วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ธรรมชาติเขาก็กำลังบอกเราอยู่เสมอว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกธาตุ นั่นไมเที่ยง

ธรรมชาติเขาก็กำลังบอกเราอยู่เสมอว่า..
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกธาตุ นั่นไมเที่ยงนะ มันไม่มีสิ่งที่มั่นคงเที่ยงถาวรนะ
จิตใจก็ไม่เที่ยงนะ อย่ายึดสุขมากนะ
อย่ายึดทุกข์มากนะ ให้เอาแบบอย่างพ่อแม่เรานะ
พระอาทิตย์คือพ่อแม่เรา กล้าหาญ จะส่องแสงไปโดนอะไรถูกอะไรได้หมด ไม่กลัว ทั้งสิ่งที่ไม่ดี และสิ่งที่ดี
ทั้งความสุข ความทุกข์  พระอาทิตย์ย่อมไม่ลำเอียงเลือกที่จะส่องแสงสว่างไป แม้แต่ความมืด ราคะ โทสะ โมหะ ขอแค่ออกมาให้เห็น  ก็จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร สิ่งใดเป็นสิ่งใด เพราะด้วยความสว่าง คือมีตัวทำหน้าที่รู้
คือสตินั้นเอง รู้บ่อยๆปัญญาจะเกิด
ปัญาจะแหลมคม เห็นทุกข์เป็นสิ่งแปลกปลอม

ธรรมชาติรอบๆตัวเรานั้น
ต้นไม้เองก็โชว์ให้เห็นว่าฉันไม่เที่ยง ดอกไม้ก็พากันโชว์ให้เห็นว่าฉันไม่เที่ยง
แล้วมนุษย์มันจะไปเที่ยงได้อย่างไร !

แม่แต่ดอกไม้
ก่อนจะออกมาเป็นดอก เปรียบเสมือนเด็กอยู่ในท้องแม่

เริ่มมีดอกน้อยๆออกโผ่ขึ้นมาให้เห็น  เปรียบเสมือน วัยทารก

ดอกเริ่มบานมีการพัฒนาโตขึ้นเป็นลำดับ  เปรียบเสมือน วัยเด็ก

ดอกบานสีสดใสใกล้จะสมบูรณ์
กลีบดอกเริ่มมีกลิ่นหอม
เปรียบเสมือน วัยรุ่น

ดอกบานเปล่งปลั่งสวยเต็มที่กลิ่นหอมเต็มที่พร้อมแล้วแหละนะที่จะล่อให้แมลงมาจับดอกเพื่อจะขยายพันธ์ต่อไป
เปรียบเสมือน เริ่มเข้าวัยผู้ใหญ่

ดอกที่สีสันสดใสงามๆกลิ่นหอมๆเริ่ม
แปรเปลียนเสือมทีละน้อยลงน้อยลง
เปรียบเสมือน วัยผู้ใหญ่จะล่วงไปหาวัยทอง

และดอกที่เริ่มเสื่อมลงๆเริ่มจะไม่สวยแล้ว
เปรียบเสมือน เดินจะเข้าสู่ความชรา

และดอกไม้ไม่ไหวจะเกาะกิ่งแล้ว จะมีลมหรือไม่มีลมมาพัด
ก็มีจะหลุดร่วงลงจากต้นตกลงสู่พื้นดินกลายเป็นปุ๋ย
เปรียบเสมือน วัยแก่ชรา รอเวลา..เกิดในภพใหม่

ความตายคือความเกิด
ตายแล้วไม่มีการรอในภพใดภพหนึ่งเพื่อเกิด เพราะความตายคือความเกิดใหม่
ถ้าสุคติภูมิจะเกิดในพรหมโลก
เทวาโลก มนุษย์โลก
ถ้าทุคติภูมิจะเกิดในนรก เดรัจฉาน อสูร เปรตวิสัย

#ใบไม้แห้งร่วงล่นลงดิน เปรียบเสมือน
คนแก่ที่ตาย

#ส่วนใบไม้ยังมีเขียวๆเหลืองๆอยู่ ร่วงล่นลงดิน เปรียบเสมือน พยามัจราชบอกว่า : "ไม่ต้องรอถึงตอนแก่กูก็เอามึงไปได้เหมือนกัน "

วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่
สิ่งใดเป็นกุศลรีบทำซะ
สิ่งใดเป็นบาปอกุศลรีบหาวิธีลดย่อน ถอยออกมา ใช้ปัญญาหลีกเลี่ยงให้มากๆ

แนะนำจากผู้โพส ควร
1+ฟังธรรมะบ่อยๆ ธรรมที่เป็นอริยสัจสี่
(แนะนำหลวงพ่อปราโมทย์สวนสันติธรรม)
2+ดูอารมณ์ความรู้สึกทางใจบ่อยๆ
3+ดูลมหายใจบ่อยๆเพื่อยืดเวลาตายไปอีก จะได้อยู่บำเพ็ญบุญกุศลได้นานหน่อย

บุคคล ๑๐ จำพวก (มิคสาลาสูตร)
อานนท์ ! บุคคลบางคนในโลกนี้
เป็นผู้ทุศีล, เป็นผู้มีศีล, เป็นผู้มีราคะกล้า, เป็นผู้มักโกรธ, เป็นผู้ฟุ้งซ่าน

และไม่รู้ชัดซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือแห่งความเป็นผู้ทุศีล, เป็นผู้มีศีล, เป็นผู้มีราคะกล้า, เป็นผู้มักโกรธ, เป็นผู้ฟุ้งซ่าน ของเขาตามความเป็นจริง

บุคคลนั้น ไม่กระทำกิจแม้ด้วยการฟัง ไม่กระทำกิจแม้ด้วยความเป็นพหูสูต ไม่แทงตลอดแม้ด้วยความเห็น

ย่อมไม่ได้วิมุตติแม้อันเกิดในสมัย เมื่อตายไป เขาย่อมไปทางเสื่อม ไม่ไปทางเจริญ ย่อมถึงความเสื่อม ไม่ถึงความเจริญ...

อานนท์ ! บุคคลบางคนในโลกนี้
เป็นผู้ทุศีล, เป็นผู้มีศีล, เป็นผู้มีราคะกล้า, เป็นผู้มักโกรธ, เป็นผู้ฟุ้งซ่าน

แต่รู้ชัดซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันเป็นที่ดับโดยไม่เหลือแห่งความเป็นผู้ทุศีล, เป็นผู้มีศีล, เป็นผู้มีราคะกล้า, เป็นผู้มักโกรธ, เป็นผู้ฟุ้งซ่าน ของเขาตามความเป็นจริง

บุคคลนั้นกระทำกิจแม้ด้วยการฟัง กระทำกิจแม้ด้วยความเป็นพหูสูต แทงตลอดด้วยดีแม้ด้วยความเห็น

ย่อมได้วิมุตติแม้อันเกิดในสมัย เมื่อตายไป เขาย่อมไปทางเจริญ ไม่ไปทางเสื่อม ย่อมถึงความเจริญอย่างเดียว ไม่ถึงความเสื่อม...

เพราะกระแสแห่งธรรมย่อมถูกต้องบุคคลนี้
ใครเล่าจะพึงรู้เหตุนั้นได้ นอกจากตถาคต

อานนท์ ! เพราะเหตุนั้นแหละ เธอทั้งหลาย
อย่าได้เป็นผู้ชอบประมาณในบุคคล และอย่าได้ถือประมาณในบุคคล

เพราะผู้ถือประมาณในบุคคลย่อมทำลายคุณวิเศษของตน เราหรือผู้ที่เหมือนเราพึงถือประมาณในบุคคลได้ ...

-บาลี ทสก. อํ. ๒๔/๑๔๗/๗๕.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น