วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

มีครั้งหนึ่งตอนยังไม่บวชตอนเป็นโยมอยู่

มีครั้งหนึ่งตอนยังไม่บวช
ตอนเป็นโยมอยู่
ชอบ สวมมนต์ นั้งสมาธิ แผ่เมตตาก่อนนอน  คืนนั้นฝันว่า"
ตัวเองยืนอยู่ในป่า ในฝันเป็นเวลากลางคืน แล้วได้มองขึ้นไปบนฟ้า เห็นก้อนเมฆสีเหลืองทอง ค่อยๆ เคลือนตัวขยายแผ่ออกๆ แผ่ออกๆ จนเห็นเป็นโบสหลังหนึ่งอยู่บนฟ้า มีแสงรัสมีแผ่ออกสวยมาก 
เราก็ดูด้วยความปลื้มใจปิติใจมาก
เย็นชื่นใจมาก 
หลังจากได้ดูสักพักแล้ว ก้อนเมฆก็ค่อยๆลอยเข้ามาบังไว้"

แล้วก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
"วิเคราะห์ความฝันเล่นๆว่า โบสวัดอะไรจะอยู่บนฟ้า มันต้องเป็นวิมานแน่ๆ ฝันเห็นสวรรค์มันต้องเป็นเรื่องดีแน่
เอ่ออีกไม่กี่เดือนก็จะได้บวชแล้ว
แสดงว่าต้องเจออะไรดีๆแน่ๆตอนที่บวช

วันต่อมาฝันอีก 
ฝันว่า พ่อที่ตายแล้ว มาหา
สภาพแก่ ผอมมาก ซีดเหลือง เหมือนกับคนหิวไม่ได้กินอะไรมา ทั้งชีวิต มีมดแมลงไต่กัดกินล้ำไส้ อวัยวะภายในท้องด้วย เหม็นมากๆ
ความรู้สึกในฝันคือ รู้สึกว่าแกยังไม่ตาย

แล้วเราก็สะตุ้งตื่นขึ้นมา 

แล้วมาวิเคราะห์ว่า โอ้..สงสัย อยากให้เราบวชให้แน่ๆ ไม่งงั้นคงไม่มามาโชว์ตัวให้ดู

"ตอนนี้เป็นพระ มาตีความหมายอีกที
ความฝันแรก เราจะเห็นแสงสว่างจากธรรมะ
ซึ่งตอนนี้ก็เป็นไปแบบนั้นจริงๆ
จิตเบาจิตสว่างมาก ไม่ค่อยยึดอารม์ที่โคจรมาให้เห็น
แม้แต่ราคะในฝัน ปกติคนฝันจะไม่มีสติ
จะไหลไปกลับอารมณ์ความฝันไปเลย

ความฝันมันเหมือนจริงมาก มีนางฟ้า
เข้ามาในกุฏี มายั่วให่ร่วมเพศด้วย
เราก็มองเห็นใส่ชุดสีฟ้า เราไม่ชอบชุดสีฟ้า เหมือนนางฟ้าจะรู้ใจเรา เปลี่ยนสีชุดต่อหน้าต่อตา เป็นสีชมพู
เราไม่ชอบสีสมพู
เหมือนนางฟ้าจะรู้ใจเรา
เปลี่ยนชุดเป็นสีแดง
เอ่อนั้นนี้ค่อยเหมาะหน่อย
แต่หน้าตาเราไม่ชอบแบบนี้
นางฟ้าเหมือนจะรู้ใจเรา
เลยเปลี่ยนหน้าเป็นหน้าไม่สวย
และผมสั้นๆ

เราเห็นแล้ว ได้ๆ เสปกนี้แหละ
หลังจากนั้น นางฟ้าที่หน้าไม่สวย
ค่อยๆ ลงมือจะร่วมรักกับเรา
ทันทีที่ลงมือ เรามีความรู้สึกว่า เฮ้ย..ไม่ได้ๆ เป็นพระอยู่ 
ทันใดนั้นก็ตื่นขึ้นมา แล้วตัดสินว่า เราแพ้ราคะหรือราคะชนะเรา
ตัดสินวินาทีสุดท้ายคือ ไม่มีจิตยินดีใน
 ความชอบรักๆใครทางเพศแทบจะไม่มี
โทสะ ไปเกลียดใคร ไปชังใคร นี่ก็แทบจะไม่มีมาให้เห็น เห็นอารมณ์ที่มันพยามเข้ามาปรุง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น