กรรมฐานวิปัสนาจากการมองลูกแก้วสีน้ำเงิน

ช่วงบ่ายๆวันหนึ่งพระมงคลชัย กิตติโสภโณ หยิบลูกแก้วที่ซื้อมา ขึ้นมาดูและเพ่งดูแนวเพื่อให้เกิดความรู้เสริมในการปฏิบัติมองลูกแก้วปฏิบัติสมถะกับลูกแก้วแล้วบรรลุทิพยจักขุ พระอาจารย์มงคลชัย กิตติโสภโณมองไปมองมาใกล้ใบ้หน้าบางห่างใบหน้าบ้าง คือพินิจพิจารณาอยู่แต่กับลูกแก้วลูกนั้นเพื่อให้เกิดความรู้เสริมในการปฏิบัติมองลูกแก้วปฏิบัติสมถะกับลูกแก้วแล้วบรรลุทิพยจักขุ

อยู่2-3ชัวโมง ในรถ แล้วกลายเป็นวิปัสนาญาณในขณะมองลูกแก้วสีน้ำเงิน คือมนุษย์ที่อยู่บนพื้นดินมากมายทั้งหมด ต่อไปร่างกายก็สลายกลายไปเป็นดิน แล้วก็มีเกิดร่างกายมนุษย์ขึ้นมาใหม่ด้วยการคลอดออกมา แล้วก็ดำเนินชีวิตไปตามปกติ แล้วก็สลายกลับเป็นดิน แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็กลับสลายกลายเป็นดิน

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็กลับสลายกลายเป็นดิน

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็กลับสลายกลายเป็นดิน

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน

ท่าจับลูกแก้ว จับแบบถือไว้นำมาพิจารณา

 ช่วงบ่ายๆวันหนึ่งพระมงคลชัย กิตติโสภโณ หยิบลูกแก้วที่ซื้อมา ขึ้นมาดูและเพ่งดูแนวเพื่อให้เกิดความรู้เสริมในการปฏิบัติมองลูกแก้วปฏิบัติสมถะกับลูกแก้วแล้วบรรลุทิพยจักขุ พมมองไปมองมาใกล้ใบ้หน้าบางห่างใบหน้าบ้าง คือพินิจพิจารณาอยู่แต่กับลูกแก้วลูกนั้นเพื่อให้เกิดความรู้เสริมในการปฏิบัติมองลูกแก้วปฏิบัติสมถะกับลูกแก้วแล้วบรรลุทิพยจักขุ
อยู่2-3ชัวโมง ในรถ แล้วก็มีปัญญาปุ๊บขึ้นมา อุปมาลูกแก้วที่ถือในมือนี้เปรียบเสมือนโลกนี้และมีมนุษย์มากมายอยู่บนพื้นดิน กำลังดำรงชีพ เคลื่อนไหวต่างๆกัน แล้วร่างกายมนุษย์เหล่านั้นก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายลงสู่พื้นโลก    จิตพระมงคลชัยกลายเป็นวิปัสนาญาณอยู่2ชัวโมง ในขณะมองลูกแก้วสีน้ำเงินนั้น คือเป็นมุมมองธรรมมะอนิจจัง คือมนุษย์ที่อยู่บนพื้นดินมากมาย ต่อไปร่างกายก็กลับสลายลงสู่พื้นโลก แล้วก็มีเกิดร่างกายมนุษย์ขึ้นมาใหม่ด้วยการคลอดออกมา แล้วก็ดำเนินชีวิตไปตามปกติ แล้วก็สลายกลับเป็นดิน แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้ว ต่อไปร่างกายก็กลับสลายลงสู่พื้นโลก เหลือแต่ส่วนจิตที่ปรุงแต่งเป็นต่างๆซึ่งเป็นอนิจจังฯ

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน เหลือแต่ส่วนจิตที่ปรุงแต่งเป็นต่างๆซึ่งเป็นอนิจจังฯ

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็กลับสลายกลายเป็นดิน

เหลือแต่ส่วนจิตที่ปรุงแต่งเป็นต่างๆซึ่งเป็นอนิจจังฯ

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็กลับสลายกลายเป็นดิน

เหลือแต่ส่วนจิตที่ปรุงแต่งเป็นต่างๆซึ่งเป็นอนิจจังฯ

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน

เหลือแต่ส่วนจิตที่ปรุงแต่งเป็นต่างๆซึ่งเป็นอนิจจังฯ

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน

เหลือแต่ส่วนจิตที่ปรุงแต่งเป็นต่างๆซึ่งเป็นอนิจจังฯ

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน

เหลือแต่ส่วนจิตที่ปรุงแต่งเป็นต่างๆซึ่งเป็นอนิจจังฯ

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน
เหลือแต่ส่วนจิตที่ปรุงแต่งเป็นต่างๆซึ่งเป็นอนิจจังฯ


แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน
เหลือแต่ส่วนจิตที่ปรุงแต่งเป็นต่างๆซึ่งเป็นอนิจจังฯ

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน
เหลือแต่ส่วนจิตที่ปรุงแต่งเป็นต่างๆซึ่งเป็นอนิจจังฯ

แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน
เหลือแต่ส่วนจิตที่ปรุงแต่งเป็นต่างๆซึ่งเป็นอนิจจังฯ


แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน
เหลือแต่ส่วนจิตที่ปรุงแต่งเป็นต่างๆซึ่งเป็นอนิจจังฯ


แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน

เหลือแต่ส่วนจิตที่ปรุงแต่งเป็นต่างๆซึ่งเป็นอนิจจังฯ
แล้วก็มีการก่อร่างกายแบบมนุษย์ออกมาใหม่ด้วยการคลอด แล้วก็มีการเคลื่อนไหวไปในแต่ละวันเรื่อยๆบนพื้นดินโลก แล้วก็เป็นอนิจจังกลับสลายกลายเป็นดิน
เหลือแต่ส่วนจิตที่ปรุงแต่งเป็นต่างๆซึ่งเป็นอนิจจังฯ

ท่าจับลูกแก้ว จับแบบถือไว้นำมาพิจารณา ไม่ต้องวางบนแท่นก็ได้