วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2565

พระมงคลชัย กิตติโสภโณ อย่าหลงวิบากเด้อ ตอบวาทะพระอรหันต์

“คนที่ปฏิบัติธรรมภาวนาจริงๆ จะอยู่คนเดียว”
คนที่ภาวนาจริงๆแล้วจะไม่อยากสุงสิงกับใคร
อยากจะอยู่คนเดียว เพราะเวลาอยู่คนเดียว
แล้วก็มีสถานที่แบบนี้ จะไม่มีอะไรไปทำให้จิตใจกระเพื่อม
เพราะจิตใจเปรียบเหมือนกับสระน้ำ
ถ้ามีคนลงไปอาบ ไปตัก ไปเล่น น้ำก็ขุ่นน้ำก็ไม่นิ่ง
จิตของเราถ้าต้องสัมผัสกับ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะต่างๆ
ก็จะต้องกระเพื่อมอยู่ตลอดเวลา เวลากระเพื่อมก็จะไม่สงบ ไม่นิ่ง
จะไม่เห็นความสุขความประเสริฐ ของความสงบ
ความอิ่มเอิบใจ ความพอใจ ที่เกิดจากการบำเพ็ญจิตตภาวนา
คนที่ภาวนาเป็นแล้ว จะรู้ว่าต้องการสถานที่แบบไหน
เขาจะไม่ต้องการพวกแสงสีเสียง ไม่ต้องการเพื่อน
ไม่ต้องการคนนั้นคนนี้มาแก้เหงาด้วยการคุยกัน
เพราะจิตที่ได้เข้าสู่ความสงบแล้ว จะไม่ค่อยคิดถึงอะไร
เพราะไม่ค่อยได้ปรุงแต่งกับเรื่องอะไร แต่จิตที่ยังไม่สงบ
ก็จะคิดไปเรื่อยเปื่อย คิดเรื่องนั้นคิดเรื่องนี้ แล้วก็เกิดอารมณ
์ต่างๆขึ้นมา
คิดในเรื่องที่เคยทำให้มีความสุข ในขณะที่ไม่มีความสุขนั้นแล้ว
ก็จะทำให้เศร้าสร้อยหงอยเหงา อยากจะหวนกลับไปหา
ความสุขแบบนั้นอีก
ถ้าเคยมีความสุขกับเพื่อนกับฝูง กับการทำกิจกรรมต่างๆ
พอต้องมาฝึกจิตอยู่คนเดียวในป่า ก็จะอดคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่
เคยสัมผัสมาไม่ได้
อดที่จะคิดถึงเพื่อนคนนั้นเพื่อนคนนี้ กิจกรรมนั้นกิจกรรมนี้ไม่ได้
ก็เลยเกิดอารมณ์ว้าเหว่เปล่าเปลี่ยวขึ้นมา จึงทนอยู่ไม่ได้
ต้องกลับไปหาเพื่อนหาฝูง หากิจกรรมต่างๆ
แต่ถ้าเคยได้ฝึกจิตมาก่อน แล้วสามารถทำจิตให้สงบได้
เวลามาอยู่สถานที่แบบนี้ จะไม่ค่อยคิดถึงเรื่องราวเหล่านั้น
เพราะมีงานทำ รู้หน้าที่ของตน รู้ว่าต้องทำอะไร
คือคอยควบคุมสังขารความคิดปรุงนี้เอง
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วันที่ ๔ กันยายน ๒๕๔๘
28 พ.ย. 2016 · 

พระมงคลชัย กิตติโสภโณ แสดงความคิดเห็น

เพราะ อัธยาศัย ต่างกัน
เพราะบุญบารมีต่างกัน
คนปฏิบัติ กับ คนไม่ปฏิบัติ
จึงต่างกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น