วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ทุกครั้งที่เราคอมเม้น"แสดงความคิดเห็น ในเฟสบุ๊กไม่ว่าจะออกมาเป็นด้านดี หรือด้านไม่ดี

ทุกครั้งที่เราคอมเม้น

"แสดงความคิดเห็น ในเฟสบุ๊ก

ไม่ว่าจะออกมาเป็นด้านดี หรือด้านไม่ดี

เท่ากับว่าเรา สร้างกรรมให้ตนเองแล้ว

เป็นกรรมทางใจด้วย

อย่างเช่น เขาโพสรูปและเนื้อหา

"สิบแปดล้อ ชนคนแล้วหนี ช่วยแชร์ต่อด้วย

คนชนมันเป็นคนไม่ดี เลวสุดๆ"

พอเราเห็นรูปปุ๊บ เราก็ไปเสริมต่อกับเขา

เม้นด่าเขา"อึ้ย..ไอ้เลวชาติชัว.ต่างๆนาๆ

เพียงเท่านี้ก็เกิดกรรมทางใจสำเร็จแล้ว

เป็นการปราถนา ให้คนขับรถที่สิบแปดล้อนั้น ประสบกับสิ่งที่ไม่ดี"

เพียงเท่านี้หาบาปใส่จิตตนเองเสร็จแล้ว

เพราะเราไม่รู้เบื้องหลัง ที่มาที่ไป กรรมของพวกเขา

คนขับรถสิบล้อกับคนถูกชน เขาอาจจะมีกรรมด้วยกันมาก็ได้

ยังไงๆชาตินี้คนถูกชนก็ต้องถูกนายขับรถสิบล้อชนเพื่อใช้กรรม"

ต่อไปนี้ถ้าเราเห็นภาพ+เนื้อหา แบบนั้นแล้ว จะเป็นเรื่องจริงหรือเขาทำเล่นๆ

ไม่จริงก็ตาม

"ให้คิดว่า ที่เขาต้องเจอแบบนี้ เบื้องหลังคงเป็นกรรมของเขา ไม่มีใคร

สามารถหนีกรรมได้"

แม้แต่หมาที่ขาหักที่เราเห็น หมาตัวนั้นอาจเคยเกิดเป็นคน

และในชาตินั้น

เขาใช้ไม้ตีขาวัวขาควาย ขาหมู ขาหมา

ด้วยบาปกรรมนั้น

จึงต้องมาโดนทำให้ขาหักคืน


ส่วนถ้าเราคอมเม้นให้ออกมาในด้านดี

เราจะได้บุญ

เรียกว่าจิตปรุงแต่งบุญญาภิสังขารขึ้นมา

ตัวนี้ถ้าใครไม่มี ไม่ได้มาเกิดเป็นคนหรอก

แต่ละคนที่เกิดมาก็เกิดมาด้วย ตัวบุญญาภิสังขาร

ที่ออกมาผิวดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ขาว ดำ ชมภู เตี้ย สูง สมส่วนไม่สมส่วน

# คิดดีเป็นการสร้างกรรมฝ่ายบุญให้ใจ

# คิดชัวเป็นการสร้างกรรมฝ่ายบาปให้ใจ

ระดับความอ่อน-แรงของกรรม

กายกรรม การกระทำทางกาย

วจีกรรม การพูด

มโนกรรม การปรุงแต่งทางใจ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น