี้


เมื่อไรจะจบกิจ.....


" กะเฮาบ่ได้สำคัญไง 


พระพุทธเจ้าจึงไม่ให้ถือมั่นธรรมชาติตน


เมื่อยังหลงถือมั่นธรรมชาติตนอยู่ เมื่อไร่จะได้พบ"พระอภิมหาบรมสุข" 


เมื่อยังหลงถือมั่นธรรมชาติตนอยู่อย่างนี้


เมื่อไร่จะได้พบ "อมตธาตุ"


เมื่อยังหลงถือมั่นธรรมชาติตนเองอยู่ 


เมื่อไรจะได้พบ "พระนิพพาน"


เมื่อยังหลงถือมั่นธรรมชาติเราอยู่


เมื่อไรจะพบ "พระสันติสุข"


เมื่อยังหลงถือมั่นในสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสบอกไม่ให้ถือมั่น


แล้วเมื่อไร จะพบ "ธรรมธาตุ"


เมื่อยังหลงถือมั่นเราอยู่ 


เมื่อไรจะพบ "ที่สุดสิ้นแห่งทุกข์ที่แท้จริง"


เมื่อยังหลงถือมั่นธรรมชาติตนคือจิตนี้


เมื่อไรจะจบกิจ.....


ถ้ายังมัวหลงถือมั่นอยู่ ก็เหมือนในภาพ


"ธรรมชาติตน ก็อยู่ข้างนอก


ถ้ายังถือธรรมชาติตน ก็ยังไม่ถึงพระพุทธเจ้า




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น