วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2565

เพิลสรรเสริญแต่พระที่เฮ็ดเวียกเฮ็ดงานเด๊ะพระที่ขยันปรารภความเพียรฆ่ากิเลสเพิลบ่หยองเพิลบ่อสรรเสริญเด๊ะเพิลมองว่าขี้คร้านกะบอจักถ้าแมนเปรียบใส่พระสูตร ธาตุนิสัยของคนพ.ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอเห็นภิกษุกลุ่มนั้นไหมที่อยู่ตรงนั้นภ.เห็นพระเจ้าข้าพ.ภิกษุกลุ่มนั้นชอบปรารภความเพียรพ.ดูกรภิกษุทั้งหลายเธอเห็นภิกษุกลุ่มนั้นไหมที่อยู่ตรงนั้นภ.เห็นพระเจ้าข้าพ.ภิกษุกลุ่มนั้นชอบทำการงานเห็นพระหนุ่มเฮ็ดหยังที่บอคือหมู่เฮ็ด แหวกแนว เฮ็ดบ่อคือหมู่มันเป็นบ้าผีแล้ว เฮ็ดให้เครือญาติเสียชื่อเสียหน้าแล้วบาดนิกูชื่อลอง เป็นมีศักดิ์เป็นลุง โอ้ยเสียหน้าเด้ๆ ไปเตือนไปว่ามันกะน้าเป็นหยังคิอเป็นจังสี่เป็นหยังติ ย้อนว่าปู่ถ่านพิลมักงานพระรุ่นหลังบวชมาบ่อรู้อีหยัง เห็นเถระเฮ็ดแบบนั้นกะเอาตามไผบ้านเห็นกะ โอ้ พระตั้องแบบนี้ตั่วนิเห็นเฮ็ดงานต้องเฮ็ดงาน ปิณโต หรือว่าสังฆทานนิจังสิมีผลมากมีอานิสงค์มากมันกะเลยเข้าใจผิดกันเมิ๊ดพวงเลย อาจสิย้อนว่าเป็นมาแต่เจ้าอาวาสรุ่นก่อนพาเป็น ปู่ถ่านกะเลยถือเอาตาม คึจังพระสูตรนี่ชาวบ้านเด๋ละชาวบ้านกะอาจสิย้อนมักคะทายก รุ่นวังหันพาเฮ็ด กะใด เลยเป็นแนวนี่รุ่นต่อไปกะสิเป็นแบบนี้ละโชคดีที่เฮา บอคือบ่อไหลตามเฮานิบ่อแมนคนที่มักเฮ็ดงานใช้กำลังปานใด เบิงจากนิ้วมือกะพอสิฮู้ อ่านหนังสือธรรมะเล่มหนึ่ง ชื่อว่า เกมกรรม ให้ไปหาโหลดมาอ่านเด้อเพิลบอกว่า คนนิ้วน้อยคือคนที่บ่อค่อยมักงานที่ใช้มือเฮ็ดหนักๆแต่วาวิทยาศาตร์บอกว่า คนที่นิ้วมือนิ้วนางยาวกว่านิ้วชี้มาก แต่ไม่ยาวเท่ากันกับนิ้วกลางเป็นคนที่มีเซลล์ความเป็นผู้ชายเยอะและวิ่งเร็วมากซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆสมัยตอนมัธยม เราเป็นคนไม่ค่อยชอบกีฬาเท่าไร่แต่ชอบหลีกไปอยู่คนเดียวตามลำพังไปนั่งอยู่ห้องใต้บันไดคนเดียว และก็ดูเข้ามาที่ความรู้สึกกลางอกที่ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวว่าง เดี๋ยวโปร่งเดียวเบาก็ดูไปเฉยๆ แบบงงๆ ดูความรู้สึกตนแบบนี้มาตั้งแต่ตอนป.4 จำได้เลยจำได้เลย วันนั้นกีฬาสี เราอยู่สีชมภูเราไม่ไปแข่งกับเขา เขาจะเอาลงแข่งเราเลยไปลี่ที่บนต้นมะม่วงหน้าโรงเรียนพอเขาแข่งเสร็จ ครูก็ประกาศให้นักเรียนทุกคนมารวมสีจะแจกเหรียญทองเหรียญเงินให้ผู้ที่ อันดับหนึ่ง ตามแต่ละ รายการที่แข่งถึงใครไม่ได้ลงแข็งก็จะแจกขนมเราก็ดูความรู้สึกตัวเอง ไอ้ว่างๆนั่นแหละที่อยู่กลางอก ไม่อยากลงไปร่วมมันวุ่นแท้ ก็เฉยอยู่บนต้นไม้คนเดียวพอขึ้นมัธยม ม.1 ก็ดูความรู้สึกตนเองอีกนั้นแหละจนถึง ม.6 การดูความรู้สึกตนเองมันยิ่งแก่รอบ คือสติพัฒนาขึ้น มันมีแต่ชวนให้นั่งสมาธิ ไปอยู่กรุงเทพก็นั้งสมาธิไปเก็บเงินช่วยลุงก็นั้งสมาธิไปขายโอ่งก็นั้งสมาธิจนที่สุดบวช ก็มีปู่ป๊อกสอนนั้นสมาธิสอนพุธโท แล้วก็เอาจิตเกาะกับกายเราก็ทำตาม แต่ไม่ถนัดเลยอึดอึดนั้งสมาธิพุธโท รู้ลม แบบนี้ทำอยู่ประมาณ 5 วัน ก่อนนอนจิตมันรวมเข้ามา ที่กายสงบมาก) แล้วก็มีตัวอะไรก็ไม่รู่ไต่ในผ้าสบง ยุกยิกๆ จึงเอามือเปิดดู ไม่เห็นเลยก็เสียดาย ความสงบนั้นตอนนั้นไม่รู้ว่ส(นี่คือ กายยานุปัสณา สอนบำเพ็ญฌาณ)(ถ้าปู่ป๊อกสอน เวทนานุปัสนาสุขก็รู้นะ ทุกข์ก็รู้นะ เฉยๆก็รู้นะเมื่อพ้น ๓ พรรษาแล้วเราจะพิจารณา ว่าควรอยู่หรือไม่ควรอยู่ เพราะการอยู่ในถิ่นอันสมควร ธรรมดาบุคคลที่อยู่ในสถานที่อันควร ในมงคล๓๘ประการ ย่อมเจริญถ้าเราชอบทำความเพียรเห็นภัยในสังสารวัฏปานนี้แล้ว เราก็ควรไปอยู่ในสถานที่ ที่เหมาะเฉพาะตนแก่การทำความเพียรจะได้ไม่มีคน มากวน เกลียดเรามองเราว่าเป็นพวกจิตสกปกให้เป็นบาปเป็นกรรมแก่เขาพระถิเห็นภัยในสังสารวัฏนั้นมีหน่อยคัก...หลายครั้งหลายเถือเฮามักสิเว้ากับเจ้าของว่า"มึงคึเกิดผิดยุคผิดสมัยแถะ"คึบ่ไปเกิดในสมัยพุทธกาลพุ่นทันพระพุทธเจ้า ทันพระแท้บ่แมนพระปลอมถิเพิลเป็นพระอรหันต์ พระอนาคามี พระสกิทาคามีพระโสดาบัน พระถิมีศีลแท้มีหิริละอายในบาปทั้งหลาย พระที่มีจิตหมุนไปในทางปรารภความ เพียรเพื่อหลุดออกจากสังสารวัฏให้ได้ พาเฮาออกจากกามคุณ๕ บ่อได้ไปเกิดทันเพิลอยู่นำเพิลเลยเป็นหยังๆ คือบ่อไปเกิดช่วงนั้นมาเกิดเฮ็ดหยังยามนี้ยามพระพากันหลง"ธรรม"ธรรมของพระพุทธเจ้าที่พาออกจากคุกสังสารวัฏบ่อประพฤติ สติปัฏฐานสี่ สัมมัปะธานสี่ อิทธิบาท๔ อินทรี๕ พละ๕ โพศฌง ๗ อริยมรรคมีองค์๘ บ่อประพฤตินี่คือธรรมที่พาออกจากโลก เป็นธรรมะที่พระต้องปฏิบัติเฮาโพสนี้ เฮาละอาใจหลายเจ้าของหลาย เฮาอยากหลุดพ้นแฮง แต่เฮาบอกผู้อื่นบอได้ มันบอกยาก เขาสิวาเป็นบ้าผู้เดียวเมิดวัด หัวสำกะปอมนิบอมีไผ๋เข้าใจเฮา ว่าจิตเฮานิมันเป็นจังใด๋มีแต่ครูบาอาจารย์ที่อยู่อุบลถอดจิตมาสอน นี่คือเพิลเข้าใจเฮาแต่ละมื้อจิตมันปรุงแต่ง"ไปๆไปยุป่าช้าไปยุภูไปยุเขาไป ไปอยู่หม่องที่สงบบอมีคนกวนปรารถความเพียรให้มันหลุดจากอาสวะกิเลส คนที่เห็นอริยสัจได้นิ นั่นคือคนที่เคยสร้างบารมีมาแล้วหลายภพหลายชาติเป็นอสงไขเลยจังสิมาเห็นได้ ควรสิปรารภความเพียรให้ยิ่งขึ้นไปอีก อย่าไปสนคนตาบอดบอเห็นภัย งานที่เกี่ยวกับย้ายธาตุ๔ทั้งหลายอย่าไปยยุงกับมัน เอาแค่เลี้ยงกายเลี้ยงใจกะพอสิไปหรือบ่อไป ไปเด้อๆสิว่าเฮ็ดหยัง สัทธา อะคารัสมา อะนะคาริยัง ปัพพะชิตา"เราเป็นผู้ออกจากเรือนแล้วไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือน" เพื่อการทำที่สุดแห่งกองทุกข์วาแล้วบอเฮ็ด วาหาหยังเฮาด่าเจ้าของเฮ้อ... เฮาเบื่อหลาย บ่ออยากมาเกิดอีกแล้วไผ๋อยากเกิดกะซางเขาละ ไผ๋อยากถ่าพระศรีอารย์กะแล้วแต่เขาละอีกหลายล้านปี พระพุทธเจ้าองค์หน้าสิมาตรัสรู้ สอนธรรมะที่พาออกจากโลกสอนกะสอนคือกันกับพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันแต่ถ้าเจ้าไปเกิดในนรก หรือว่าหลุดไปเกิดอยู่จักวาลอื่น แฮงไกลธรรมของพระพุทธเจ้าเด้อผู้ที่ไกลธรรมะของพระพุทธเจ้าเอินว่ามิจฉาทิฏฐิ ตายแล้วสิลงนรก หรือเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานนึกถึงพระสูตร ถ้าหาคนที่เสมอด้วยหิริโอตตัปปะในศีลบอได้ ในทางจิตกะบ่อได้ ในทางปัญญาเห็นขันธ์เกิดดับกะบ่อได้ เธออย่าอยู่ตรงนั้นนะ ให้ไปผู้เดียวโล้ด คือช้างป่ากังฆะ แล้วอย่าเฮ็ดบาปทั้งปวงครูบาอาจารย์ บอกว่าคนทุศีลเน่าใน อย่าไปยุ่ง อย่าไปสนิทเดี๋ยวสิถืกเขากลืนเด๊ะส่วนพระพวกที่บารมีไม่แก่กล้าก็กรรมของเขาลละ แม่เราก็ตอบแทนแล้ว ด้วยการเอาลำโพงธรรมะสอนเจริญสติไปให้ฟัง จนเริ่มเจริญสติเป็นแม่ออกค้ำทั้งหลาย กับเครื่อญาติ เฮากะเอาให้แล้วพร้อมกับข้อร้องให้ฟังแล้วเพิลสิฟังซำได๋ เจริญสติเป็นละยังขึ้นอยู่กับเพิลแล้ว

เพิลสรรเสริญแต่พระที่เฮ็ดเวียกเฮ็ดงาน
เด๊ะ
พระที่ขยันปรารภความเพียรฆ่ากิเลส
เพิลบ่หยองเพิลบ่อสรรเสริญเด๊ะ
เพิลมองว่าขี้คร้านกะบอจัก
ถ้าแมนเปรียบใส่พระสูตร ธาตุนิสัยของคน

พ.ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอเห็นภิกษุกลุ่มนั้นไหมที่อยู่ตรงนั้น
ภ.เห็นพระเจ้าข้า
พ.ภิกษุกลุ่มนั้นชอบปรารภความเพียร

พ.ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เธอเห็นภิกษุกลุ่มนั้นไหมที่อยู่ตรงนั้น
ภ.เห็นพระเจ้าข้า
พ.ภิกษุกลุ่มนั้นชอบทำการงาน

เห็นพระหนุ่มเฮ็ดหยังที่บอคือหมู่เฮ็ด แหวกแนว เฮ็ดบ่อคือหมู่มันเป็นบ้าผีแล้ว เฮ็ดให้เครือญาติเสียชื่อเสียหน้าแล้วบาดนิ
กูชื่อลอง เป็นมีศักดิ์เป็นลุง โอ้ยเสียหน้าเด้ๆ ไปเตือนไปว่ามันกะน้า

เป็นหยังคิอเป็นจังสี่
เป็นหยังติ ย้อนว่าปู่ถ่านพิลมักงาน
พระรุ่นหลังบวชมาบ่อรู้อีหยัง เห็นเถระเฮ็ดแบบนั้นกะเอาตาม
ไผบ้านเห็นกะ โอ้ พระตั้องแบบนี้ตั่วนิ
เห็นเฮ็ดงาน
ต้องเฮ็ดงาน ปิณโต หรือว่าสังฆทานนิ
จังสิมีผลมากมีอานิสงค์มาก
มันกะเลยเข้าใจผิดกันเมิ๊ดพวงเลย

 อาจสิย้อนว่าเป็นมาแต่เจ้าอาวาสรุ่นก่อนพาเป็น ปู่ถ่านกะเลยถือเอาตาม คึจังพระสูตรนี่
ชาวบ้านเด๋ละ
ชาวบ้านกะอาจสิย้อนมักคะทายก รุ่นวังหันพาเฮ็ด กะใด เลยเป็นแนวนี่
รุ่นต่อไปกะสิเป็นแบบนี้ละ

โชคดีที่เฮา บอคือบ่อไหลตาม


เฮานิบ่อแมนคนที่มักเฮ็ดงานใช้กำลังปานใด เบิงจากนิ้วมือกะพอสิฮู้ อ่านหนังสือธรรมะเล่มหนึ่ง 
ชื่อว่า เกมกรรม ให้ไปหาโหลดมาอ่านเด้อ
เพิลบอกว่า คนนิ้วน้อยคือคนที่บ่อค่อยมักงานที่ใช้มือเฮ็ดหนักๆ
แต่วาวิทยาศาตร์บอกว่า คนที่นิ้วมือนิ้วนางยาวกว่านิ้วชี้มาก แต่ไม่ยาวเท่ากันกับนิ้วกลาง
เป็นคนที่มีเซลล์ความเป็นผู้ชายเยอะ
และวิ่งเร็วมาก
ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
สมัยตอนมัธยม เราเป็นคนไม่ค่อยชอบกีฬาเท่าไร่
แต่ชอบหลีกไปอยู่คนเดียวตามลำพัง
ไปนั่งอยู่ห้องใต้บันไดคนเดียว และก็ดูเข้ามาที่ความรู้สึกกลางอกที่ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวว่าง เดี๋ยวโปร่งเดียวเบา
ก็ดูไปเฉยๆ แบบงงๆ ดูความรู้สึกตนแบบนี้มาตั้งแต่ตอนป.4 จำได้เลย

จำได้เลย วันนั้นกีฬาสี เราอยู่สีชมภู
เราไม่ไปแข่งกับเขา เขาจะเอาลงแข่ง
เราเลยไปลี่ที่บนต้นมะม่วงหน้าโรงเรียน
พอเขาแข่งเสร็จ ครูก็ประกาศให้นักเรียนทุกคนมารวมสี
จะแจกเหรียญทองเหรียญเงินให้ผู้ที่ อันดับหนึ่ง ตามแต่ละ รายการที่แข่ง
ถึงใครไม่ได้ลงแข็งก็จะแจกขนม

เราก็ดูความรู้สึกตัวเอง ไอ้ว่างๆนั่นแหละ
ที่อยู่กลางอก ไม่อยากลงไปร่วมมันวุ่นแท้ ก็เฉยอยู่บนต้นไม้คนเดียว

พอขึ้นมัธยม ม.1 ก็ดูความรู้สึกตนเองอีกนั้นแหละ

จนถึง ม.6 การดูความรู้สึกตนเองมันยิ่งแก่รอบ คือสติพัฒนาขึ้น มันมีแต่ชวนให้นั่งสมาธิ ไปอยู่กรุงเทพก็นั้งสมาธิ

ไปเก็บเงินช่วยลุงก็นั้งสมาธิ

ไปขายโอ่งก็นั้งสมาธิ

จนที่สุดบวช ก็มีปู่ป๊อกสอนนั้นสมาธิ
สอนพุธโท แล้วก็เอาจิตเกาะกับกาย
เราก็ทำตาม แต่ไม่ถนัดเลยอึดอึด
นั้งสมาธิพุธโท รู้ลม แบบนี้
ทำอยู่ประมาณ 5 วัน ก่อนนอน
จิตมันรวมเข้ามา ที่กาย
สงบมาก) แล้วก็มีตัวอะไรก็ไม่รู่ไต่ในผ้าสบง ยุกยิกๆ
 จึงเอามือเปิดดู ไม่เห็นเลย
ก็เสียดาย ความสงบนั้น
ตอนนั้นไม่รู้ว่ส
(นี่คือ กายยานุปัสณา สอนบำเพ็ญฌาณ)

(ถ้าปู่ป๊อกสอน เวทนานุปัสนา
สุขก็รู้นะ ทุกข์ก็รู้นะ เฉยๆก็รู้นะ
เมื่อพ้น ๓ พรรษาแล้ว
เราจะพิจารณา ว่าควรอยู่หรือไม่ควรอยู่ เพราะการอยู่ในถิ่นอันสมควร 
ธรรมดาบุคคลที่อยู่ในสถานที่อันควร ในมงคล๓๘ประการ ย่อมเจริญ

ถ้าเราชอบทำความเพียรเห็นภัยในสังสารวัฏปานนี้แล้ว เราก็ควรไปอยู่ในสถานที่ ที่เหมาะเฉพาะตนแก่การทำความเพียร
จะได้ไม่มีคน มากวน เกลียดเรามองเราว่าเป็นพวกจิตสกปก
ให้เป็นบาปเป็นกรรมแก่เขา

พระถิเห็นภัยในสังสารวัฏนั้นมีหน่อยคัก...

หลายครั้งหลายเถือ
เฮามักสิเว้ากับเจ้าของว่า
"มึงคึเกิดผิดยุคผิดสมัยแถะ"

คึบ่ไปเกิดในสมัยพุทธกาลพุ่น
ทันพระพุทธเจ้า ทันพระแท้
บ่แมนพระปลอม
ถิเพิลเป็นพระอรหันต์ พระอนาคามี พระสกิทาคามี
พระโสดาบัน 
พระถิมีศีลแท้
มีหิริละอายในบาปทั้งหลาย พระที่มีจิตหมุนไปในทางปรารภความ เพียรเพื่อหลุดออกจากสังสารวัฏให้ได้ พาเฮาออกจากกามคุณ๕ บ่อได้ไปเกิดทันเพิลอยู่นำเพิลเลย
เป็นหยังๆ คือบ่อไปเกิดช่วงนั้น
มาเกิดเฮ็ดหยังยามนี้
ยามพระพากันหลง"ธรรม"
ธรรมของพระพุทธเจ้าที่
พาออกจากคุกสังสารวัฏ
บ่อประพฤติ สติปัฏฐานสี่ สัมมัปะธานสี่ อิทธิบาท๔ อินทรี๕ พละ๕ โพศฌง ๗ อริยมรรคมีองค์๘ บ่อประพฤติ

นี่คือธรรมที่พาออกจากโลก 
เป็นธรรมะที่พระต้องปฏิบัติ

เฮาโพสนี้ เฮาละอาใจหลายเจ้าของหลาย เฮาอยากหลุดพ้นแฮง 
แต่เฮาบอกผู้อื่นบอได้ มันบอกยาก เขาสิวาเป็นบ้าผู้เดียวเมิดวัด หัวสำกะปอมนิ
บอมีไผ๋เข้าใจเฮา 
ว่าจิตเฮานิมันเป็นจังใด๋
มีแต่ครูบาอาจารย์ที่อยู่อุบลถอดจิตมาสอน นี่คือเพิลเข้าใจเฮา

แต่ละมื้อจิตมันปรุงแต่ง"
ไปๆไปยุป่าช้า
ไปยุภูไปยุเขาไป ไปอยู่หม่องที่สงบบอมีคนกวน
ปรารถความเพียรให้มันหลุดจากอาสวะกิเลส คนที่เห็นอริยสัจได้นิ นั่นคือคนที่เคยสร้างบารมีมาแล้วหลายภพหลายชาติเป็นอสงไขเลย
จังสิมาเห็นได้ ควรสิปรารภความเพียร
ให้ยิ่งขึ้นไปอีก อย่าไปสนคนตาบอดบอเห็นภัย งานที่เกี่ยวกับย้ายธาตุ๔ทั้งหลายอย่าไปยยุงกับมัน เอาแค่เลี้ยงกายเลี้ยงใจกะพอ
สิไปหรือบ่อไป ไปเด้อๆ

สิว่าเฮ็ดหยัง สัทธา อะคารัสมา อะนะคาริยัง ปัพพะชิตา
"เราเป็นผู้ออกจากเรือนแล้วไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือน" เพื่อการทำที่สุดแห่งกองทุกข์

วาแล้วบอเฮ็ด วาหาหยัง
เฮาด่าเจ้าของ

เฮ้อ... เฮาเบื่อหลาย บ่ออยากมาเกิดอีกแล้ว
ไผ๋อยากเกิดกะซางเขาละ ไผ๋อยากถ่าพระศรีอารย์กะแล้วแต่เขาละ
อีกหลายล้านปี พระพุทธเจ้าองค์หน้าสิมาตรัสรู้ สอนธรรมะที่พาออกจากโลก
สอนกะสอนคือกันกับพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
แต่ถ้าเจ้าไปเกิดในนรก หรือว่าหลุดไปเกิดอยู่จักวาลอื่น แฮงไกลธรรมของพระพุทธเจ้าเด้อ

ผู้ที่ไกลธรรมะของพระพุทธเจ้า
เอินว่ามิจฉาทิฏฐิ  ตายแล้วสิลงนรก หรือเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน

นึกถึงพระสูตร ถ้าหาคนที่เสมอด้วยหิริโอตตัปปะในศีลบอได้ ในทางจิตกะบ่อได้ ในทางปัญญาเห็นขันธ์เกิดดับกะบ่อได้ เธออย่าอยู่ตรงนั้นนะ ให้ไปผู้เดียวโล้ด คือช้างป่ากังฆะ แล้วอย่าเฮ็ดบาปทั้งปวง

ครูบาอาจารย์ บอกว่าคนทุศีลเน่าใน อย่าไปยุ่ง อย่าไปสนิทเดี๋ยวสิถืกเขากลืนเด๊ะ


ส่วนพระพวกที่บารมีไม่แก่กล้า
ก็กรรมของเขาลละ  แม่เราก็ตอบแทนแล้ว ด้วยการเอาลำโพงธรรมะสอนเจริญสติ
ไปให้ฟัง จนเริ่มเจริญสติเป็น
แม่ออกค้ำทั้งหลาย กับเครื่อญาติ เฮากะเอาให้แล้วพร้อมกับข้อร้องให้ฟังแล้ว

เพิลสิฟังซำได๋ เจริญสติเป็นละยัง
ขึ้นอยู่กับเพิลแล้ว

__________________
แผนที่ วัดสวนสันติธรรม
วัดสวนสันติธรรม ตั้งอยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เวลาแสดงธรรม ๗.๐๐ – ๑๐.๐๐ น. ตรวจสอบวันเปิด-ปิดของวัดสวนสันติธรรม และวันที่หลวงพ่อแสดงธรรมนอกสถานที่ได้ที่หน้าปฏิทินธรรม หรือโทรศัพท์ 081-557-9878 ทั้งนี้ไม่ควรสอบถามก่อนวันเดินทางนานเกินไป เพราะพระอาจารย์อาจมีกิจฉุกเฉินได้เสมอ

ข้อแนะนำ

สวนสันติธรรมเปิดให้เข้าฟังธรรมตามวันที่กำหนด ประตูเปิดประมาณ ๖.๓๐ น. เริ่มเทศน์ ๗.๓๐-๘.๐๐ น. (พักฉันเช้า) และเทศน์ต่อเวลา ๘.๔๐-๑๐.๐๐ น. ทางสวนสันติธรรมมีกิจของสงฆ์ที่จะต้องกระทำ จึงขอความกรุณาให้มาในช่วงเวลา ๖.๓๐-๑๐.๐๐ น. เท่านั้น (หมายถึงพระอาคันตุกะที่ไม่ได้นัดหมายและญาติโยมที่ไม่มีหน้าที่ด้านภารกิจกับทางสวนฯ)
โปรดงดรอตักบาตรหน้าประตูสวนสันติธรรม หากมีความประสงค์จะร่วมถวายภัตตาหาร ควรไปถึงก่อนเวลา ๗.๑๕ น. เพื่อเตรียมจัดภัตตาหารให้ทัน
ควรไปเพื่อศึกษาการเจริญภาวนาตามหลักสติปัฏฐาน ๔ หรือตามหลักการดูจิตเป็นสำคัญ
ขอให้รักษาเวลาในการอยู่ฟังธรรมตามเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น
โปรดระวังเรื่องการรบกวนระหว่างการแสดงธรรมและขอความกรุณาอย่าบันทึกภาพในขณะแสดงธรรม
_________________
เรวฺโต
_______________
พระฌานฤทธิ์ เขมจาโร 4  
3110100886471
5

พระบุญเลิศ รตฺนโชโต 23พรรษา

76 
2482 -2558

-2400       -82      -2500      -58


30ปีบอย
______________
วัจฉะ ! ผู้ใดห้ามผู้อื่นซึ่งให้ทาน
ผู้นั้นชื่อว่าเป็นอมิตร ผู้ทำอันตรายต่อสิ่ง ๓ สิ่ง คือ

ทำอันตรายต่อบุญของทายก (ผู้ให้ทาน),
ทำอันตรายต่อลาภของปฏิคาหก (ผู้รับ),
และ ตัวเองก็ขุดรากตัวเองกำจัดตัวเองเสียตั้งแต่แรกแล้ว.

วัจฉะเอย ! ผู้ที่ห้ามผู้อื่นซึ่งให้ทาน
ชื่อว่าเป็นอมิตร ผู้ทำอันตรายสิ่ง ๓ สิ่งดังนี้แล.
วัจฉะ ! เราเองย่อมกล่าวอย่างนี้ว่า

“ผู้ใดเทน้ำล้างหม้อ หรือน้ำล้างชามก็ตาม ลงในหลุมน้ำครำ

หรือทางน้ำโสโครก ซึ่งมีสัตว์มีชีวิตเกิดอยู่ในนั้น ด้วยคิดว่า

สัตว์ในนั้นจะได้อาศัยเลี้ยงชีวิต ดังนี้แล้ว เราก็ยัง

กล่าวว่า "นั่นเป็นทางมาแห่งบุญ" เพราะการทำแม้เช่นนั้น

ไม่ต้องกล่าวถึงการให้ทานแก่มนุษย์ด้วยกัน” ดังนี้...

อีกอย่างหนึ่ง เรากล่าวว่าทานที่ให้แก่ผู้มีศีล เป็นทานมีผลมาก.
ทานที่ให้แก่ผู้ทุศีล หาเป็นอย่างนั้นไม่.

และ ผู้มีศีลนั้นเป็นผู้ละเสียซึ่งองค์ ๕ และ ประกอบอยู่ด้วยองค์ ๕.

ละองค์ห้า คือ ละกามฉันทะ ละพยาบาท
ละถีนมิทธะ ละอุทธัจจกุกกุจจะ ละวิจิกิจฉา.

ประกอบด้วยองค์ห้า คือ ประกอบด้วยกองศีลชั้นอเสขะ (คือชั้นพระอรหันต์)
ประกอบด้วยกองสมาธิชั้นอเสขะ ประกอบด้วยกองปัญญาชั้นอเสขะ
ประกอบด้วยกองวิมุตติชั้นอเสขะ ประกอบด้วยกองวิมุตติญาณ
ทัสสนะชั้นอเสขะ.

เรากล่าวว่าทานที่ให้ในบุคคลผู้ละองค์ห้า และประกอบด้วยองค์ห้า
ด้วยอาการอย่างนี้ มีผลมาก ดังนี้.

อํ. ๒๐/๒๐๕/๔๙๗...... อ่านต่อได้ที่:https://www.gotoknow.org/posts/547669
____________
เมื่อทราบว่าบุญเท่านั้นที่จะทำให้มาเป็นมนุชั้นสูงระดับมนุษย์ได้เลย

บุญนามธรรมในทางดี บาปนามธรรมในทางร้าย

ถ้าเรารู้ว่าการทำดีธรรมชาติจะให้ผลออกมาเป็นเป็นยังไง ธรรมชาติจะตกรางวัลที่ดีให้อย่างสุดซึ่งอย่างไร

และ

ถ้าเรารู้ล่วงหน้าแน่ๆว่าการทำบาปธรรมชาติจะให้ผลออกมาเป็นยังไง
ธรรมชาติของกรรมบาปจะให้ผลแสบเผ็ดร้อนยังไง

รับประกันเราก็จะทำแต่ความดีทั้งวันทั้งคืนโดยไม่พักสักนาทีเดียว

แย่ตรงที่ว่าในทางปฏิบัติแล้ว ธรรมชาติมักจะบีบให้เรารู้สึกว่า ต้องไม่รักษาศีล เท่านั้นจึงจะได้อะไรดีๆมา เช่น

ไม่รักษาศีลถึงจะมีสิทธิ์สะใจทำร้ายคนที่ทำร้ายเราหรือศรัทตรูที่เราเคียดแค้น

หุบข้าวของๆคนอื่นมาเป็นของตน

เติมเต็มความฝันที่จะได้เสพสม กับลูกเขา เมียใคร

โล่งใจที่ได้โกหกเอาตัวรอด

มีสิทธิ์ที่จะได้กินเหล้าเมายาฮาเฮกับเพื่อนๆ

เท่านั้นไม่พอในโลกที่มีการเห็นแก่ตัวเป็นใหญ่ การรักษาศีลดูเหมือนเป็นการดักดานของคนโง่เพราะต้องเสียผลประโยชน
์เช่น

1รักษาศีลแล้วต้องปล่อยให้ศรัตูลอยนวน

2รักษาศีลแล้วไม่มีทางได้ในสิ่งที่เกินกำลังซื้อหา

3รักษาศีลแล้วต้องเอาแต่น้ำลายหกมองดูคนมีเจ้าของ

4รักษาศีลแล้วเสียประโยชน์จากการพูดความจริง

5รักษาศีลแล้วเข้าสังคมที่นิยมแอลกหอได้ย้าก

เมื่อภาพชีวิตในปัจจุบันมันเป็นแบบนี้
เรามักจะถามตัวเองว่า จะรักษาศีลไปเพื่ออะไร
หากเหตุผลไม่ดี ทุกคนย่อมพ่ายแพ้ต่อกิเลส
ไม่อยากฝืนใจต้านทานแรงขับดันทางธรรมชาติ หรือแม้รักษาศีลสำเร็จก็ไม่อยากจะชมตัวเองว่าฉลาดเลย

แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง
แค่การทำผิดที่กายก็เปื่อนที่ใจได้แล้ว

หากมาลงลายละเอียดเป็นข้อๆว่า ทำผิดแต่ละข้อ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
การการปลงชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไปนั้น
ถ้าใครทำมากแล้วชาชินแล้วเชี่ยวชารแล้ว
ย่อมเป็นเหตุให้ไปสู้ในนรกหรือหปสู้กำเนิดสัตว์เดรัจฉานหรือไปสู่เปรตวิสัย
ผลแห่งการปลงชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป สถานเบาที่สุดเมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์
ทำให้เป็นผู้มีอายุน้อยเมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์
____________________
เด็กที่ไม่มีความสุขในชีวิต---->พ่อแม่

พ่อแม่----->เด็ก

วิญญาณดี----->ครรณมารดา

บุญ----->ดี  บาป----->ร้าย

~บุญ---->สวรรณ บาป----->นรก

xปัจจุบัน 
_________


เรื่องมีว่าเหล่าเดียรถีย์เกิดความริษยา ที่เห็นพระพุทธเจ้ามีบุคลลเลื่อมใสศรัทธาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ลาภสักการะของพวกตนน้อยลง จึงหาทางทำลายพระเกียรติคุณของพระพุทธเจ้า ด้วยการใช้นางจิญจมาณวิกา สาวิกาของพวกตน เป็นผู้ดำเนินการตามอุบาย กล่าวคือในตอนเย็น ขณะที่เหล่าชนกำลังเดินทางกลับเข้าเมือง ก็ให้นางเดินสวนทางออกไป ตอนเช้าขณะเหล่าชนเดินทางออกจากเมือง ก็ให้นางเดินสวนทางกลับเข้ามา

ทำเช่นนี้เป็นประจำ จนชาวเมืองเกิดความสงสัย ถามว่านางออกไปนอกเมืองทุกเวลาเย็นด้วยเหตุอันใด นางตอบว่า เราออกไปตามความประสงค์ของพระสมณะโคดมผู้เป็นศาสดาของพวกท่าน และพำนักอยู่ในพระคันธกุฏีในพระเชตวัน เวลาล่วงมาหลายเดือน นางจิญจมาณวิกาจึงนำท่อนไม้มาผูกติดเอว สวมเสื้อคลุมทับไว้

ทำประหนึ่งว่าตนกำลังมีครรภ์เดินเข้าไปหาพระพุทธเจ้าในพระเชตวันวิหาร ท่ามกลางบริษัทที่กำลังพระธรรมเทศนา กล่าววาจาตู่พระพุทธเจ้าว่า เป็นผู้ที่ทำให้นางตั้งครรภ์ พระพุทธเจ้ามิได้โต้ตอบแต่ประการใด ทำให้ชนบางกลุ่มในที่นั้นเกิดความสงสัย คิดว่าหากไม่เป็นความจริง นางคงมิกล้ากล่าววาจาเช่นนี้ต่อหน้ามหาชนเป็นอันมากแน่นอน

พระอินทร์ทราบความ จึงแปลงร่างเป็นหนูไปกัดเชือกที่นางผูกเอวไว้ขาดออก ท่อนไม้หลุดลงมาทับเท้าของนางจนหลังเท้าแตก เหล่าชนในพระเชตวันวิหารเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น พากันขับไล่นางออกไป เมื่อพ้นประตูวิหาร นางก็ถูกเปลวเพลิงนรกฉุดลงไปสู่อเวจีมหานรก..... อ่านต่อได้ที่:https://www.gotoknow.org/posts/223160
____________________
เป็นผู้กินอาหารด้วยความติดใจในรส
และทำกรรมอันเป็นบาปไว้ในโลก
เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งสัตว์เดรัจฉาน
จะกล่าวให้ถึงความทุกข์ที่เป็นสัตว์เดรัจฉานไม่ใช่ทำได้ง่าย

"โดยสมัยนั้นแล..นาคตัวหนึ่งอึดอัดระอา.. เกลียดกำเนิดนาค นาคนั้นมีความดำริว่า ด้วยวิธีอะไรหน่อ เราจึงจะพ้นจากกำเนิดนาค
และกลับได้อัตภาพมนุษย์เร็วพลัน

ครันแล้วได้ดำริต่อไปว่า
"สมณะเชื่อสายศากยะบุตรเหล่านนี้แลเป็นผู้ประพฤธรรม ประพฤสงบ ประพฤธรรม
กล่าวแต่คำสัจ มีศีล มีกัลญาณะธรรม
หากเราจะบวชในสำนักเชื่อสายศากยบุตร
ด้วยวิธีเช่นนี้
เราก็จะพ้นจากกำเนิดนาคและกลับได้อัตภาพมนุษย์เร็วพลัน

ครั้นแล้วนาคนั้นจึงแปลกายเป็นชายหนุ่ม แล้วเข้าไปหาภิกษุทั้งหลายขอบรรพชา
ภิกษุทั้งหลายจึงให้เขาพรรพชาอุปสมบท

สมัยต่อมาพระนาคนั้นอาศัยอยู่ในวิหารสุดเขตกับภิกษุรูปหนึ่ง
ครั้นปัจจุสมัยคือเวลาเช้ามืดภิกษุรูปตื่นนอนแล้วออกไปเดินจงกลมอยู่ข้างนอกในที่แจ้ง
ครั้นภิกษุรูปนั้นออกไปแล้ว พระนาคนั้นก็วางใจจำวัด..."วิหารทั้งหลังเต็มไปด้วยงู ขนดยืดออกไปทางหน้าต่าง

ครั้งภิกษุรูปนั้นเดินจงกลมเสร็จแล้วกลับมาวิหาร พลักบานประตูด้วยตั้งใจว่าจะเข้าวิหาร..
ก็เห็นวิหารทั้งหลังเต็มไปด้วยงู เห็นขนดยื้นออกไปทางหน้าต่าง
ก็ตกใจจึงร้องเอ๊ะอะขึ้น..

ลำดับนั้น ภิกษุทั้งหลายพากันวิ่งเข้าไป แล้วได้ถามภิกษุรูปนั้นว่า 
ภิกษุที่วิ่งเข้ามา: อาวุโส ท่านร้องเอะอะไปทำไม..
ภิกษุหนึ่ง: อาวุโสทั้งหลาย..วิหารทั้งหลังเต็มไปด้วยงู ขนดยื้นออกไปทางหน้าต่าง

ขณะนั้นพระนาคนั้นได้ตื่นขึ้นเพราะเสียงนั้น แล้วนั้งอยู่บนอาสนะของตน

และภิกษุทั้งหลายถามว่า... "อาวุโสท่านเป็นใคร"
ภิกษุนาค: ผมเป็นนาคครับ
ภิกษุทั้งหลาย: อาวุโสท่านได้ทำเช่นนี้เพื่อประสงค์อะไร..
=พระนาคนั้นจึงแจ้งเนื้อความนั้นแก่ภิกษุทั้งหลายให้ทราบ"

ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแก่พระผู้มีพระภาค
ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ เพราะด้วยเหตุนั้น
แล้วทรงประทานพระพุทโอวาสแก่นาคนั้น
"พวกเจ้าเป็นนาค มีความไม่งดงามในธรรมะวินัยนี้
เป็นธรรมดา ไปเถิดเจ้านาค จงไปรักษาอุโบสถในวันที่ 14 ที่ 15 และที่ 8 แห่งปักนั้นแหละ
ด้วยวิธีนี้เจ้าจะพ้นจากกำเนิดนาค และจะกลับได้อัตภาพเป็นมนุษย์เร็วพลัน

ครั้งนาคนั้นได้ทราบว่า ตนมีความไม่งอกงามในธรรมะวินัยนี้เป็นธรรมดา ก็เสียใจรั่งน้ำตา ส่งเสียงดังแล้วหลีกไป..

ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาครับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า..
ภิกษุทั้งหลายเหตุแห่งความปรากฏตามสถาพของนาคมีสองประการคือ
1เวลาเสพเมถุนธรรมกับนาคนาคผู้มีขาติเสมอกัน
2เวลาวางใจนอนหลับ

ภิกษุทั้งหลายอนุปสัมบันคือสัตว์เดรัจฉาน ภิกษุไม่พึงอุปสมบท ที่อุปสมบทแล้วให้สึกเสีย

เมื่อก่อนพวกเราเคยกระทำกรรมทั้งสอง ที่ทำให้มาเป็นนาค
__________________
หักไม้มินบักเขือ พายเรื่อยน้ำเข้าม่า
น้ำสิท่วมฟ้า ปลาสิกินดาว
_____________
มีเพียง2สิ่งเท่านั้นที่หาจุดสิ้นสุดไม่ได้
คือจักรวาล กับ ความโง่ของมนุษย์
แต่ข้าพระเจ้าไม่มั่นใจกับสิ่งแรก
_______________
ศาลพระภูมิ
_____________
สังสารวัฏน่ากลัวมาก..
พวกเทพพวกพรหม พวกเทวดาเทพบุตรเทพธิดา มนุษย์ อมนุษย์ เขากลัวสังสารวัฏมาก รวมถึงหลวงพี่ด้วยกลัวมาก
จะขอเล่าให้ฟังมันน่ากลัวยังไง
ก่อนอื่นอยากให้เข้าใจคำว่า
(ความตาย)ก่อน
คำว่าตาย แปลว่า เกิด ก็ได้
(แต่คนเขาไม่ใช้ ก็เลยต้องแบบตายก็คือตาย เกิดก็คือเกิด)

สังสารวัฏมันคือ การเกิดที่ไม่สามรถหยุดได้  สมมุติเราตายปุ๊บ เราเกิดใหม่ต่อทันที ไม่มีการรอคอยภพ 

ตอนนี้สัตว์นรกเขาได้อัตภาพสัตว์นรก
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพนรกเป็นสัตว์นรกทันที

ตอนนี้สัตว์นรกได้อัตภาพสัตว์นรก
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพเปตรเป็นเปตรทันที

ตอนนี้สัตว์นรกได้อัตภาพสัตว์นรก
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพสัตว์เดรัจฉานเป็นสัตว์เดรัจฉานทันที

ตอนนี้สัตว์นรกได้อัตภาพสัตว์นรก
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพอสูรเป็นอสูรกายทันที

ตอนนี้สัตว์นรกได้อัตภาพสัตว์นรก
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพมนุษย์เป็นมนุษย์ทันที

ตอนนี้สัตว์นรกได้อัตภาพสัตว์นรก
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพเทวาเป็นเทวดาทันที

ตอนนี้สัตว์นรกได้อัตภาพสัตว์นรก
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพ พม เป็นพรหมทันที

ตอนนี้เปตรได้อัตภาพเปตร
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพนรกเป็นสัตว์นรกทันที

ตอนนี้เปตรได้อัตภาพเปตร
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพเปตรเป็นเปตรทันที

ตอนนี้เปรตได้อัตภาพเปตร
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพสัตว์เดรัจฉานเป็นสัตว์เดรัจฉานทันที

ตอนนี้เปตรได้อัตภาพเปตร
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพเปตรเป็นเปตรทันที

ตอนนี้เปตรได้อัตภาพเปตร
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพอสูรเป็นอสูรกายทันที

ตอนนี้เปตรได้อัตภาพเปตร
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพมนุษย์เป็นมนุษย์ทันที

ตอนนี้เปตรได้อัตภาพเปตร
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพเทดาเป็นเทวดาทันที

ตอนนี้เปตรได้อัตภาพเปตร
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพพรหมเป็นพรมทันที


ตอนนี้สุขนักได้อัตภาพสัตว์เดรัจฉาน เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพนรกเป็นสัตว์นรกต่อทันที

ตอนนี้สุนัขได้อัตภาพสัตว์เดรัจฉาน เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพเปตรเป็นเปตรทันที

ตอนนี้สุนัขได้อัตภาพสัตว์เดรัจฉาน เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพเดรัจฉานเป็นสัตว์เดรัจฉานเป็นงูทันที

ตอนนี้สุนัขได้อัตภาพสัตว์เดรัจฉาน
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพมนุษย์เป็นมนุษย์ทันที

ตอนนี้สุนัขได้อัตภาพสัตว์เดรัจฉาน
เขาตายปุ๊บเกิดในภพเทวาดาเป็นเทวดาทันที

ตอนนี้สุนัขได้อัตภาพสัตว์เดรัจฉาน
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพ พรหม เป็นพมทันที



ตอนนี้เราได้อัตภาพมนุษย์ เราตายปุ๊บเกิดต่อในภพนรกเป็นสัตว์นรกต่อทันที

ตอนนี้เราได้อัตภาพมนุษย์ เราตายปุ๊บเกิดต่อในภพเปตรเป็นเปตรต่อทันที

ตอนนี้เราได้อัตภาพมนุษย์ เราตายปุ๊บเกิดต่อเป็นในภพสัตว์เดรัจฉานเป็นเดรัจฉานต่อทันที

ตอนนี้เราได้อัตภาพมนุษย์ เราตายปุ๊บเกิดต่อในภพอสูรกายเราเป็นอสูรกายต่อทันที

ตอนนี้เราได้อัตภาพมนุษย์
เราตายปุ๊บเกิดต่อในภพมนุษย์เป็นมนุษย์ต่อทันที

ตอนนี้เราได้อัตภาพมนุษย์ เราตายปุ๊บเกิดต่อในภพเทวดาเป็นเทวดา เทพบุตรเ ทพธิดา ต่อทันที

ตอนนี้เราได้อัตภาพมนุษย์ เราตายปุ๊บเกิดต่อในภพพรหมเป็นพรหมต่อทันที

ตอนนี้เทวดานางฟ้าเทพได้อัตภาพเทวดา
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพนรกเป็นสัตว์นรกทันที

ตอนนี้เทวดาได้อัตภาพเทวดา
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพเปตรเป็นเปตรทันที

ตอนนี้เทวดาได้อัตภาพเทวดา
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพอสูรกายเป็นอสูรทันที

ตอนนี้เทวดาได้อัตภาพเทวดา
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพมนุษย์เป็นมนุษย์ทันที

ตอนนี้เทวดาได้อัตภาพเทวดา
เขาตายปุุ๊บเกิดต่อในภพเทวดาเป็นเทวดาทันที

ตอนนี้เทวดาได้อัตภาพเทวดา
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพพรหมเป็นพรหมทันที

ตอนนี้พรหมได้อัตภาพพรม
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพนรกเป็นสัตว์นรกทันที

ตอนนี้พรหมได้อัตภาพพรหม
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพเปตรเป็นเปตรทันที

ตอนนี้พรหมได้อัตภาพพรหม
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพอสูรเป็นอสูรกายทันที

ตอนนี้พรหมได้อัตภาพพรหม
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพมนุษย์เป็นมนุษย์ทันที

ตอนนี้พรหมได้อัตภาพพรหม
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพเทวดาเป็นเทวดาทันที

ตอนนี้พรหมได้อัตภาพพรหม
เขาตายปุ๊บเกิดต่อในภพพรหมเป็นพรหมทันที


ตอนนี้มนุษย์ที่เราเห็นๆกันอยู่ในแต่ละวัน  "ปัจจุบันเขาได้อัตภาพมนุษย์" บางคนพิกาล ขาหัก เป็นใบ้ หูหนวก เป็นบ้า สารพัด ก็ถือว่าเป็นมนุษย์ทั้งหมด
แต่หลังจากตายปุ๊บจิตเกิดต่อในภพใหม่ทันที
จิตจะไปภพภูมิไหน
จะลงภพต่ำหรือคงที หรือขึ้นภพสูง

ทุกการเกิดจะได้อัตภาพใหม่ และลักษณะอัตภาพกายจะไม่เหมือนเดิม

อัตภาพกายของตัวสัตว์นรก
ความขว้างของตัวมันประมาณ16กิโลเมตร 
ความสูง16กิโลเมตร ทั้งใหญ่ทั้งยาว



นี่แหละความน่ากลัวของสังสารวัฏ
_____________
ดวงวิญญาณ กับกระดูกเกี่ยวพันกันยังไง
ทั้งๆที่ก็ตายไปแล้ว กระดูกก็เป็นธาตุดินธรรมดาธรรมชาติ
และผู้ตายก็ได้อัตภาพใหม่ทันที ก็คือตายแก้วเกิดทันที

ทั้งๆที่ตายไปแล้ว แล้วมาเข้าฝันคน
บอกว่า กระดูกฉันอยู่ตรงนั้นตรงนี้ ทำบุญให้หน่อย

ก็เลยอยากจะถามว่า ทำบุญให้แต่ไม่ต้องขุดกระดูกได้ไหมครับ
_____________________
ดูกร กิตติโสภโณ ใจเธอกำลังครุนคิดถึงเรื่องอะไรอยู่
ที่ทำให้เธอตอนนี้เบี่ยงเบนออกไปจาก การพิจารณา สติปัฏฐานสี อันเป็นธรรมอันยิ่งเพื่อเป็นไปให้สิ้นกรรม สิ้นภพชาติ สิ้นอาสวะ ดับไม่เหลือซึ่งสากยะ และเป็นไปเพื่อให้จบกิจที่ควรทำ บรรลุทำให้แจ้งเองแล้วด้วยปัญญา กิจที่ควรทำเสร็จแล้ว ไม่กิจอื่นที่ยิ่งกว่า อยู่จบพรหมจรร์ ทำที่สุดแห่งทุกข์ของตน พ้นจากกิเลสสังโยชทั้งปวงที่เป็นเครื่องหนวเหนียวสัตว์ให้ติดอยู่ในทุกข์
ดูกร กิตติโสภโณ เธอบวชเข้ามาในธรรมวินัยนี้ ถ้าเธอไม่ลำบาก เล่าให้ตถาคตฟังได้ไหม

กิตติโสภโณ.ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์มีความครุนคิดตรึกวิตกอย่างนี้ว่า
"ไฉนน้อ เมื่อก่อนเราบวช เราบวชด้วยกายด้วยโมหะความหลงด้วยความเขล่าบวชตามประเพณี บวชด้วยความไม่มีศรัทธา แต่บวชเพื่อให้ได้ชื่อว่า ได้บวช ไม่รู้อะไรว่าเป็นอะไรเลยตอนนั้น ช่างโง่เขล่านัก
บัดนี้เราพอรู้แล้วน้อ ว่าอะไรเป็นอะไร
บวชเพื่ออะไร ควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร
เอ่อนี่เราเพิ่งจะมีศรัทธาในพระองค์ ไม่นานมานี้เอง แสดงว่าเราใจเราพึงจะได้เป็นนักบวชมาไม่กี่เดือนนี้เอง บัดนี้เราควรเชื่อธรรมของพระองค์ ไม่ควรเชื่อธรรมของเหล่าอื่น
และ
อะไรอยู่ในธรรมวินัย เราควรทำตามประพฤติตาม (เพราะคงเป็นกรอบเส้นทางแนวทางเพื่อขัดเกลากิเลสและเป็นไปสิ้นอาสวะ ไม่เนินช้าต่อการทำให้แจ้ง)

อะไรไม่อยู่ในธรรมวินัย
เราควรไม่ประพฤติปฏิบัติ เพราะคงจะเป็นเหตุให้ประมาท ให้ตกต่ำ ให้เนินช้า ให้ติดอยู่ในหลุมภพ เปรียบเหมือนติดอยู่ในบ่อคูตและมูต ฉันนั้นเราไม่ควรจะถอยลงไป แต่เราควรปีนขึ้นให้พ้นจากบ่อคูด

และอีกเรื่องหนึ่ง
ตอนนี้ข้าพระองค์ กำลังครุนคิดวิตก
ถึงเรื่องมารดาที่ลำบากด้านการเงิน มีหนี้
และลูกเขยที่ทำไม่ถูกหลักที่ควรจะทำ
มารดาของข้าพระองค์ พูดว่าจะเพิ่งบารมีเงินเพื่อช่วยเหลือในหนี้สินต่างๆ ลูกเขยก็เพิ่งไม่ได้เลย จากนี้ถ้าไม่ลำบาก ก็ไม่เพิ่งหรอก

เมื่อมารดาพูดอย่างนี้แล้ว
ข้าพระองค์มีความละอายที่จะทำแบบนั้น ครั้งต่อไปข้าพระองค์ยิ่งมีความละอาย
ฉะไนเราศรัทธาในธรรมวินัยของพระพุทธงค์แล้วบวชจริงๆแล้ว
ฆราวาสคับแคบเป็นทางมาแห่งทุลี ไม่ง่ายที่จะทำให้จิตสะอาด เราควรปงผมและหนวดออกบวชเป็นบรรชิต ต่อนั้นเธอละเครื่อญาติน้อยใหญ่ ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือน  ไม่รับทองและเงิน

ข้าพระองค์ก็เลยครุนคิดวิตกเรื่องนี้แหละพระเจ้าข้า?
และอีกเรื่องหนึ่ง

ข้าพระองค์ตอนนี้อยู่ในอาวาส ของภิกษุ ผู้มากไปด้วยงาน มากไปด้วย ราคะ โทสะ โมหะ ทั้งไม่ทำความเพียร ไม่หาอริยะทรัพย์เข้าไว้ในตน ไม่ทำกิจที่ควรทำในวินัย ไม่นำพาศิทย์ไม่สอนให้สิ้นอาสวะ ดับไม่เหลือ
เป็นผู้นำในทางไม่เป็นไปเพื่อให้พระที่มาอยู่ คลายกำหนัด ดับไม่เหลือ 

ทั้งเป็นผู้ไม่มีคุณธรรมในพระเลย
ไม่ควรเป็นผู้สอนพระพระที่เป็นผู้ปฏิบัต
ิเพราะแก่เป็นกระเทย มากไปด้วยของ สวยของงาม ไม่ควรที่จะเป็นอุปฌาของข้าพระองค์
และข้าพระองค์คิดว่า
ทุกครั้งที่ ปัญญาเกิด กุศลเกิด สติเกิด
ล้วนเกิดจากการที่จิตเป็นสมาธิ สงบวิกเวก จิตหลักเล้นอยู่เพียงผู้เดียว 
แต่เมื่อเวลาใด ที่ข้าพระองค์คลุกคลี่มากไปด้วยหมู่คณะ เฮฮา พูดเยอะ อยู่ในสถานที่ที่วุนวาย
กุศลธรรม สติ สัมปญัญะ ปัญญาของข้าพระองค์ไม่เจริญ
เหมือนอยู่วิเวกหลีกเล้นแต่เพียงผู้เดียว
และข้าพระองค์ก็ละลึกถึงข้อธรรม ของพระองค์เรื่องสอนสติปัฏฐานสี่ ที่ให้ไปอยู่เวกหลีกเล้น ถ้าเล้นไม่ได้จริงๆ ให้เล้นทางจิต

แต่ที่นี้ข้าพระองค์เล้นทางจิตเหมือนไม่ได้ผลดีเท่าไร เพราะกระแสภายนอกรบกวนข้าพระองค์หนัก

ข้าพระองค์จึงมีความคิดว่า อาวาสนี้ไม่เหมาะกับเรา เราต้องเหมาะกับอาวาสที่นำพาให้ศีลครบบริบูรณ์ เป็นไปเพื่อสมาธิ และสติ ปัญญา
ไม่ต้องทุศีลอะไร

เรื่องนี้แหละที่ข้าพระองค์ครุนคิดวิตก
พระเจ้าข้า

และอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องรับทองและเงินที่พระองค์เห็นว่า เป็นผลเสียอย่างเดียว

แต่ทีนี้ ตอนที่ข้าพระองค์บวชเข้ามาด้วยโมหะ ถ้าไม่มีการรับเงิน ไปเติมเงิน ซื้อโทรศัพท์ และศึกหาข้อมูล ข้าพระองค์คิดว่าถ้าไม่รับจะทำให้เรามีศรัทธาเกอดขึ้นเหมือนแบบตอนนี้ได้ไหมน้อ หรือยังไงๆบารมีก็ต้องทำให้มีศรัทธาเองแหละ

เรื่องทั้งหมดนี้แหละที่ข้าพระองค์ ครุนคิด
ขอพระวโรวาส ทำให้ข้าพระองค์รู้แจ้งปัญหานี้ด้วยพระเจ้าข้า
_________________________
ฆราวาสชั้นเลิศ

1 หากินโดยเป็นธรรม
2 ทำตนให้เป็นสุขอิ่มหนำ
3 แบ่งปันโภคทรัพย์บำเบ็ญบุญ
4ไม่กำหนัด ไม่มัวเมา ไม่ลุมหลง มีปกติเห็นโทษ มีปัญญาสละออก บริโภค โภคทรัพย์กามเล่านั้น 
กามคือ รูป เสียง กลิ่นรส สัมผัส

ธรรมที่ไม่ทำให้ตกต่ำ พระองค์ย้อนอดีตชาติพระองค์ไป91กัป สงสัยว่าทำไมไม่ตกต่ำน่ะ ก็รู้ด้วยพระญาณขึ้นมาว่า
1ทาน การให้
2 ทะมะ ความข่มใจ เห็นเขาโกรธเราจะไม่โกรด เราจะไมาอิจฉา
3 สัญญมะ ความสำรวมระวัง ระวังในบาปอกุศล

พระองค์เกิดเป็นมนุษย์ก็เป็นมหาราชา เกิดเป็นเทวดาก็ท้าวสักกะ เกิดเป็นพรหมก็เป็นท้าวมหาพรม

ธรรม3ประการ พ่อค้า
อปันนะกะธรรม
1ป้องกันไม่ให้มัวเมาในรูปรดกลิ่นเสียง
2เตรียมป้องกันไม่เกิดโทษจากการกิน
3ป้องกันตัวเองไม่ให้เกียจคร้าน

คุณธรรมเทวดา เทวาธรรม
1หิริ ความละอายต่อบาป ละอายในการคิดชัว พูดชัว ทำชัว
2โอตับปะ ความเกรงกลัวต่อผลของบาป
เช่นกลัวตกนรก กลัวโดนติฉินนินทาโดยคนอื่นเป็นเหตุ
(ถ้าเราดีอยู่แล้ว แต่เขาติฉินนินทาเรา เราก็อย่าเปลี่ยนไปเป็นคนบาปหละ เพราะมันเป็ยคำนินทาของมาร เราอย่าหลงกล

ธรรม ลักษณะของผู้มีศรัทธา 11 ประการ


ธรรม อุบาสกรัตนะ 5 ประการ
1มีศรัทธา
2ศีล
3ไม่เป็นถือโกตุละมงคล มงคลของพวกพรามเชื่อกรรมไม่เชื่อมงคล
4ไม่แสวงหานาบุญภายนอกศาสนา
5 ทำการสนับสนุนภายในศาสนา


ธรรม จิตเปรียบเหมือนสัตว์6ชนิด
ตามันจะชอบไปหารูปที่พอใจ
หูมันจะพาไปหาเสียงที่น่าฟัง
จมูกจะพาไปหากลิ่นที่พอใจ
ลิ้นจะพาไปหารสที่พอใจ
กายจะพาไปหาสัมผัสที่น่าพอใจ

เทวดาตาย
1สติหลงลืมเพราะความเพลินเล่นกัน
2เพ่งโทษกันและกัน กายจึงลำบากจิตจึงลำบาก จึงพากันจุติ
___________________
หน้าที่พระเถระบวชมากกว่า10พรรษา
1ต้องไม่มุ่งมั่นไปในทางทราม
2ต้องมุ่งมั่นไปในกิจวิเวกธรรม
ปราถมความเพียร
เพื่อให้ถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง
เพื่อให้บรรลุในสิ่งที่ยังไม่บรรล
ุเพื่อทำให้แจ้งในสิ่งที่ยังไม่แจ้ง
_____________________
[๕๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ได้ยินว่า ณ ที่นั้น พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธ
เจ้าพระนามว่าวิปัสสี ทรงสวดพระปาติโมกข์ในที่ประชุม   พระภิกษุสงฆ์ดังนี้
ขันติคือความทนทานเป็นตบะอย่างยิ่ง    พระพุทธเจ้าทั้งหลายตรัสว่า
 พระนิพพานเป็นธรรมอย่างยิ่ง   ผู้ทำร้ายผู้อื่นผู้เบียดเบียนผู้อื่น
ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะเลย   การไม่ทำบาปทั้งสิ้น
การยังกุศลให้ถึงพร้อม   การทำจิตของตนให้ผ่องใส นี้เป็นคำสั่งสอน
ของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย การไม่กล่าวร้าย ๑ การไม่ทำร้าย ๑ ความสำรวมในพระปาติโมกข์ ๑ ความเป็นผู้รู้ประมาณในภัตตาหาร๑
ที่นอนที่นั่งอันสงัด ๑ การประกอบความเพียรในอธิจิต ๑
หกอย่างนี้ เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ฯ
_____________________
ขันติ ธัมโม
ขฺนติธฺมโม

 นายบัญญัติ ลหาญ

พ่อวานิช แม่หลอม
___________
เอาข่วนออก

ต่ำๆๆให้ละเอียดอย่าให้เหลว

ขวดไปใส่กาลามัง

เติมน้ำ2ลิตรลง แล้วปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย2ชัวโมง(เพื่อให้เปลือกมันผุอ่อนละลายกระจายตัวได้ง่าย) พอครบ2ชัวโมง มากกว่า2ชัวโมงยิ่งดี
แล้วขย้ำๆให้น้ำมันออกมาได้มากที่สุด

แล้วเอากากออกจากน้ำ(ยิ่งเอาออกมามากยิ่งดี แต่เอาน้ำไว้ได้มากเท่าไร่ยิ่งดี)

เอากากออกเสร็จ เอาเกลือลง คนให้ละลาย สัก10นาที
แล้วเอาผ้าลง ขย้ำๆผ้านานๆหน่อย แล้วแช่ผ้านั้นไว้อย่างน้อย2ชัวโมง

แล้วนำไปตากพอแห้งแล้ว เอามาย้อมอีกทำเหมือนเดิม

ก่รย้อมย้อมผ้าจีวรนั้นต้องย้อม15-16ครั้ง
_______________
พระที่ปาราชิกแล้ว แต่ยังเนียนร่วมทำสังฆกรรม คือยังเข้าไปฟังเขาสวดปาฏิโมก แบบหน้าตาเฉยเลยโดยไม่ละอายใจ

ถ้าเป็นเมื่อก่อนมีพระอรหันต์ชี้เลย นี้ปาราชิก นี้ปาราชิก ไปออกไป

แต่ทีนี้ไม่มีพระอรหันต์ และเราก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาปาราชิก

สรุปก็คือ มีพระปาราชิกอยู่ในนั้น แต่เราไม่รู้ เราสวดปาฏิโมกได้ไหม


เรื่องพระรับเงิน

เรื่องพรากของเขียว

เรื่องฉันข้าวเพล

เรื่องพระบวชยังไม่ถึง5พรรษาแล้วไป

เรื่องวงรอบในหนึ่งวันพระทำอะไรบ้าง
_____________
คนที่สั่งสมบุญญาบารมีปลูกฝังอุปนิสัยของตนมาอย่างไร นิสัยนั้นๆย่อมติดต่อเนื่องกันมาหลายชาต
เพราะตนเคยสั่งสมอุปนิสัยเคยสั่งสมบารมีมาแล้วในทางนั้น อย่าทำให้ตัวเองช้าเลย
เวลามันยิ่งเหลือน้อยลงไปทุกที อีก50กว่าปีก็หมดแล้วนะ
อยู่ในเพศฆราวาส กำลังมันอ่อน พวกเทวดาไม่ดีเขาหาทางขวางสารพัดไว้
ออกบวช กำลังมันจะกล้าแข็งขึ้น
พวกเทวดาไม่ดีเขาจะขวางเราไม่ง่ายเหมือนตอนที่ยังไม่บวช

จะขอเล่าเรื่องในพระไตรปีฏก
เรื่อง ภิกษุ2รูป เคยบวชเป็นเพื่อนกันในศาสนาพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ
ภิกษุ2รูปนี้เป็นเพื่อนกันดีมาก ประพฤธรรมด้วยกัน และให้สัญญากันว่า ถ้าตายจากชาตินี้แล้ว "คนที่ได้ดีต้องช่วยคนที่เป็นทุกข์"
หลังจากนั้น ภิกษุรูปที่1ก็มรณภาพ ไปเกิดเป็นเทวดา
ส่วนภิกษุรูปที่2มรณภาพเพราะก่อนตายจิตเศร้าหมองไปเกิดเป็นสัตว์เดรัฉาน เป็นหนอนอาศัยอยู่กินกับกองขี้วัวกองใหญ่
กินขี้ควายเป็นอาหาร นอนบนกองขี้ควาย

ครั้นภิกษุที่ไปเกิดเป็นเทวดา ระลึกถึงสัญญาที่เคยให้ไว้ว่า"ถ้าใครได้ดีต้องช่วยคนที่ไม่ได้ดี" นึกขึ้นมาว่าเพื่อนภิกษุนั้นไปเกิดที่ไหน ตรวจดูด้วยตาทิพย์ไปเห็นอยู่บนกองขี้ควายและกำลังกินขี้ควายเป็นอาหาร

ครั้งแล้วภิกษุที่ไปเกิดเป็นเทวดาเห็นเพื่อนได้อัตภาพเดรัจฉานเป็นหนอนแล้ว จึงแปลงกายเป็นนกบินลงไปหา
หนอน: ไอ้นกขโมย อย่ามาแย้งอาหารเราน่ะ อย่ามาทำร้ายเราน่ะ"

นก:ชาติก่อนเราเคยเป็นเพื่อนกัน บวชเป็นภิกษุในพระศาสนาของพระพุทธเจ้า เราเคยสัญญากันว่า ถ้าใครได้ดีต้องช่วยคนที่ไม่ได้ดี

สมัยท่านเป็นคนท่านรังเกียจขี้วัวมาก แต่มาบัดนี้ท่านมาอยู่กินบนกองขี้วัวแบบมัวเมา
เราจะช่วยให้ท่านไปเป็นเทวดาด้วยกุศลที่ท่านเคยทำไว้ตอนบวช

หนอน: อย่ามารังแกเราเลย เราไม่ลำบากหรอก อาหารก็มีอยู่กับที่ ที่นอนที่อยู่อาศัยก็อยู่กับที่แถมยังนุ่มนิ่มดี
และไม่ต้องทำงานเหมือนพวกมนุษย์ให้วุ่นวาย

**หลังจากนั้นนกเทวดาตัวนั้นก็บินหนี้ขึ้นไปบนฟ้า เพราะไม่มีปัญญาจะช่วยได้

#คนที่รู้ว่าตนเองจะประสบกับสิ่งที่ดี ก็คงไม่นั้งรอนอนรอนานจนตูดงอก แต่จะมุ่งมั่นไปให้ถึงให้เร็วกว่าเดิม
น้อยคนนักที่จะมีวาสนาบารมีบรรลุเป็นอริยะได้
ชาวเราทั้งหลายนับแต่นี้ล่วงไป 1000ปี
พระพุทธเจ้าจะเสด็จอุบัติขึนในโลก ผู้ประสงค์จะพบเห็นพระองค์
จงพากันให้ ทาน รักษาศีล กระทำอุโบสถกรรม(คือรักษาศีลอุโบสถ8)เจริญภาวนา จงทำกุศลกรรมทั้งหลายให้มากมายเถิด
__________,,,
ตะติยัมปิสังฆังสะระนังคัสฉามิ
ติสระนะ คะมะนัง นิฐิตัง โยมอามะภันเต
>>ปานา
อทินนา
มุสา
กาเม
สุรา
อิมานิปันจะสิกขาปะทานิ สีเลนะสุคะติงยังติ
สีเลนะโพคะสัมปะทา
สีเลนะนิพพุติงยันติ ตัสมาสีรังวิโสทะเย

ให้ศีล5
เรื่องมด
เรื่อง การไปขโมยได้ไหม
เรื่อง ผิดลูกผิดเมียผู้อื่น
เรื่อง โกหก
เรื่อง สุรา

เนกขัมมะบารมี
ถือบวช กะคือการสันโดดอยู่ผู้เดียว บ่ให้มีลูกบ่ให้มีเมียอีกแล้วเด้อ
ให้อยู่ผู้เดียว ตายกะตายยุผู้เดียวบ่ให้ย้ากนำไผ๋ ลูกหลานพี่น้อง เขาบ่ตายนำเด๊ะ เขามาเบิ่งซื้อๆ เขามาเบิ่งตามหน้าทีเขาซื้อๆซ้อยหยังบอกะได้ แมนเอาหยังมาให้กินแซบๆกะซอยเฮาบ่อให้ตายกะบอได้ ยามุนิกะซอยเฮาบอได้ ยาแก้ตายมีบอ บอมีดอก แมนเขาหาเงินมาแบบบักหลาย หลายคักหลายแนมากองยุหน้าให้กะซอยเฮาบ่อให้ตายได้บอ ? บอได้
แมนสิหาผู้หญิงที่งามคักงามแนมาให้เฮา มันซอยเฮาบอตายได้บอ 
ตอบเบิง บอแมนบอละ
พวกผู้งิง พวกเงินพวกทอง พวกรถพวกลา มันเป็นกิเลส อย่าไปเอาอย่าไปยากได้
ให้สันโดดไว้
เซาห่วง อย่างห่วงเงินห่วงทอง เขาผูกแขนให้ เขาเอาเงินผูกแขนให้ร้อยหนึ่งกะอย่าไปอยากได้มัน เอาออกหนี มันซอยเฮาบอได้ดอก อันที่สิซอยได้นิ ให้ฟังพระเว่าให้จบละกะเฮ็ดตาม ลูกกะอย่าไปห่วงมัน ไร่นา  อย่าไปห่วงมัน 
เป็นหยังคือว่าอย่าห่วงเงินห่วงทอง
เงินนี่มันเป็นธาตุดินแมนบ่อ
ถ้าบ่อเชื่อลองเอาเงินฝังไว้ในดินติละ
โดนๆๆจักไปขุดเบิง มันยังบอ จ้าง5มันกะบอยัง มันเสื่อมสลายไปตามธาตุดิน เงินคือกัน เงินที่ว่าเป็นเหรียนบาทเหรียน10 อันนั้นกะธาตุดินคือกัน ลองบ่อยไว้กะเข้าขี้เหมียงกินเมิดละกะกลายเป็นดินที่ละนิดที่ละหน่อย
ฉะนั้นเนกขัมบารมีข้อนี้ เพิ้ลให้บ่อยึดติดกับอี้หยังทั้งสิ้น เสื้อผ้า นาฬิกา คือกัน สังขารคือกัน สังขารกัคือร่างกายนี่ละ อย่าคิดว่าเป็นของเฮา
ให้ละให้เมิด
เพราะว่าร่างกายนี้มันประกอบไปด้วย
ธาตุ 4 มี ขี้ดิน มีลม ไฟ น้ำ
เด้อในร่างกายสังขารนี้
มันคือถุง ชนิดหนึ่ง มีแต่ขี้มีแต่เงี่ยว มีตับไตไม้พุง มีน้ำเหลือง โอ้ยหลายโพ้ดถ้าสิไล่ กระดูกกะมี จัดเป็นเป็นธาตุดิน
สรุปกะคือ ร่างกายคือถุงห่อขี้ห่อเงี้ยวห่อขี้กะเทอห่อน้ำหนอง เป็นรังแห่งโรค รักแห่งความเจ็บความปวด ความไข้ความป่วยกะอยู่ในฮังนี้ละ ฮู้จักสี้แล้วมุเจ้าอย่าหลงเข้ามาอยู่เด้อบาทนี้ อันนี้กะเป็นธาตุดิน อธิบายธาตุ4

บาทนี้ปัญญาบารมี กะคือสิให้ใหญ่จันทร์ ฮู้ความจริงที่ว่า ร่างกายนี่มันประกอบไปด้วยธาตุ4ดินน้ำไฟลม มาประชุมกันเป็นฮูปคน ขึ้นมาขึ้นมาซื้อๆ
แล้วกะแยกย้ายกันไปตามธรรมชาติ มีแต่จิตมาอาศัยอยู่ ^^
ร่างกายมนุษย์เต็มไปด้วยของสกปก ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอน กระดูก น้ำเลือดน้ำเหลือง ขี้มูกขี้หูขี้ตา อุจระ ปัสสาวะ 
มนุษย์ไม่ต่างจากถุงหนัง เต็มไปด้วยขี้ คนสวยคนหล่อไม่มีจริง มีแต่ถุงขี้เดินไปมา พร้อมจะปล่อยกลิ่นเหม็นคะคลุมออกมา ตลอด
คนรักไม่ใช่ของแน่นอน 
หากศีลและบุญไม่เสมอกัน
เกิดชาติใหม่ ก็ต้องแยกย้ายกลายเป็นคู่ของคนอื่น ความทรมาณจากการไม่สมหวัง ต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่พอใจ
ความย้ากลำบากกายใจทั้งหลายในโลกนี้ ยังเทียบไม่ได้กับความทุกข์ที่ต้องตายกลายไปเป็นผี ที่ไร่ซึ่งการสะสมบุญกุศลไว้มากพอ
ร่างกายมนุษย์เป็นรังแห่งโรค เปราะบาง พร้อมจะป่วยและตายได้ทุกเมื่อ
ไม่มีใครเลยสักคนที่จะพ้นความแก่ ความเจ็บความตายไปได้ ทุกครั้งที่เราหายใจเข้าออกกำลังมีคนตายอยู่ที่ใดที่หนึ่งในโลกตลอด
คนตายในวันนี้มักไม่คิดว่าตัวเองจะต้องตาย ไม่มีใครจะกำหนดได้ว่าเรา และคนที่เรารักจะตายเมื่อไร่
ควรเร่งทำความดีไว้ ก่อนที่สิเมิดเวลาก่อน
ไม่ควรประมาดในชีวิต
มั่นสะสมบุญไว้ก่อนที่สิเมิดเวลา
โดยการให้ทาน รักษาศีล ให้อภัยแก่คนทั้งปวงแม้แต่สัตว์ อันนี้เป็นอภัยทาน
ความรัก ความโกรธ ลาบยศ  เป็นเรื่องของโลกนี้ที่อีกไม่นานกะลืมไปเมิดสิ้น นอกเหนือจากบุญกุศลนี่แล้วที่เฮาเฮ็ด นี่ นี่จังของจริง นอกนั้นบ่อแมนของเฮา เงินบ่อแมน รถกะบ่อแมน ลูกกะบ่อแมน หลานกะบอแมน เฮียนกะบ่อแมน สรุปแล้วบ่อมีอิหยังเป็นของเฮาตะพัดเฮาเกิดมา มีแต่บุญ เข้าใจเนาะ


^^

วิริยะบารมี กับขันติบารมี
กะคือสิให้ ใหญ่จันทร์นี่อดทน ต่อร่างกายที่มันกำลังฆ่าเจ้าของ มันบ่อได้ฆ่าเฮาเด๊ะ มันฆ่าของมันเอง มันผิดกันนะเว้าง่ายๆ ธาตุ4มันผิดกัน ธาตุลม ผิดกันกับธาตุไฟ ไฟผิดกันกับดิน ธาตุน้ำผิดกันกับดิน เว่าง่ายๆทั้งสี่ธาตุในโตเฮามันผิดกัน แต่ว่ากะบอสมควรสิใช้คำว่า เฮา บ่อว่ามันบอแมนของเรา


สัจจะบารมี กับ อธิฐานะบารมี
กะคือสิให้ใหญ่จันทร์ ปฏิบัติ ละกะตั้งสัจจะว่าต่อจากนี้จะทำจริงทุกอย่างในด้านความดี สิบ่อเปลี่ยนใจ

อุเบกขาบารมี กะคือวางเฉยต่อร่างกายนี่ ในเมื่อมันบอแมนของเฮา บอกมันเซามันกะบอเซาบอกมันลุก มันกะบอลุก กะคือฮู้แล้วแมนบอว่าบ่แมนของเฮา แล้วแต่มันสิเป็นมันเป็นหยังกะเป็นโลด บ่เกียวกันกับเฮา

เมตตาบารมี กะคือสิพาใหญ่จันทร์ ขอขมา พระพุท พระธรรม พระสงฆ แล้วกะอโหสิกรรม ให้เมิดทั้งปวง บ่อว่าสิเป็น คน เป็นหมา เป็น ปลา เป็นยุง เป็นั้นเป็นนี้
กะคืออโหสิกรรมให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงที่มีลมปาน ลมปานนี้กะคือลมหายใจ
แล้วกะสิพาแผ่เมตตา3แดนโลกธาตุ แล้วกะให้พรสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง

ทานบารมี ธรรมทาน บอกลูกว่า ร่างกายนี่มันบ่อแมนของเฮาเด้อ อารมณ์กะบอแมนของเฮาเด้อ อารมณ์นี้กะคือ รู้สึกว่าทุกข์ รู้สึกว่ามีความความสุข ถ้าว่าแมนบอกมัน มีแต่ความสุขเด้ออย่ามีทุกข์เด็ดขาด มันกะบังคับบอได้แมนบอละเพราะว่ามันบอแมนของเฮา

แล้วก็เทศเรื่องเทวดา พระอินจะตาย ไปเข้าเฝ้าพระพุทเจ้า

และก็โสดาบัน
______________,,,
ภิกษุ ท. ! อาชีพต่ำที่สุด ในบรรดาอาชีพทั้งหลาย
คือการขอทาน.
ภิกษุ ท. ! คำสาปแช่งอย่างยิ่ง ในโลกนี้ คือ
คำสาปแช่งว่า “แกถือกระเบื้องในมือเที่ยวขอทานเถอะ”
ดังนี้.

ภิกษุ ท. ! กุลบุตรทั้งหลาย เข้าถึงอาชีพนี้
เป็นผู้เป็นไปในอำนาจแห่งประโยชน์ เพราะอาศัยอำนาจ
แห่งประโยชน์, ไม่ใช่เป็นคนหนีราชทัณฑ์ ไม่ใช่
เป็นคนขอให้โจรปล่อยตัวไปบวช ไม่ใช่เป็นคนหนีหนี้
ไม่ใช่เป็นคนหนีภัย ไม่ใช่เป็นคนไร้อาชีพ, จึงบวช
อีกอย่างหนึ่ง กุลบุตรนี้บวชแล้ว โดยที่คิดเช่นนี้ว่า
เราทั้งหลายเป็นผู้ถูกหยั่งเอาแล้ว โดยชาติ ชรา มรณะ
โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาสทั้งหลาย เป็นผู้
อันความทุกข์หยั่งเอาแล้ว มีความทุกข์เป็นเบื้องหน้าแล้ว
ทำไฉน การทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ จะพึงปรากฏ
แก่เรา ดังนี้.

ภิกษุ ท. ! แต่ว่ากุลบุตรผู้บวชแล้วอย่างนี้
กลับเป็นผู้มากไปด้วยอภิชฌา มีราคะแก่กล้าในกามทั้งหลาย
มีจิตพยาบาท มีความดำริแห่งใจเป็นไปในทางประทุษร้าย
มีสติอันลืมหลงแล้ว ไม่มีสัมปชัญญะ มีจิตไม่ตั้งมั่นแล้ว
มีจิตหมุนไปผิดแล้ว มีอินทรีย์อันตนไม่สำรวมแล้ว.
ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน ดุ้นฟืนจากเชิงตะกอน
ที่เผาศพ ยังมีไฟติดอยู่ทั้งสอง ตรงกลางก็เปื้อนอุจจาระ
ย่อมใช้ประโยชน์เป็นไม้ในบ้านเรือนก็ไม่ได้ ย่อมใช้
ประโยชน์เป็นไม้ในป่าก็ไม่ได้, ข้อนี้ฉันใด;

ภิกษุ ท. ! เรากล่าวบุคคลนี้ว่ามีอุปมาเช่นนั้น;
คือ เป็นผู้เสื่อมจากโภคะแห่งคฤหัสถ์ด้วย, ไม่ทำ
ประโยชน์แห่งสมณะให้บริบูรณ์ ด้วย.
ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๑๓/๑๖๗.
__________________
ผู้ปรารถนาประโยชน์โดยไม่แยบคาย ผู้นั้นย่อมเดือดร้อน

ขึ้นชื่อว่าหญิงส่วนมากในโลกไม่รู้จักยั่ง
พวงนางไม่มีขอบเขต ทั้งกำหนัดหนัก
ทั้งคะนองเหมือนไฟ กินได้ทุกอย่าง เราอย่าหลงก้อนดินที่ปั้นขึ้นมาเป็นสตรีเลย


เจริญอานาปาน
ไม่ฉันเยอะ
ไม่นอนเยอะ
ไม่คุยเยอะ
_____________
547 ชาติ
ชาติที่เด่นในการสร้างบารมี
มี10ชาติ
_________
อายุปู่ถ่าน เหลืออีกไม่นาน  ตายก่อนยุดอก   เจ้ายังอีกไกล


อายุยังน้อย เจ้านั้นยังไปได้ไกลยุดอก

ปูถ่านแฮงเหลือเวลาบ่อหลาย(พูดกลาง)

อาหารที่เอามากิน เสียง ห้าม อย่ากินๆ อย่ากินๆ มันเป็นของเหลือหงพาย สีขาว

มีวิญญานเด็กตามปูถ่าน

แก่ทำแบบนั้นไม่เจริญ
เรา กะย่อนพระปัจเจกเทส ว่า ปู่ถ่านข้าตัวตาย

ก็นัเนแหละทำผิดหลักผิดครอง
แล้วเห็นความรู้สึก(นรกขึ้นมาจากคำพูดที่พึงจบ)


โยมพ่อปล่อยแล้ว เข้าใจแล้ว ไม่อยากให้สึก

ส่วนโยมแม่ละ

โยมแม่นี่ยังอยู่น่ะเพราะแกต้องพึงอยู่ ยังปล่อยไม่ได้


น้ำลายที่ออกมาจากปากปู่ถ่าน โดนอาหารอย่าฉัน


ความหมายจากคำพูดโยมแม่ ปูถ่านครึ่งเปตรครึ่งคน โดยไม่ได้มัว

มอสได้บวชเป็นพระวัดบ้านอยู่ทางบ้านเขตทางหนองบัวนาเลิง

หนุ่มเดินตามเรา
____________
ขออนุโมทนา
รักษาศีลเจริญภาวนา มาฟังธรรม
ขอให้พวกเรา
ได้รับอานิสงค์ตามที่พระพุทธเจ้าบัตติไว้
คือเป็นผู้ไปทางเจริญไม่ไปทางเสื่อม ถึงความเจริญอย่างเดียว ไม่ถึงความเสื่อม
และได้ความเป็นโสดาบันสำเร็จมรรคผลนิพพานในอนาคตเวลาอันใกล้นี่เถิด



ให้มีความเจริญก้าวหน้าในธรรม คิดหวังสิ่งใดขอให้สมปราถนา
ที่สุดขอให้ได้ดวงตาเห็นธรรม
สำเร็จมรรคผลนิพพาน ในอนาคตกาลอันใกล้โดยทั่วกันทุกท่านเถิด
_____________
อริยะบุคคล มี 4 ประเภท
1 โสดาบัน
2 สกิทาคามี
3 อนาคามี
4 อรหันต์

เกี่ยวข้องกับ สังโยชน์ 10 ข้อ ดังนี้
1 โสดาบัน ละได้ 3 ข้อ
2 สกิทาคามี พยามยามละข้อ4-5
3 อนาคามี ละได้ 5 ข้อ
4 อรหันต์ ละได้ทั้งหมดเลย10ข้อ


ภพที่เกิดของอริยะบุคคล แต่ละท่าน
1 โสดาบัน ไปเกิด มนุษย์-สวรรค์ 7 ครั้ง
2 สกิทาคามี ไปเกิด สวรรค์ 1ครั้ง
3 อนาคามี ไปเกิด พรหม 1 ครั้ง
4 อรหันต์ ตายจากชาตินี้แล้ว นิพพาน


เทวดา เขาก็มีอาหารของเทวดา
ปู่ป๊อกบอกว่า บ้างครั้งก็ลงมา
แต่อยู่ข้างบนเป็นส่วนใหญ่
เพราะเทวดาส่วนมากจะหลงในกามคุณอันเป็นทิพย์
เทวดาสติเกิดได้ยาก

และอีกอย่าง เทวดาอยู่ใกล้มนุษย์โทสะไม่ชอบ
เพราะคนโกรธมันจะมีกระแสพลังงาน พลุ้งออกมามันละเอียดอ่อน
เทวดาเขาเป็นพวกละเอียดอ่อน เป็นทิพย์
เขาไม่ชอบกระแส โมสะ ด่ากัน ขี้ถี้
แต่เขาจะชอบ เสียงสวดมนต์ ชอบธรรมะ
ฉนั่นแล้ว ท่านจะลงมาหรือไม่ลงมา
มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับอาหาร หยาบๆ หรอก เทวดาเขาก็มีทิพย์เป็นอาหาร

และการที่เอาอาหารไปตั้งไว้ ในเมื่อเฮาฮู้แล้วว่า เทวดาไม่ได้กิน
แล้วที่เอาไปตั้งไว้ มันได้กับใคร
"ได้กับเปตร บางจำพวก"
_________________
5 เหตุปัจจัยให้บุคคลอายุยืน
1บุคคลเป็นผู้ทำความสบายแก่ตนเอง
(2)
รู้จักประมาณในสิ่งที่สบาย 

(3) บริโภคสิ่งที่ย่อยง่าย

 (4)เป็นผู้เที่ยวในกาลสมควร 

5)เป็นผู้ประพฤติเพียงดังพรหม

ทำความสบายแก่ตน ไม่ค่อยทำให้ใจตัวเอง ทุกข์ คือทำใจเบาสบาย ไม่สร้างปัญหาให้ตนเอง

รู้จักประมาณในความสบาย

นอนเป็นเวลา

ทำสมาธิ
________________________
ศทัธา ศีล สุตตะ จาคะ ปัญญา
___________
1สุขทุกข์เกิดจากผู้อื่นบันดาล
2ตัวเองบันดาล
3ทั้งตัวเองและผู้อื่น
4เกิดมาเอง

เจตนาว่าเป็นกรรม
______________
ถ้าหาเพื่อนดีคบไม่ได้ ก็ไปมันคนเดียวซะ
แล้วไม่ทำบาป
_____________
01:39 แก้ผี อสุภะ
01:54 เจตนาว่าเป็นกรรม
แก้กรรมฆ่าสัตว์
02:03 ธรรมะ 5 ประการ สำหรับผู้ป่วย
02:40 วิธีอยู่กับคนพราน
02:42 ผิดศีลข้อ1 ก็ทำศีล4ข้อให้ดี


ครึ่งหนึ่งเราใช้ชีวิตไปทางละครน้ำเน่า ครึ่งหนึ่งไปทางเกลียดเพื่อนบ้าน
ครึ่งหนึ่งใช้ชีวิตไปกับมีอคติกับคนอื่น
ครึ่งหนึ่งเราใช้ชีวิตไปกับการหาเงิน


อสูรกาย แปลว่าผู้ไม่กล้าปรากฏกาย
หรือ อธิสมนะกาย แปลว่าผู้มีกายแต่มองไม่เห็น
____________
ทำจิตให้ปราศจาก นิวร  5
จะเป็นจิตที่มีกำลัง และเมื่อตั้งเจตนาน้อมไปในเรื่องใดมันจะสำเร็จ

นิวร 5 คือ
1ไม่ฟุงซาน
2ไม่ง่วง
3ไม่คิดในทางกามพยาบาต
_______________
หลังฉันแล้วให้เธอ
เดินจรงกลม สลับนั้งสมาธิ จนกระทั้งสิ้นราตรี
ยาม2นอน
ยาม3ตื่น ตื่นแล้วเดินจรงกลมสลับนั้งสมาธิ มาจนถึงเช้า
_______________
เวลาเล่นเฟสบุ๊ก เข้าเฟสแล้ว
เห็นรูปที่เขาอัพลง รูปผู้หญิง..น่ารัก สวย..ขาว.. รู้สึกชอบใจถูกใจ ก็รู้ รู้เข้ามาที่ใจที่มันชอบ
หรือบางทีมันเห็นรูปแล้วยังไม่พอ อยากตามเข้าไปดูถึงเนื้อถึงตัวเฟสคนนั้นเลย
ก็ให้ รู้ รู้เข้ามาที่ใจตัวเอง

หรือถ้าเป็นผู้หญิงเห็นรูปผู้ชายหล่อๆ..เท่ๆ แมนๆ  แล้ว รู้สึกถูกใจชอบใจ ก็รู้ รู้เข้ามาที่ใจตัวเอง
หรือบางที่เห็นรูปแล้ว มันคิดขึ้นมา"เฮ้อ..เขาคงมีแฟนแล้วแหละ"
จิตใจจากที่ชุ่มชื่นพอใจ เปลี่ยนมาเป็น ใจแห้งแล้งเลย  ก็ให้รู้

หรือเห็นรูปผู้หญิงเขาสวยกว่าเรา เราอิจฉา "อึย..อีนี่ดัจลิด ตัวจริงมันไม่สวยหรอก มันใช้โปรแกรมแต่งเอา มันใช้Camera360ฮึย.."
ใจมันรู้สึกไม่พอใจนิด ขัดเคียงนิดๆ
เราก็รู้ รู้ใจ


หรือว่าเราอัพเดตสถานะข้อความที่เราโพสไป
เห็นเขากดไลค์ให้  ไลค์ให้เยอะรู้สึกดีใจ พอใจ เราก็รู้ที่ใจ ที่มันดีใจ

หรือว่าเขากดไลค์ให้น้อย ใจแห้งแลง ไม่เบิดบาน ก็รู้ รู้เข้ามาที่ใจ


หรือว่าผู้หญิงโสด" เข้าเฟสแล้ว เห็นเขาขึ้นสถานะเป็นแฟนกัน
เขาอัพรูปคู่ลง ชายก็หล่อหญิงก็สวย

รู้สึกอิจฉา ก็รู้ที่ใจมันอิจฉา

หรือเห็นแล้ว อี่ผู้หญิงนี่ไม่สวยเลย เรายังสวยกว่าอีกน่าจะเป็นเรา

ก็ให้ รู้ รู้เข้ามาที่ใจ
____________________
เหมือนถูกไฟดูดร่างกาย
มันหมุนๆ จื้น.. ทั้งๆที่ก็มีสติไม่ได้หลับ

และก็ได้ยินเสียงเหมือนมีใครอยู่บนหลังคาใช้พลังจิตซอตเราอยู่
เหมือนเป็นพวกที่ไม่ดีคอยแกล้ง

มันเป็นแบบนี้ครั้งนี้ครั้งที่3แล้ว

ก็เลยอธิฐานพวกท่านอย่าเบียดเบียนเราเลย และก็นึกถึงพุทธคุณธัมมะคุณสังฆะคุณ

มันก็ไม่หายไป

ก็เลยใช้จิตที่ประกอบไปด้วย ความปรถนาดีไม่มีเวรแผ่ให้ไอ้ตัวที่อยู่บนหลังคา

เรานี่มีสติดูอาการตลอด

สักพักมันก็หายไป
__________________
วันพระเกิดจาก ตรงนี้
8 ค่ำ ขึ้น15
14 15 ค่ำ แรม 8

พระเจ้าพิมพิศาล เห็นศาสนาอื่น รวมกันประชุมกันสนธนาธรรมกัน
หลังจากนั้นพระเจ้าพิมพพิศาลก็ไป เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
แล้วสนทนากับพระพุทธเจ้าว่า 

ปลิภาชก ศาสนาอื่นเขารวมกันประชุมกันสนทนาธรรมกัน

พระองค์พอที่จะบัญญัติให้มีวันประชุมรวมกันได้ไม่พระเจ้าข้า

แล้วหลังจากนั้น พระพุทธเจ้าก็พิจารณาดู
เห็นว่าได้ แล้วก็บัญญัติให้วัน 8 ค่ำ 15 ค่ำ นี้ให้พระมาประชุมกันและสาธยายธรรม
________________
ทำไม คนถึง ยึดมั่นถือมั่นคนในภพปัจจุบันครับ
เช่น พ่อแม่พี่น้อง ญาติพี่น้อง ของรักของหวงในชาตินี้มาก

แต่ทำไม ชาติก่อนก็เคยมีเคยเป็น มีพ่อมีแม่มีญาติพี่น้อง เหมือนกัน ของรักของหวงก็มี
ทำไมไม่คล้ำควรหวนหา ว่าเป็นยังไง จะเป็นยังไงน้อ จะอยู่ดีมีสุขยังไงไม่มีอาการโผ่ขึ้นมา
 แต่กลับมายึดคนที่อยู่ในภพปัจจุบัน

เช่นถ้าพูดว่า ตอนนี้พ่อแม่เธอ โดนขังโดนทรมาณทำร้ายโดนต่างๆนา ในนรก รถคล้ำเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัสอะไรประมาณนี้

สัตว์ตัวนั้นก็จะมีอาการยึดทันที ทุกข์ใจตามมาปรุงแต่งร้อนใจแน่นอน เพราะว่านั้นคือพ่อแม่เขา

แต่ถ้าบอกว่านี่เธอ พ่อแม่เธอ คนรักเธอ ชาติที่แล้วตอนนี้กำลังตกทุกข์ได้ยาก ลำบากลำบนทรมาณน่ะ

เขาก็จะเฉยๆไม่เหมือนคนในภพปัจจุบัน

แล้วถ้าเอาความรู้สึกมาเปรียบเทียบ
จะเห็นได้ว่ามันต่างกัน

ตอบ เพราะอำนาจแห่งความลืมนั้นเอง
เพราะอำนาจแห่งความจำไม่ได้นั้นเอง

และอำนาจแห่งกิเลสความยึดมันถือมั่นในสิ่งที่รับรู้กระทบสัมผัสทางขันธ์ 5 นั้นไม่พอจะมีสัญาข้ามภพชาติไปได้

จึงให้ความสำคัญกับภพชาติปัจจุบัน
มากกว่ามากที่สุด กว่าภพชาติก่อนๆทั้งๆที่ก็เคยผ่านมานับไม่ได้ เพราะอำนาจแห่งความลืมอำนาจแห่งความจำไม่ได้ จิตที่ไม่มีสัญญาเก่าที่แรงๆ
ติดมา ก็เหมือนกับคนทั่วไป
ที่จำชาติก่อนไม่ได้ 

ส่วนพวกที่ติดสัญญาเก่ามาด้วย
มีความจำเก่ามาด้วยจำได้ เช่นงูกับชาติมาเกิด เพราะอาฆาตแค้นคนที่ทำร้ายตน
นี่ก็เพราะจิตยึดมันในความอาฆาตมาก จนพอจะมีสัญญาเก่าติดต่อสืบไปภพใหม่ต่อเลย เมื่อเริ่มรู้จักความก็มีสัญญาเก่าผุดขึ้นๆ

จะไม่เหมือนคนที่ไม่มีสัญญาเก่า
อดีตชาติ ติดมาด้วย
อย่างเช่น พวกเรา ลืมไปเลยว่าชาติก่อนเป็นอะไรเกิดในภพไหน

สรุปเพราะ อำนาจจิตมีความยึดมั่นถือมั่นกี่ยวกับสัญญา ตัวนี้ตัวเดียวว่ายึดมากไหม ยิ่งยึดยิ่งชัด

แต่ทำไม คนบางคนในโลกนี้ บ้างคนละลึกชาติได้ ว่าเคยเกิดเป็นนั้นเป็นนี่ ทั้งที่ไม่เคยปฏิบัติมาเลย

ที่ละลึกได้ว่าเป็นงู ก็เพราะชาติที่เขาเกิดเป็นงู เข้ามีความยึดมั่นถือมั่นอาฆาตนายพราน เลยเป็นสัญญาติดมาชาตินี้ที่เกิดเป็นคน
แต่เอ๊ะทำไม ถึงจำไม่ได้ว่าชาติก่อนที่จะมาเกิดเป็นงู เป็นอะไร

จะตอบได้ไหมว่า อำนาจอุปาทานความยึดมั่นถือมั่นในชาติก่อนที่เขาจะมาเป็นงู เขาไม่ปรุงยึดอะไรมากถึงกับเกิดชาติใหม่ มีสัญญาเก่าติดมาด้วย

ตอบแบบนี้ได้ไหม เพราะอำนาจแห่งความยึดสิ่งนั้นทั้ง รูปธรรมและนามธรรม(ขันธ์5นั่นเอง) ยึดแรงจนกลายเป็น สัญญาข้ามภพข้ามชาติ

ถ้าไม่อยากเจออย่าวิ่งไปหา
พอเข้ากันได้ไหมกับคำพระพุทธองค์ ว่า
"ผู้ไม่เข้าไปหาย่อมหลุดพ้น"

เหมือนกับอกหัก ฉันจะลืมเธอ ก็วิ่งไปหาภาพเขาเก่าๆในหัว

ฉันจะทำยังไงดี ลืมเธอไม่ได้
วิ่งไปเปิตๆ ไปหาภาพเก่าๆเขา

ก็เลยวิ่งจะไปลืมสิ่งนั้น มันจะลืมได้ไหมเนี๊ยะ

ต้องใช้"ผู้ไม่เข้าไปหาย่อมหลุดพ้น"

ก็เลยจะมาเข้ากับที่ว่า
"พระโพธิสัตว์ อธิฐานจิต ก็คือยึดมั่นถือมันนั่นเอง พอตอบได้ไหม ก็คือวางเส้นทาง เรงจิตไว้แล้ว เหมือนล๊อกเป้ายิ่งธนู
กำลังมากก็ถึง
กำลังไม่มากก็ไม่ถึง

ไม่เกี่ยวกับสมาธิน่ะว่าต้องใช้กำลังมากๆจิตมันอยาบไป ต้องให้ละเอียดมากๆน่ะ เบาๆ 

ตรงกันข้ามอารมณหยาบๆของชาวโลกน่ะสมาธิ
____________________
มุเฮาดีใจบอที่ได้มาเกิดเป็นคน
นั้งอยู่นี้ดีใจบอ ฮึ

ชาวพุทธเราเลือกเกิดก็ได้เลือกทำกรรมได้
เพราะสามารถทำบุญได้หลากหลายกว่าสัตว์ในภูมิอื่นๆ

ไม่ว่าจะเป็นทาน ทีนี่การทานก็ต้องทานให้มันถูก
ไม่ว่าจะเป็นศีล ศีลก็ต้องรักษาเป็น ตั้งจิตรักษาก่อนนอนถ้าแมนไหลตายก็ยังบอไปนรก

ไม่ว่าจะเป็นภาวนา ภาวนาก็ให้มีสติผู้รู้ สตินี่ก็บอแมนสติแบบคือทางโลกเเะ สติแบบทางโลกคือย่างบอตกถ่อ
ขับรถบอชนกัน ฟักเนื้อบ่อให้มีดพร้าถืกมือ อันนี้คือสติทางโลก 
สติทางธรรมก็คือผู้รู้ ฮู้อิหยังละ
รู้ทุกข์ อย่างเช่นมื้อเช้า มีเฮียนข้างบ้าน 3-4หลัง เว้าพื้นเฮา
แล้วเอาไปขายอยู่หน้าตลาดปากซอย ทั้งๆที่เฮากะบอได้เฮ็ดอิหยังผิด

ตกกลางคืนนอนบาดนิ  มันมาเดะบาดนิเรื่องมื้อเช้าที่เฮาบอพอใจ มันสิมาเป็นสาย 
ถ้าเฮาเข้าไปรวมกับมันเฮานิสิหน้าเลือดหน้าแดงขึ้นประจางง้างเลย บอคือผู้เก่าเปลี่ยนไปหมด ผู้ใด๋อยู่ข้างๆงุดงิดใส่เลย ด่าผัวกะมีอันใด๋ที่ผัวเคยเฮ็ดบอดีลามออกมาเมิดเลย เสียไปเมิด

แต่วาถ้าผู้มีสติ กำหนดรู้ เรื่องบอพอใจมันไหลเข้ามา เฮากะสิเป็นผู้เบิ่งสื่อๆ คือจังยืนอยู่เทิงสะพานบิง
เศษขยะมันไหลมานำน้ำผ่านไป
เฮานิเป็นผู้เบิ่งยืนอยู่เทิงสะพานเห็นเศษขยะมันไหลผ่านไปนำน้ำ



อันนี้คือชาวพุทธเรา

เบิ่งศาสนาอื่นเขาเลือกเกิดบ่อได้เดะ
สิขอยกตัวอย่างศาสนาพราม อย่างเช่นการหาทางพ้นทุกข
์ในสมัยนั้น
เขาบูไฟ ดังไฟขึ้นสุมไฟขึ้นแล้ว แล้วก้มกราบ ข้าขอปลงบาปๆ

ผู้2มาบาดนิ โอ้ยบูชาไฟมันบ่อได้ผล
มันต้องบูชาน้ำแมะ แม่น้ำคงคา
ลอยไฟลงแม่น้ำคงคา แล้วบาปสิเมิด บาปสิไหลหายไปนำน้ำ

ผู้4มาบาดนิ บูชาน้ำมันกะบ่อได้ผล
มันต้องนอนบนหนามกินบนหนาม
ต้องถ่ายบนน้ำ น้ำหนองนิเละเต็มโตเต็มหมดทุกส่วนเลยที่ถืกน้ำปัก

ผู้ที่5บาดนิ โอ้ยมันบอพ้นทุกข์ไปเฮ็ดแนวนั้น
มันต้องสวดมนต์ ออนวอนอีสวน
ผู้ที่5นิกะสวดอยู่เมิดมื้อเมิดเวน
บอเฮ็ดการเฮ็ดงานหยัง แต่ว่าบาดสิตายโอ้ยหิวข้าวๆพอก่อน โอ้ย..ข้อข้าวกินหน่อยนายๆ

อันนี้คือยกตัวอย่าง ทีจริงแล้วมีหลายกว่านี้อีก
เรื่องคนในสมัยพุทธกาลหาทางพ้นทุกข์

ศรัททา /เคารพ/ ย่อมทานโดยการอันควร / จิตอนุเคราะ์
/ทานไม่กระทบตนไม่กระทบผู้อื่น

ศรัทธา=รวย มีทรัยพ์มาก น่าเคารพ น่าเชื่อถือ

เคารพ=บุตรภรรยาลูก ข้าทาสกรรมก่อนเชื่อฟัง

ทานโดยการอันควร=ผลแห่งทานก็จะให้ผลในเวลาอันควรจะให้ผล

มีจิตอนุเคาระในทาน=ย่อมมีจิตน้อมไปเพื่อบริโภคผลแห่งทานนั้น

ทานไม่กระทบตนไม่กระทบผู้อื่น=
ไม่มีอัตรายจากคน จากโจรจากพระราชา

และทางไปสู้สวรรค์


เรื่องทานเนาะ
ญาติโยมบ้านเฮานิทานเก่ง 
แต่ถ้ามีแต่ทานบอรักษาศีล

แต่ว่าหันวางจิตบอถืก

1ถ้าวางจิตคิดว่า  หวังผล ให้ทานโดยมีจิตผูกพันในผล ให้ทานโดยการคิดว่าเราตายไปจะได้เสวยผลของทานนี่  ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดา ชั้น1จาตุมอยู่ต้นไม้ เมื่อหมดบุญแล้วยังเป็นผู้กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก

2 ไม่มีความหวังผล ให้ทานโดยไม่มีจิตผูกพันในผล ให้ทานโดยไม่มุ่งการสั่งสมบุญ ไม่คิดว่าเราตายไปจักได้เสวยผลของทานนี้ แต่เขาคิดว่าการให้ทานเป็นการดี
ย่อมเข้าถึงชั้น2 ดาวดึง เมื่อหมดบุญแล้วยังเป็นผู้กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก

3 ให้ทานโดยคิดว่า บิดามารดา ปู่ย่าตายาย เคยพาทำมา เราเองก็ไม่ควรทำให้เสียประเพณี เขาจึงให้ทาน   = ยามา

ชั้น4คิดว่าเราหุงหากิน แต่สมะไม่หุงหากิน
ถ้าไม่ให้ไม่ควร

= ดุสิต

6จิตจะเลื่อมใส เกิดความปรื้มใจ ความโสมนัส
ปรนิมมิตสวัตดี

7ทานเพื่อสละออก ไปเกิดเป็นพรหม อริยะบุคล


แต่หลังจากตายจากเทวดาแล้ว
ถ้าได้มาเป็นคน สิบอเอิดเงินเวาง่ายกะคือรวย

แต่ว่าถ้าพระพุทธเจ้าตรัสว่า
เทวดาที่ตายแล้ว จะได้กลับเป็นเทวดาอีก มีเท่าไร่

เทวดามี2พวก

แผ่เมตตากับอุทิศบุญ

แล้วกลับไปเรื่องต๊ะ

แล้วต่อด้วยโลกหลังความตาย

แก้กรรมวิบากกรรม

กรวดน้ำ

พรหมน้ำมนต์ 

เอาตัวรอดก่อนตาย

เรื่องการดูหมอ

อย่าหลงยศ หน้าดำหน้ามืดหน้ามัว
มันสิบ่อเห็นสนกิเลส

เรื่องอริยะบุคคล

เรื่องสังฆทานมื้อวานคือกันฆังฆะทานเฮ็ดบุญให้พ่อใหญ่จันทร์
ซื้อบ้านกระดาษน่อยรถกระดาษ
น้อย

เรื่องดวงอาทิตย์ 7 ดวง

เรื่องโลกจักวาล

เรื่องมนุษย์ยุค10ปี

สอนแผ่เมตตา
สอนอุทิศบุญ

รับของที่ไม่เป็นธรรมและเป็นธรรม

1ของเขาให้ด้วยกาย ไม่รับด้วยกาย
2ของเขาให้ด้วยกาย ไม่รับของเนื้องด้วยกาย
3ของเขาให้ของเนื่องด้วยกาย
ไม่รับด้วยกาย
4ของเขาให้ด้วยของเนื่องด้วยกาย
ไม่รับของเนื่องด้วยกาย
5ของเขาให้ด้วยโยนให้
ไม่รับของด้วยกายหรือของเนื้องด้วยกาย

เป็นธรรม
1รับด้วยกาย
2รับด้วยของเนื่องด้วยกาย

เป็นธรรม 
ให้ด้วยกาย รับด้วยกาย


ไม่เป็นผู้มักโกรธไม่มากไปด้วยความคับแค้นใจ ถูกว่าแม้มากก็ไม่ขัดเคียง
ไม่ฉุนเฉียวไม่กระฟัดกระเฟียด
ไม่กระด่างกระเดี่ยง
ไม่แสดงความโกรธความขัดเคียง
ความไม่พอใจให้ปรากฏ

สวยแน่นอน


เทวดาถามว่ามนุษย์พวกขี้ถี่
ดีแต่ทำการกรีดขวางคนอื่น วิบาดเขาจะเป็นยังไง
พ: ย่อมเข้าถึงนรก กำเนิดเดรัจฉาน ถ้าหากแม้มาเกิดเป็นมนุษย์จะเป็นคนย้ากแคล้นสนใจ อยากได้อิหยังกะบอได้


เทวดาไหว้ใคร
>ไว้มนุษย์ผู้มีศีล
>ผู้ประพฤพรหมจรร
>ส่วนคถึหาส
เป็นผู้ทำบุญ
มีศีล
เป็นอุบาสก
เลี้ยงดูภรรยาโดยชอบ
>



อุบาสกรัตตนะ
>ศรัทธา
>มีศีล
>ไม่เป็นผู้ถือโกรุละมงคล เขื่อกรรม ไม่เชื่อมงคล
>ไม่แสวงหาผู้ควรรับทักษินาภายนอกศาสนา
>ทำการสนับสนุนในศาสนานี้

วันสิ้นโลก
>อีกหลายแสนปีจะมียุคฝนแร้ง
พืชพันธรรยาหาญจะตาย
______________________
ผลของการให้ทานที่ตอบสนองในปัจจุบัน
1เป็นที่รักที่ชอบใจของชนเป็นอันมาก
2คนดีๆอยากจะคบด้วย
3มีชื่อเสียงขจรไป
4เวลาไปในที่ชุ่มชน ราชถานีสถาน สถานทีที่มีคนมีงาน สิบ่ออยากอาย
5ตายแล้วไปสวรรค์
______________________
บทความธรรมะสัจจะ
ที่เราเห็นๆกันอยู่ ที่ว่า"นี้ผู้หญิง"นี้ผู้ชาย"
ความจริงแล้ว "ผู้หญิงก็ไม่มีจริง ผู้ชายก็ไม่มีจริง" ที่เห็นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมานั้น ที่เราเข้าใจว่า นี้เพศชาย,นี้เพศหญิง,
 สัจจะความจริงแล้วจุดดั่งตั้งต้นพื้นฐานของร่างกายนั้นมัน มาจากธาตุ๔ ดินน้ำไฟลม
มีตัวกรรมปั้นธาตุ๔ ดินน้ำไฟลม ขึ้นมาเป็นคน"แบบนั้น แบบนี้ ปั้นให้มีลักษณะแบบนั้น มีลักษณะแบบนี้
บริเวรหน้าออกสองข้างมีการนูนขึ้น ตรงง้ามขาขึ้นมามีลักษณะนูนๆ
(แล้วพวกชาวโลกก็ไปหมายหมั่นตั้งชื่อให้ว่า มีลักษณะแบบนี้เป็นเพศหญิงน่ะ

และปั้นให้มีอีกลักษณะ ถ้าบริเวรขึ้นมาตรงง้ามขา มีเนื้อยาวออกมา ไม่นูน ชาวโลกเขาก็เลยใส่ชื่อให้ มีแบบลักษะแบบนี้เป็นเพศชายน่ะ)

และกรรมมันปั้นธาตุ ๔ ดินน้ำไฟลม ให้เป็นสัตว์ต่างๆก็ได้

พวกเรานักปฏิบัติ "อย่าได้ไปหลงรูป ดินเด็ดขาด" มันจะปั้นเป็นตัวอะไรก็ช่างหัวมัน
มันปั้นเป็นผู้หญิง ผู้ชาย สวยไม่สวย หล่อไม่หล่อ ขาวไม่ขาว เตี้ยสูงอ้วนผอม ก็ช่างมัน ขอเลยอย่าเอาใจไปหลงกับมันเด็ดขาดเลย อย่าได้โง่เด็ดขาด เมื่อรู้ความจริงแล้ว
อย่าให้มันค้าบความสนใจไปหลงเด็ดขาด

คนทั้งโลกนี่หลงตัวนี้แหละ มันถึงได้มีครอบครัวมีเมียมีลูกมีหลานเต็มบ้านเต็มเมือง เพราะติดตัวโง่ ตัวนี้

อย่าได้ติดกับดักอวิชาเด็ดขาด ที่มันปั้นให้เป็นรูปแบบนั้นแบบนี้ มีเสียงแบบนั้นแบบนี้ เพราะตัวดิน! ไม่งั้นไปไม่ถึงฝั่งแน่ แต่กลับจะเสวยผลคือความเผ็ดร้อนของมัน

และพวกเราอย่าได้ติดกับดักไม้ตายของกิเลสเด็ดขาด
ที่ว่าปฏิบัติแล้วมีความสุข แค่นี้ก็ใจเบากายเบา ถึงจะยังไม่ถึงนิพพานแค่นี้ก็รู้สึกดีแล้ว"

นี้แหละๆตัวนี้แหละ มันจะพาสร้างภพสร้างชาติให้ใหม่อีก
ต้องเสียกำลังไปกับมันอีก

อย่าได้ประมาท
อย่าได้นิ่งนอนใจอย่าตายใจกับมันเด็ดขาด

ตัวอวิชานี่มันร้ายกาจนักหนา
แต่สู้ปัญญาในมรรค8ไม่ได้
________________
11.00 เปิด  19.00 กรุงศรี
10.30 เปิด  19.00 กรุงเทพ
นนน
___________

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น