วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

พระผู้ใหญ่ก็ถือมั่นว่าการงานของตน เป็นงานสำคัญ ก็ถือมั่นว่ามันเป็นเรื่องหรือเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำ โดยเฉพาะงานทางโลก ไปช่วยเขาจัดนั่นจัดนี่ ไปผูกผ้าแต่งผ้า ปลูกผักสวนครัวก็มี ทำนาเกี่ยวข้าวก็มี ทำเหมือนฆราวาสเยอะแยะไปหมด พระนี่ลืมหน้าที่ของตนเอง

พระผู้ใหญ่ก็ถือมั่นว่าการงานของตน เป็นงานสำคัญ ก็ถือมั่นว่ามันเป็นเรื่องหรือเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำ โดยเฉพาะงานทางโลก ไปช่วยเขาจัดนั่นจัดนี่ ไปผูกผ้าแต่งผ้า  ปลูกผักสวนครัวก็มี ทำนาเกี่ยวข้าวก็มี ทำเหมือนฆราวาสเยอะแยะไปหมด พระนี่ลืมหน้าที่ของตนเอง แต่ไปทำหน้าที่เยี่ยงฆราวาส นี่มันชักจะสับสนไปกันใหญ่แล้ว พระทุกวันนี้   ส่วนพระอีกรูปหนึ่ง ก็คิดว่าบวชมาพักผ่อน สบาย ดูทีวีดูละคร ดูมวย  ไม่คิดจะฝึกอบรมจิตเลย   ส่วนพระอีกรูปหนึ่ง ก็มีทิฐิถือมันว่า งานเผยแผ่ธรรมะ ไรท์ซีดีธรรมะแจกญาติโยมนี้แลเป็นงานเป็นเรื่องสำคัญ งานอื่นๆเอาไว้ทีหลัง กวาดใบไม้เอาไว้ก่อน  ถูศาลาเอาไว้ก่อน ขัดห้องน้ำล้างห้องน้ำเอาไว้ก่อน นั้งไรท์แผ่นซีดีอย่างเดียว   ส่วนพระอีกรูปหนึ่ง ก็มีทิฐิว่า งานปฏิบัติธรรมนี้แล เดินจงกลม นั้งสมาธิ เป็นงานสำคัญ อย่างอื่นไม่ทำยกเว้นบิฑบาตและฉันอาหาร   ท่านอาจารย์มีความคิดอย่างไรบ้างครับ

เพราะสาเหตุนี้พระปฏิบัติอยู่กับพระไม่ปฏิบัติไม่ได้    ส่วนพระไม่ปฏิบัติก็อยู่กับปฏิบัติไม่ได้  พระเคร่งในศีลก็อยู่กับพระทุศีลไม่ได้  พระทุศีลก็อยู่กับพระมีศีลไม่ได้

พระสัทธรรม จะอยู่ได้ ถึง พ.ศ 5,000 ปี แบบมีแต่พระดีๆไม่ได้หรืออย่างไร  ถ้าพระจะไม่ดี ไม่ดีหลัง 5000 ปี ไม่ได้รึไง


ผมรู้สึกว่า ผมเกิดมาผิดยุคผิดสมัยมากๆๆ


โยม: อนุโมทนาสาธุ ขอบคุณพระคุณเจ้าทั้งสองท่านด้วยนะครับ ^^


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น