วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ที่ห้ามโรงศพ เวียนเมธุ ไปซ้าย ซ้ายซ้าย ๓ รอบ

ที่ห้ามโรงศพ เวียนเมธุ ไปซ้าย ซ้าย
ซ้าย ๓ รอบ

ปริศนาธรรมโบราณคือ
เขานั้นตายแล้ว ก็ต้องเกิดมาตายอีก ตายแล้วตายเหล่า ซ้ำซากในภพทั้ง๓
กามภพ รูปภพ อรูปภพ


เวลาเวียน ขวา ไปขวา ไปขวา
เวียนรอบ เช่นเวียนเทียนรอบศาลา
(ในพระสูตรสมัยนั้นพระพระสารีบุตรเดินเวียนขวา พระพุทธเจ้า ๓ รอบ)
การเวียนขวานั้น เรียกวิวัฏฏะ คือเวียนออก ออกจากภพทั้ง๓
กามภพ รูปภพ อรูปภพ  คือพยายามเจริญขึ้นให้พ้นอาสวะกิเลสนั่นเอง


ส่วน การที่โบราญประเพณี ให้ใส่ชุดดำ หรือชุดขาว มางานศพ
ก็เพื่อให้แสดงความหมายนัยยะว่า
ชุดขาว คือกรรมขาวนะ เป็นฝ่ายบุญกุศล
พากันทำจนมั่นใจแล้วหรือยัง เตือนนะ
ชุดดำ คือกรรมดำ เป็นฝ่ายบาปอกุศล
ทำไว้มากไหม 
ทั้งบาปและบุญนี้ ระลึกดู ตั้งแต่เกิดจนตอนนี้ อย่าให้บาปมากกว่าบุญนะ

ก็สรุปว่า เพื่อให้เข้าใจว่า
เขานั้น มีแต่กรรมดำ และกรรมขาว
แค่ไหน และระดับประมาณไหน
_________
มุสา
ปิสุณาวาส(ส่อเสียด)
ผุสาวาส (หยาบคาย
สัมผับปราปะ (เพ้อเจ้อ)
__________
สัตว์ทั้งหลายเขาไม่ได้เบียดเบียนเราหรอก แต่จิตมันปรุ่งขึ้นมาเองว่า "แมลงหวี่มันเบียดเบียนเรา"
แท้จริงแล้ว มันก็ทำหน้าที่ หาอาหารคือน้ำเหลืองทางตา ทางปาก กินเฉยๆ เพื่อเลี้ยงชีพมัน
________,,
กรรมในปัจจุบันสำคัญกว่า

อย่างเช่นศาสนาพรามณ์
มีหลายวิชา วิชาไตรเพศ/ วิชาเคาะกระโหลกศรีษะคน
ว่าตายแล้วไปเกิดที่ไหน สวรรค์ นรก มนุษย์ เปตร รู้หมด
วิชาปุริศลักษณะ คือดูส่วนต่างๆของร่างกาย ว่ามันยังเป็นยังไง 
และมีวิชาอื่นๆอีกเช่น
วิชาโหราศาตร์
ที่บอกไว้ว่า มนุษย์ที่เกิด ภายใต้ดวงดาวดวงนี้ มีอิทธิพลกับดาวนี้
พระอาทิตย์เลข1
พระจันทร์เลข2
พระอังคารเลข3
พระพุทธเลข4
พระ...ฯลฯ
แล้วเอามาคำนวนถอดรหัสหากรรม
อย่างเช่น
เธอจะมีอายุเพียงเท่านี้เท่านั้นนะ
31ปีตกปีคอคาด คือเป็นปีที่จะต้องตาย อาจตายด้วยโรค ด้วยรถชน ด้วยโดนยิง ไม่ได้หมายถึงต้องคอขาดตายแต่อย่างเดียว)

ตามเกณฑ์ตามดวงดาวที่บอกไว้
ตายตอนอายุ31ปี

แต่ถ้าไม่เบียดเบียนสัตว์ไม่เบียดเบียนมนุษย์
กลับมีแต่ช่วย
ไม่ฆ่าแล้วยังช่วยเหลืออีก
ปล่อยนกปล่อยปลา
ปล่อยวัวปล่อยควาย
ที่จะโดนฆ่าตายถึงคาดในวันนั้น

และทำทานถวายอาหารใส่บาติ ต่ออายุพระ ต่ออายุพระศาสนาเป็นประจำ
ด้วยกรรมดีหรือว่ากรรมขาวที่ทำในปัจจุบันนี้นั้นเป็นประจำ

 ช่วยให้มีอายุยืน ข้าม31ปีที้ว่าจะต้องตาย


เหมือนหมอดูอภิญญาคนหนึ่ง
มีลูกค้ามาดูหมอ
หมอดูก็ถามว่า
วันเดือนปีเกิดอะไร
ลูกค้าก็บอกมา
หมอดูก็เอาไปตรวจสอบกับตำราโหราศาสตร์
ทั้งเรื่องกิจการงาน เรื่องสุขภาพลานามัน 
เรื่องอายุสังขารร่างกาย เรื่องเคราะห์ช่วงไหนบ้างต้องระวังปาก ระวังการกระทำ

หมอดูตวจดูถึงกับอึ่ง
ดวงของลูกค้านั้นตามเกณฑ์แล้วจะตายตอนช่วง 31ปี
แต่นี้คุณยายอายุ120ปี


หมอดูก็เลยแปลกใจ
ว่าดวงแกตามตำราที่ดวงดาวพยากรณ์ไว้ถึงคาดตาย31ปีแน่นอน ถ้าต่อชะตาแก่ได้เพิ่มอีกหนิดหน่อย
แต่นี่เลยมา ถึง120ปี

ด้วยความสงสัยของหมอด
หมอดูก็เลยปิดตำราโหราศาสตรไ
ว้ก่อน

แล้วนั้งสมาธิทางในตรวจดูแทน
ด้วยอำนาจของจิตอภิญญา คือตาทิพย์ หูทิพย์  ระลึกชาติได้ อื่นๆ รู้กรรมเห็นกรรมของสัตว์อื่น มนุษย์คนอื่น
หมอดูก็เลยตรวจดู ยายคนนี้

คุณยายคนนี้ที่มีอายุ120ปีนี่ ทำไม่ถึงไม่ตาย ตามดวงดาวที่บอกกำหนดไว้แล้ว

หมอดูจึงนั่งดูทางใน ย้อนดูเหตุการณ์ในชีวิตของคุณยายก่อนจะมานั่งดูหมออยู่นี่ ย้อนไปๆ ดูเรื่องราวต่างๆ ย้อนไปๆ ดูเรื่องราวต่างๆไปจนถึงตอนเด็ก

ก็พบว่า
คุณยายคนนี้
แก่ชอบทำบุญ ตั้งโรงทานในตอนสงครามโลก ไทยรบกับต่างประเทศ
ผู้คนอดยาก พระก็อดยาก แต่คุณยายตั้งโรงทานให้อาหารคนยากคนจน ทั้งถวายอาหารพระเป็นประจำในช่วงสงครามโลกนั้น
กับทั้งคุณยายแก่มีศีลมีสัตย์
ไม่เบียดเบียนใครเลย นอกจากไม่เบียดเบียนแล้ว
ยังช่วยสัตว์อีก ใจบุญสุนทาน มีธรรมประจำใจ คือไม่ค่อยโกรธคน ไม่กังวนกับเรื่องเศร้าใจ

หมอดูก็รู้ว่าคุณยาย
อยู่เหนือกรรมเส้นความตายที่ดาวระบุไว้ว่า 31ปีตาย
ในปัจจุบันนี้คุณยายมีอายุถึง120ปี
ยังไม่ตาย

เรื่องกรรมในปัจจุบันสำคัญกว่า
กรรมเก่าในอดีต
กรรมเก่าขุดหนทางไว้ขีดเส้นไว้แล้ว ว่าต้องเป็นอย่างนี้
แต่ถ้าเราทำกรรมใหม่ที่รุนแรงกว่า
เราจะอยู่เหนือเส้นทางกรรมเก่าที่ขีดไว้ให้
เข๋ ออกไปอีกด้านหนึ่ง
กรรมดีในปัจจุบันเท่านั้น
ที่จะทำได้

อย่ามอบใจที่เป็นทุกข์ ไปว่าให้แต่เป็นผลของกรรมเก่าๆ
บางทีเราเองนั้นแหละ ทำไม่ดี พูดไม่ดีเอง จึงเป็นทุกข์ร้อนรนใจให้ตนเองเสวย

ความสุขก็เหมือนกัน จะโยงไปหาชี้แต่ว่า เป็นผลของกุศลกรรมเก่าๆ
ที่เคยทำไว้ในอดีต มาย้อนให้ผล
จึงเป็นสุขๆ
อย่างนี้ก็ไม่ถูกนัก
เพราะความสุข ความทุกข์มันขึ้นกับกรรมที่เรา
ทำในปัจจุบันนี้ด้วยเป็นแรงชี้ 
จะสุขหรือจะทุกข์
#ถ้าเห็นให้ได้ว่าแก่นแท้ของชีวิต
อยู่ที่จิตอยู่ที่ใจ
ก็ไม่มีความสูญเสียครั้งใด
ยิ่งใหญ่
เท่าเสียใจไปทั้งดวง
คนบางคนยอมยกใจทั้งดวงให้กับเรื่องเศร้าครั้งเดียว
แล้วเขาก็ไม่ได้อะไรมาอีกเลยตลอดทั้งชีวิตที่เหลือ
________
 
เธอสามารถมองเห็นผีได้เหรอ:
ตอนเป็นโยมผมไม่รู้ว่าจิตผมมันเป็นอะไร
มันมองเห็นวิญญาณได้เอง 
พอผมมาบวช ผมก็มองเห็นผีเดินผ่าน แต่ไม่ตลอดเวลา ถ้าจิตฟุ้งซ้านไม่สงบวุ่นวาย
ผมจึงคิดว่า ชาติก่อนผมเคยมีตาทิพย
ถ้าผมทำสมาธินุ่นต่อให้มันเชื่อมกันได้ตลอดเวลา ก็จะมองเห็นได้ตลอดเวลา


แล้วยังไงต่อ?
ตอบ: ในโลกของผี ก็มีเบียดเบียนซึ่งกันและกันเหมือนมนุษย์นี่แหละ ไม่ใช่ที่ ที่ควรไปอยู่เลย ฟังเทศพระวัดป่า ท่านก็เทศไว้ อย่าไปกลัวแต่ให้สงสารเขา
______
พระองค์อธิบาย กามตัณหา ภวะตัณหา วิภวะตัณหา
           ภารวรรคที่ ๓
           ๑. ภารสูตร
       ว่าด้วยขันธ์ ๕ เป็นภาระ
[๔๙] พระนครสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงภาระ
ผู้แบกภาระ เครื่องถือมั่นภาระ และเครื่องวางภาระ แก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง  จงใส่
ใจให้ดี เราจักกล่าว ภิกษุเหล่านั้น ทูลรับสนองพระพุทธดำรัสแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภาระเป็นไฉน? พึงกล่าวว่า ภาระ คืออุปาทานขันธ์  ๕ อุปาทานขันธ์ ๕
เป็นไฉน? คือ อุปาทานขันธ์ คือรูป อุปาทานขันธ์  คือเวทนา อุปาทานขันธ์ คือสัญญา อุปาทาน
ขันธ์ คือสังขาร และอุปาทานขันธ์ คือวิญญาณ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าภาระ.
[๕๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ผู้แบกภาระเป็นไฉน? พึงกล่าวว่าบุคคล บุคคลนี้นั้น คือ
ท่านผู้มีชื่ออย่างนี้ มีโคตรอย่างนี้. ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าผู้แบกภาระ.
[๕๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เครื่องถือมั่นภาระเป็นไฉน? ตัณหานี้ใด นำให้เกิดภพใหม่
ประกอบด้วยความกำหนัด ด้วยอำนาจความเพลิดเพลิน มีปกติเพลิดเพลินยิ่งในภพหรืออารมณ์
นั้นๆ ได้แก่กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา. ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าเครื่องถือมั่นภาระ.
[๕๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็การวางภาระเป็นไฉน? ความที่ตัณหานั่นแลดับไปด้วย
สำรอกโดยไม่เหลือ ความสละ ความสละคืน ความพ้น ความไม่อาลัย. ดูกรภิกษุทั้งหลาย
นี้เรียกว่าการวางภาระ. พระผู้มีพระภาคผู้พระสุคตศาสดา ครั้นได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลง
แล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกในภายหลังว่า
[๕๓] ขันธ์ ๕ ชื่อว่าภาระแล และผู้แบกภาระคือบุคคล เครื่องถือมั่น
          ภาระเป็นเหตุนำมาซึ่งความทุกข์ในโลก การวางภาระเสียได้เป็นสุข
          บุคคลวางภาระหนักเสียได้แล้ว ไม่ถือภาระอื่น ถอนตัณหาพร้อม
          ทั้งมูลรากแล้ว เป็นผู้หายหิว ดับรอบแล้วดังนี้.
_________

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น