วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

พระมงคลชัย กิตติโสภโณ อย่าหลงวิบากเด้อ25 พ.ค. 2016เราทั้งหลายอย่ามัวแต่ปล่อยชีวิตไปตามเวรตามกรรม มีแต่ให้กรรมคอยชักจูงเล่นเหมือนหุ่นเชิด ถ้าว่าจะไปทำบุญทำทาน รักษาศีลเจริญภาวนา ก็ต้องรอให้กรรมเก่าใช่ไหมมาดลบันดาลถีบส่งให้ไปแต่เราควรสร้างกรรมไม่ดำไม่ขาว มีผลคือนิพพานสติปัฏฐานสี่ อิทธิบาทสี่ สัมมัปธานสี่ อินทรีย์ห้า พละห้าโพชฌงค์เจ็ด อริยมรรคมีองค์แปดโดยย่นย่อแล้ว คือเจริญภาวนา# อยากให้อ่านโพสนี้ จะเข้าใจว่ามันง่ายมาก"ระหว่างที่เกิด ถึงตายจะจนหรือรวย จะสวยหรือหล่อระหว่างที่เกิดถึงตายนี้สาระของเขาอยู่ตรงนี้๑.บุญกุศล (จากการให้ทาน จากการรักษาศีลจากการเจริญภาวนา)๒.สติ ระลึกได้ในกายในใจในปัจจุบัน๓.ปัญญาในการเห็นว่า ร่างกายนี้ไม่ใช่ของเราร่างกายบุคคลอื่นก็ไม่ใช่ของเขา4.เห็นอารมรมณ์ทั้งหลายที่ผลัดเปลี่ยนกันมาให้เรารู้ ทั้งสุข, ทุกข์, เฉยๆ, ผ่านมาผ่านไปเหมือนลมพัดจิตลมเย็นพัดผ่านมาก็รู้สึกสุขลมร้อนพัดผ่านมาก็รู้สึกทุกข์ลมไม่เย็นไม่ร้อนผ่านมาก็รู้สึกเฉยๆลมทั้ง 3 อย่างนี้ คือ (สุข) (ทุกข์) (เฉยๆ)ผ่านมาผ่านไปไม่แครใคร ใครจะยึดก็หายไป ใครจะไม่ยึดก็จะหายไปเพราะมีหน้าที่เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป"ผู้ใดสะสมความเห็นบ่อยๆว่า..นั่น"สุข"มันมาอีกแล้ว เราจะเป็นผู้สังเกตดู"สุขนั้น"หายไปความสุขนั้นเหมือนลมเย็น..ไม่นานมันก็แปรปรวนหายไป เราจะมีสติเป็นผู้สังเกตการณ์ ดูสุขมันหายไปผู้ใดสะสมความเห็นบ่อยๆว่า..นั่น"ทุกข์"มันมาอีกแล้ว เราจะเป็นผู้สังเกตดู"ทุกข์นั้น"หายไปความทุกข์นั้นเหมือยลมร้อน..ไม่นานมันก็แปรปรวนหายไป เราจะมีสติเป็นผู้สังเกตการณ์ ดูทุกข์มันหายไป# ผู้ที่เจริญภาวนา มีสติดูสุข ดูทุกข์ อย่างนี้แหละคือผู้เกิดมาไม่ตายเปล่าๆเสียประโยชน์ทิ้ง ไม่เกิดมาเล่นๆเปล่าๆคือเกิดมาไม่ได้สาระที่ประเสริฐเลยพระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า "โมฆะบุรุษ"ก็คือคนที่เกิดมาโมฆะชีวิต"# กายนี้เจริญไปหาความตายแท้ๆพระก็เจริญไปหาความตายในคาบผ้าเหลืองฆราวาสก็เจริญไปหาความตายในคาบเสื้อผ้านุ่งห่มแบบชาวบ้านคนทำงานก็เจริญไปหาความตายในคาบเสื้อผ้านุ่งห่มแบบคนงานคนรวยก็เจริญไปหาความตายในคาบเสื้อผ้าดีๆในบ้านหลังใหญ่ๆมีเงินรวยๆคนจนก็เจริญไปหาความตายในสภาพคนจนต้นไม้ทุกต้นก็เกิดมาเจริญไปหาความตายแท้ๆแล้วอะไรคือประโยชน์ที่สูงสุดของชีวิตนี้ ที่ควรจะทำให้มีก่อนที่ชีวิตนี้จะนับถอยหลังจบ เพราะมันนับถอยหลังมาตั้งแต่เกิดแล้ว เหมือนระเบิดเวลาโอ้.... ควรแท้ ที่จะมุ่งถือเอาประโยชน์จาก 4 ข้อนี้

พระมงคลชัย กิตติโสภโณ อย่าหลงวิบากเด้อ
25 พ.ค. 2016
เราทั้งหลาย
อย่ามัวแต่ปล่อยชีวิตไปตามเวรตามกรรม มีแต่ให้กรรมคอย
ชักจูงเล่นเหมือนหุ่นเชิด ถ้าว่าจะไปทำบุญทำทาน รักษาศีล
เจริญภาวนา ก็ต้องรอให้กรรมเก่าใช่ไหมมาดลบันดาลถีบส่ง
ให้ไป
แต่เราควรสร้างกรรมไม่ดำไม่ขาว มีผลคือนิพพาน
สติปัฏฐานสี่ อิทธิบาทสี่ สัมมัปธานสี่ อินทรีย์ห้า พละห้า
โพชฌงค์เจ็ด อริยมรรคมีองค์แปด
โดยย่นย่อแล้ว คือเจริญภาวนา
# อยากให้อ่านโพสนี้ จะเข้าใจว่ามันง่ายมาก
"ระหว่างที่เกิด ถึงตาย
จะจนหรือรวย จะสวยหรือหล่อ
ระหว่างที่เกิดถึงตายนี้
สาระของเขาอยู่ตรงนี้
๑.บุญกุศล (จากการให้ทาน จากการรักษาศีล
จากการเจริญภาวนา)
๒.สติ ระลึกได้ในกายในใจในปัจจุบัน
๓.ปัญญาในการเห็นว่า ร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา
ร่างกายบุคคลอื่นก็ไม่ใช่ของเขา
4.เห็นอารมรมณ์ทั้งหลายที่ผลัดเปลี่ยน
กันมาให้เรารู้ ทั้งสุข, ทุกข์, เฉยๆ, ผ่านมาผ่านไปเหม
ือนลมพัดจิต
ลมเย็นพัดผ่านมาก็รู้สึกสุข
ลมร้อนพัดผ่านมาก็รู้สึกทุกข์
ลมไม่เย็นไม่ร้อนผ่านมาก็รู้สึกเฉยๆ
ลมทั้ง 3 อย่างนี้ คือ (สุข) (ทุกข์) (เฉยๆ)ผ่านมาผ่านไป
ไม่แครใคร ใครจะยึดก็หายไป ใครจะไม่ยึดก็จะหายไป
เพราะมีหน้าที่เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป
"ผู้ใดสะสมความเห็นบ่อยๆว่า..นั่น"สุข"มันมาอีกแล้ว เราจะเป็น
ผู้สังเกตดู"สุขนั้น"หายไป
ความสุขนั้นเหมือนลมเย็น..ไม่นานมันก็แปรปรวนหายไป เรา
จะมีสติเป็นผู้สังเกตการณ์ ดูสุขมันหายไป
ผู้ใดสะสมความเห็นบ่อยๆว่า..นั่น"ทุกข์"มันมาอีกแล้ว เราจะเป็น
ผู้สังเกตดู"ทุกข์นั้น"หายไป
ความทุกข์นั้นเหมือยลมร้อน..ไม่นานมันก็แปรปรวนหายไป เรา
จะมีสติเป็นผู้สังเกตการณ์ ดูทุกข์มันหายไป
# ผู้ที่เจริญภาวนา มีสติดูสุข ดูทุกข์ อย่างนี้แหละคือผู้เกิดมา
ไม่ตายเปล่าๆเสียประโยชน์ทิ้ง ไม่เกิดมาเล่นๆเปล่าๆ
คือเกิดมาไม่ได้สาระที่ประเสริฐเลย
พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า "โมฆะบุรุษ"ก็คือคนที่เกิดมาโมฆะชีวิต
"
# กายนี้เจริญไปหาความตายแท้ๆ
พระก็เจริญไปหาความตายในคาบผ้าเหลือง
ฆราวาสก็เจริญไปหาความตายในคาบเสื้อผ้านุ่งห่มแ
บบชาวบ้าน
คนทำงานก็เจริญไปหาความตายในคาบเสื้อผ้านุ่งห่ม
แบบคนงาน
คนรวยก็เจริญไปหาความตายในคาบเสื้อผ้าดีๆในบ้านหลัง
ใหญ่ๆมีเงินรวยๆ
คนจนก็เจริญไปหาความตายในสภาพคนจน
ต้นไม้ทุกต้นก็เกิดมาเจริญไปหาความตายแท้ๆ
แล้วอะไรคือประโยชน์ที่สูงสุดของชีวิตนี้ ที่ควรจะทำให้มี
ก่อนที่ชีวิตนี้จะนับถอยหลังจบ เพราะมันนับถอยหลังมาตั้งแต่เกิด
แล้ว เหมือนระเบิดเวลา
โอ้.... ควรแท้ ที่จะมุ่งถือเอาประโยชน์จาก 4 ข้อนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น