[๓๓๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าว่าพระราชา มหาอำมาตย์ แห่งพระราชามิตร อำมาตย์
ญาติ หรือสาโลหิต พึงปวารณาภิกษุนั้นผู้ประพฤติอย่างนี้ อยู่อย่างนี้ เพื่อให้ยินดียิ่ง ด้วย
โภคะทั้งหลายว่า ท่านจงมาเถิดบุรุษผู้เจริญ ผ้ากาสาวะเหล่านี้ยังความเร่าร้อนให้เกิดขึ้นแก่ท่าน
มิใช่หรือ ท่านจะเป็นคนโล้นเที่ยวถือกระเบื้องอยู่ทำไม ท่านจงสึกมาบริโภคและจงทำบุญเถิด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุนั้นประพฤติอย่างนี้ อยู่อย่างนี้ จักบอกคืนสิกขาสึกมาเป็นคฤหัสถ์
ข้อนั้นไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม่น้ำคงคาไหลไป หลั่งไป เทไปในทิศปราจีน
ถ้าว่ามหาชนพึงเอาจอบและตะกร้ามาด้วยคิดว่า พวกเราจักช่วยกันทำแม่น้ำคงคานี้ให้ไหลไป
หลั่งไป เทไปข้างหลัง เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉนหมู่มหาชนนั้นพึงกระทำ
แม่น้ำคงคานี้ให้ไหลไป หลั่งไป เทไปข้างหลังได้บ้างหรือหนอแล ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า
หามิได้ พระเจ้าข้า ฯ
พ. ข้อนั้นเป็นเพราะเหตุไร ฯ
ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เพราะแม่น้ำคงคาไหลไป หลั่งไป เทไปใน ทิศปราจีน
แม่น้ำคงคานั้นอันบุคคลจะทำให้ไหลไป หลั่งไป เทไปข้างหลัง ไม่ใช่กระทำได้ง่าย ก็หมู่มหาชน
นั้นพึงเป็นผู้มีส่วนแห่งความลำบาก ความคับแค้นเพียงไรแม้ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าว่า
พระราชา มหาอำมาตย์แห่งพระราชา มิตรอำมาตย์ ญาติหรือสาโลหิต พึงปวารณาภิกษุนั้นผู้
ประพฤติอย่างนี้ อยู่อย่างนี้เพื่อจะให้ยินดียิ่งด้วยโภคะทั้งหลายว่า ท่านจงมาเถิดบุรุษผู้เจริญ
ผ้ากาสาวะเหล่านี้ยังความเร่าร้อนให้เกิดขึ้นแก่ท่านมิใช่หรือ ท่านจะเป็นคนโล้นเที่ยวถือ
กระเบื้องอยู่ทำไม ท่านจงสึกมาบริโภคโภคะและจงทำบุญเถิด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้น
ประพฤติอย่างนี้ อยู่อย่างนี้ จักบอกคืนสิกขาสึกออกมาเป็นคฤหัสถ์ ข้อนั้นไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้
ฉันนั้นเหมือนกันแล ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่าจิตของเธอ น้อมไป เอนไป เงื้อมไปใน
วิเวกสิ้นกาลนาน ก็จิตนั้นจักเวียนมาเพื่อเป็นคฤหัสถ์ข้อนั้นไม่ใช่ฐานะที่จะมีได้ ฯ
โชคดีชาตินี้เกิดมามีเป้าหมาย ที่ดีที่สุดให้แก่ตน คือต้องเป็นอริยะบุคล"
เป้าหมายว่าจะรวยนั้น ยังไม่ดีที่สุด
เป้าหมายว่าจะต้องสมหวังในความรัก ยังไม่ดีที่สุด
เพราะอริยะบุคคล นั้นเป็นผู้รอดพ้นจากอบายนรกเปตรเดรัจฉาน ภพที่ต้องไปเกิด มีแค่สวรรค์และโลกมนุษย์
ส่วนเป้าหมายที่นอกเหนือจากอริยะบุคคลแล้ว
เสี่ยงลงนรก เปตร เดรัจฉาน อยู่ น่ากลัว!
มาภาวนาเพื่อเป็นอริยะบุคคลกันเถิด"
""
เป็นครั้งแรกที่ได้ไปกราบ
พอไปถึงยังไม่เข้าไปถึงเขตสถานที่
เราอธิฐานทำความเคารพ
พระพุทธองค์ก่อนเลย..
พอเข้าไปถึงสถานที่ มองขึ้นไปที่ฉัตร
ช่างปลื่มปิติใจเบาเหลือล้น
จากนั้นจึงเดินเวียนรอบพระธาตุสามรอบ
ขณะเดินปิติมันเลี้ยงจิต
เท้าอย่างกะจะลอยจากพื้น
พุทโธ วันทา นะมามิหัง
แต่กายนี้ อย่าได้มายึดมาหลงว่ามีจริงเลย เพราะที่สุดแล้วมันไม่มีจริง มันมีชัวคราว
สมดังที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า ดูก่อนวักกลิ
ประโยชน์อะไรด้วยกายอันเปื่อยเน่านี้ อันเธอเห็นแล้ว, ดูก่อนวักกลิ
ผู้ใดแล เห็นพระธรรม ผู้นั้นชื่อว่า เห็นเราตถาคต ดังนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น