วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ผมไม่ค่อยมีเวลาตักบาต


Wattanavorasakul Tom
ถาม:
ผมไม่ค่อยมีเวลาตักบาตเลยใช้วิธีตามที่อ่านเจอเอาแก้วไว้บนหิ้งพระแล้วหยอกเหรียนถวายพระบนหิ้งทุกวันแทนแต่เรื่องมีอยู่ว่าเวลาผมใส่แล้วออกไปทำงานแม่ผมเวลาขาดเงินชอบมาหยิบไปใช้ในบางครั้งทำให้ผมรู้สึกไม่ดีกลัวแม่จะผิดเพราะเอาเงินที่ผมถาวยพระไปใช้แต่อีกใจนึงคิดเป็นเพราะผมดูแลท่านไม่ดีพอคำถามคือแม่ผมจะผิดมากไหมครับที่เอาเงินนั้นไปใช้และผมควรจะทำยังไงดีครับเลิกใส่บาตบนหิ้งพระไปเลยตะดีไหมครับ.... ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้านะครับอาจาร์ย

ตอบ:
เรื่องลักษณะแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ในสมัยพุทธกาลครับ
คือมีชายคนหนึ่งได้เนื้อสดๆของสัตว์มาแล้ว ตั้งใจสละจะทำเป็นอาหารต่อไปเพื่อเอาไปถวายพระภิกษุ จึงตากเนื้อนั้นไว้ตรงแดด
เมื่อชายนั้นนำเนื้อไปตากแล้ว ก็หลีกไปทำอย่างอื่น
และแล้วก็มีอีกาตัวหนึ่ง บินอยู่บนฟ้า มองลงมาเห็นเนื้อที่ตาก จึงบินลงมาชกเอาไป แล้วบินขึ้นไป ขณะบินไปได้ไม่นาน
อีกาตัวนั้นก็ตกลงตาย และไปอุบัติเกิดในนรกทันที
ท่านสรุปไว้ว่า มรณะกรรมของอีกาตัวนี้ เพราะเหตุ ขโมยเนื้อของชายคนนั้น ที่เขาตั้งใจได้สละให้เป็นของพระแล้ว
{ ตรงนี้ ถ้าลงรายละเอียดทางจิตของอีกา ก็คือมีเจตนาจะขโมย กับทั้งรู้ว่าเป็นของมีเจ้าของ เป็นต้น
จึงเป็นการผิดศีลข้อ อทินนา ด้วยความจงใจ
แต่ถ้าหากว่าอีกาตัวนั้น ไม่ได้คิดว่าเราขโมย ไม่ได้คิดว่าเป็นของมีเจ้าของหวงแหน แต่หากินตามประสาสัตว์
ทางจิตก็จะไม่เป็นการขโมย
แม้การกระทำทางกายจะเหมือนขโมย
พระพุทธเจ้า ตรัสว่า เรากล่าวซึ่งเจตนาว่าเป็นกรรม
อีกาตัวนี้เจตนาขโมย จึงมีผลแบบนี้
เรื่องนี้ก็ต้องรู้ไปถึงจิตใจของท่านว่า ตอนท่านเอา ท่านมีเจตนาอย่างไร
บางทีท่านอาจจะเอาด้วยเจตนาถือวิสาสะ ถ้าถือวิสาสะก็ไม่เป็นบาปสำหรับตัวท่าน เพราะความคุนเคยกัน
แต่ถ้าท่านรู้ว่าส่วนนี้ลูกจะเอาไปทำบุญกับพระ แต่ตอนนี้ยังไม่ถวายพระ ยังเป็นของลูกเราอยู่ เอาสักหน่อยคงไม่เป็นไร นั่นก็เป็นการเอาของลูกโดยวิสาสะ
แต่ถ้ารู้ทั้งรู้ว่าส่วนนี้ลูกสละเป็นของทำบุญกับพระแล้ว
และมีไถยจิต คิดจะลักขโมย ลงมือลักสำเร็จ ก็เป็นบาปครับ
ถ้าเป็นกรณีสุดท้าย แนะนำให้ท่าน นำมาคืนเท่าตัวครับ
และกล่าววาจาจะไม่ทำอีก
ครับความคิดเห็นผม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น