วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

นิยายธรรมะ สาวมโนกับพี่สมาทร์




มโนไปดูดวงเรื่องแฟน กับหมอดูตาทิพย์ หมอดูทักมโนว่าจะได้เลิกกันกับแฟนคนนี้ เพราะชายคนนี้นั้นไม่ใช่คู่บารมีเก่าของมโน"


ด้วยความที่มโน พึ่งมีแฟนครั้งแรก

และไม่อยากจากกันกับแฟนไปเร็ว

ทั้งวันในเวลาเรียนของมโน ภาษาในหัวของมโนจึงเต็มไปด้วยความฟุ้งซาน กระวนกระวายใจ ตลอดเวลา


เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน

ภาระกิจที่มโนทำเป็นประจำ

คือกอกน้ำใส่ตู้เย็น

ล้างถ้วยชาม

ให้อาหารหมาแมว แล้วไปปั่นจักรยานออกกำลังกายกับเพื่อน

เป็นอันหยุดซะงักลงไปด้วย


เพราะเมื่อมโนกลับมาถึงบ้าน

ก็ตรงดิ่งขึ้นห้องนอนส่วนตัว


มโนทรุดตัวลงกับที่นอน


ในหัวของมโนมีแต่ความคิด ฟุ้งซาน "เรื่องเกี่ยวกับหมอดูที่พยากรณ์เรื่องแฟนกับเธอไว้ ความคิดนั้นวนเวียนอยู่ในหัวมโนตลอดเวลา"


มโนเป็นเด็กเรียนเก่ง ฉลาดหัวใว

คิดอ่านอะไรออกได้ทะลุปุโปร่งรวดเร็ว

เพื่อนๆมักจะโทรมาถามเรื่องการบ้านอยู่บ่อยๆ


แต่เรื่องที่หมอดูพยากรณ์ไว้นี้

มโน คิดปลงยังไงก็ไม่ตก คิดหาทางออกเท่าไร่

ก็ไม่ปริ้งออกมาสักที


ทันใดนั้นมโนก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ มือถือ

NOKIA 3310 ที่พอซื้อให้มโนตอนงานวันเกิด มีเสียงดังขึ้น"

"ติ๊ดๆ..ๆ..ๆ.ตี๋ด.ๆ.ๆ..ติ้ด...ๆ.


มโนจึงคิดว่าคงเป็นเพื่อนที่โทรมาถามการบ้านแน่เลย

แต่เมื่อหยิบขึ้นมาดู ก็ได้รู้ว่า เป็นเบอร์ของ

พี่สมารท์ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของมโน


มโนรีบกดรับสาย 

แฟนหนุ่มได้ถามมโนว่า" มโน...คืนนี้ว่างไหม ไปเที่ยวงานปีใหม่ในเมืองกับพี่ไหม"


มโน: อืม ..มโนรู้สึกเหนื่อย อะพี่

และอีกอย่างแม่คงไม่อนุญาติให้ไปไหน

โดยเฉพาะเวลากลางคืน"


พี่สมาทร์: เอ้า.. หรอๆ แม่คนงาม

 แอบๆเดินย่องๆออกไปทางประตูหลังบ้าน ไปรอพี่อยู่ตรงนั้นก็ได้ ถ้าแม่ไม่อนุญาต


(ภายในใจของสมาทร์ กำลังคึกคะนอง อยากชวนแฟนสาวไปเที่ยวให้ได้ )


มโน: พี่สมาทร์ มโนเป็นคนมีแม่น่ะ

มโมคงไม่ได้ไปเที่ยวกับพี่หรอก ขอโทษด้วยแมวน้อย 555


(ภายในใจของมโนเต็มไปด้วยความเหนื่อยหล้า)


พี่สาทร์: แม๋..แม่ตีนแมว ครั้งก่อน

ยังชวนพี่หนีแม่ออกจากบ้าน แอบไปดูหมอลำซิ่งด้วยกันอยู่เลย ย๊องเหมือนตีนแมวออกทางประตูหลังบ้าน ให้พี่ไปรับ จำไม่ได้รึเธอ


มโน: 555+ จำได้...ค่ะ แต่มันไม่เหมือนกันน่ะพี่

มโนเป็นคนชวน ไม่ใช่พี่เป็นคนชวน

พี่ไปชวนคุณแม่พี่ไป้ 5555

ว่าแต่คุณแม่พี่ อยู่ตรงนั้นด้วยหรือเปล่า


(มโนพูดกลบเกลื่อนเรื่อง เพราะละอายที่เคยหนีไปเที่ยวกับผู้ชาย)


พี่สมาทร์: แม่พี่หรอ.. อยู่สิ ทำไมหรอ? มโน"


(สมาทร์ อยากรู้ว่ามโนถามหาคุณแม่ของตนทำไม)


มโน: ป๊ะ..เปล่า..  แค่อยากจะฝากไปบอกคุณแม่พี่ค่ะ

ว่า..

"มีคนรักลูกชายของคุณแม่นะค๊ะ


สมาทร์: เหรอๆ..แม่ปากหวาน...

ว่าแต่รักคนไหนละ  แม่พี่มีลูกชายตั้ง5คนแน๊ะ รักคนไหนๆ

บอกมาเลยหนูน้อย


(สมาทรู้สึกเบิกบานใจ ที่คนรักพูดหวาน หยอดมุขใส่ตน)


มโน: ฮึยคนนี่...รู้อยู่แล้วก็ยังจะถามอีกให้เขิล...

จนตัวเกรงจะแข็งอยู่แล๊ว..

รักพี่สมาทนะ "


(ทันใดนั้นเองก็มีเรื่องที่หมอดูพยาการ์ไว้ ผุดขึ้นมาในหัวมโนอีกครั้ง)


พี่สมาทร: พี่ก็รักหนูเหมือนกันนะ

รักๆ รักๆ รักมโนที่สุด ..ที่สูด เลยจ้า


มโน: รักแล้วต้องยังไงอีก ตอบมา?


พี่สมาทร: รักแล้วต้อง ซื่อสัตย์ต่อมโนด้วย


มโน: อะไรอีก ตอบมาอีก?


สมาทร์:  ต้องรอ มโนได้  ถึงมโนจะเรียนจนแก่ พี่ก็จะรอ มโนจ้า...

แต่ มโน 

จะต้องซื่อตรงกับพี่ด้วยนะ


มโน: วันนี้มโนจะซื่อตรงกับพี่สมาทร

่และวันข้างหน้ามโนก็จะซื่อตรงกับพี่ แต่ไม่รู้กรรมจะซื่อตรงต่อเราไหม

ให้เราเป็นอย่างนี้ได้ตลอดไปไหม

พร้อมด้วยเพลอพูดว่า"

มโน"เหนื่อย"ใจ


พี่สมาทร์: มโน...มโนมีเรื่องไม่สบายใจ เรื่องพี่ที่เป็นต้นเหตุหรือเปล่า 

หรือเหนื่อยเรื่องอะไรเหรอ

ถ้าเป็นเพราะพี่ พี่ขอโทษด้วยน่ะ


มโน: พี่สมาทร์ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก

พี่สมาทร์เป็นคนดี มีคุณธรรมสุภาพบุรุษ

ครบ ไม่ฉวยโอกาสผู้หญิงทีเผลอ ไม่ข่มเหงรังแกผู้หญิงแม้ด้วยคำพูดเลย

กับทั้งปกป้องผู้หญิงจากภัยสถานะการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่าง ซูปเปอร์แมน หรือ แบบไอ้มดแดง เลย กับทั้งพี่สมาทร์เป็นลูกดีเด่นของคุณแม่พี่

ในจำนวนลูก 9 คน อย่างยอดเยี่ยม


พี่สมาท : มโนไม่ต้อง พูดยาวออกไปไกลหาเรื่องอื่นเลย

มีอะไรที่ไม่สบายใจ บอกพี่ได้ไหม บอกพี่มาเลย พี่พร้อมจะรับฟัง


มโน: คือว่า..เมื่อวันก่อน มโนเดินผ่าน ร้านพยากรณ์ดวงต่างๆ หลายร้านหลายแบบ ที่แรกมโนก็เลยลองเขย่าเซียมซี ก็เขย่าไปๆไม้เซียมซีเลข9ก็ตก ก็เอาเลขไป หาใบคำตอบ อ่านดูใบคำตอบที่พยากรณ์ไว้ ก็ดีน่ะ บอกว่าช่วงนี้จะได้โชคใหญ่ มีลาภลอยเข้า ลงทุนอะไรจะได้กำไรมากเพราะช่วงนี้ดวงกำลังขึ้น"


"มโนไม่ได้เป็นคนโง่ ที่จะให้อะไรจูงใจนำไปง่ายๆ ที่จะเชื่ออะไรง่ายๆโดยปราศจากเหตุผล"


มโน จึงลองอีกครั้ง ก็ลองเขย่าเซียมซีใหม่อีกครั้ง ไม้เซียมซีเลข4ก็ตก ก็เอาไปตรวจอีก มันพยากรณ์บอกว่ายังไง รู้ไหมพี่?


พี่สมาทร: พี่ไม่รู้... เขาพยากรณ์ ว่าไงหรอ? มโน เล่าต่อๆๆๆ พี่รอฟัง"


มโน: ในใบคำพยากรณ์ เขาพยากรณ์ว่า

ช่วงนี้ ไม่เหมาะกับการลงทุน เรื่องการเงินต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะเรื่องเงินๆทองๆ

อย่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย

เพราะช่วงนี้ดวงกำลังตก"


พี่สมาท: อ่าว คำพยากรณ์ ทำไม ไม่เที่ยงกลับกรอกเป็นงั้นไปละ มโน"


มโน: มโน ก็สงสัยเหมือนกัน

จึงเดินไปเปิดอ่านดูใบพยากรณ์ 

ก็ได้รู้ว่า 

เลข1 คำพยากรณ์เหมือนกันหมด

เลข2 คำพยากรณ์เหมือนกันหมด

เลข3 คำพยากรณ์เหมือนกันหมด

เลข4 .เลข5 ..เลข6.. เลข7..เลข8..

เลข9 คำพยากรณ์มันเหมือนกันหมดเลยพี่


เสียกะตังทิ้งไปตั้ง2ครั้ง 30+30 ..... บาท

เอาเงินไปซื้อผลไม้ถวายใส่บาตพระดีกว่า


พี่สมาทร: แต่มโนก็ได้อ่านความรู้สาระเรื่องคำพยากรณ์เซียมซีตั้ง9ใบ แล้วไม่ใช่เหรอ 5555


มโน: 555 พี่สมาท พูดได้อย่างไรว่าได้สาระความรู้

ได้ อสาระ มากกว่า

คำทำนายเบื้องหลังที่มั่วกันทั้งแผง พิมพ์แต่งกันเอาเองเอ่อเอง หลอกคนอ่าน 

ดีขนาดไหนไม่ฉีกทิ้ง คนเฝ้าก็ไม่มี จะได้ขอให้เปิดกุญแจเอาเงินคืน


พี่สมาท: ช่างเขาเถอะ มโน บางทีเขาอาจจะไม่รู้ว่า กำลังทำกรรมคือหลอกคนอื่นให้หลงผิดอยู่

หรือเขาอาจลำบากทุกข์ร้อนเรื่องเงินก็เป็นได้ ช่างเขาเถอะ  อย่าเอาใจไปโยงผูกเวรต่อเขาเลย

เดี๋ยวได้เจอกันชาติใหม่ เห็นกันปุ๊บคิดไม่ดีต่อกันเลย นะ


มโน: จ้า พ่อธรรมะธรรมโม

เดี๋ยวมโนจะ แผ่เมตตาให้เขา

จะได้ไม่ผูกเวรกันกับเขา


สมาทร: อืม...ดีแล้วๆ ถูกแล้วๆ

เรื่องนี้หรอที่ทำให้ไม่สบายใจ?


มโน: เรื่องนี้ก็ใช่ แต่ไม่มากเท่าเรื่องต่อไปนี้

คือหลังจากมโนออกมาจากร้านเซียมซีนั้นแล้ว มโนก็เข้าไปร้าน ดูดวงแบบโหราศาตร์

ทันที่เข้าไป เขาก็เชิญนั้ง

พร้อมกับพูดว่า สวัสดีครับ ดูน่ามีราศีดีจังครับ ดูดวง ดูไหมครับ

ผมว่า หน้าแบบนี้ดวงต้องดีแน่ๆ


มโนก็เลยตอบไปว่า: เหรอค่ะ แล้วต้องยังไงบ้างค่ะ พอดี ยังไม่เคยดูค๊ะ


หมอดูจึงตอบมาว่า: ค่าดูเรื่องหนึ่ง 300 บาทครับ ขอทราบ วัน เดือน ปี เกิด ครับ จะได้คำนวนดู ว่าตอนเกิดนั้นตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของดาวไหน และขอดูลายมือควบกันไปด้วยครับ


มโน: ก็เลยเอาเงินให้เขา300บาท พร้อมบอกวันเดือนปีเกิดให้เขาทำนาย กับทั้งแบฝ่ามือให้เขาดู


สมาทร: แล้วเขาฉวยโอกาสจับมือ มโน หรือเปล่าละ และเขาทำนายว่าอย่างไร?


มโน: เขาไม่จับมือมโนเลย แต่เขารีบถามมโนว่า

จะดูเกี่ยวกับเรื่องไหน?


มโนก็คิดในใจ "เอ้ หมอดูนิ ถามแปลกๆ มาดูหมอ ก็ต้องมาดูดวงสิ"


จึงตอบไปว่า ดูทุกเรื่องเกี่ยวกับขีวิตค่ะ


ดูด้านความรัก 300 บาท

ดูด้านการงาน 300 บาท

ดูด้านสุขภาพ ก็300 บาท

จะดูด้านไหน


มโนก็ตอบเขาไปว่า  ดูเรื่องความรักค่ะ


หมอดูก็ใช้เวลาประมาณ15นาที ไปกับการขีดๆเขียน บวกลบคูณหาร อะไรก็ไม่รู้ ซับซ้อนดูตามแล้วไม่ค่อยเข้าใจเลย


หลังจากนั้นเขาก็พูดออกมาว่า

ดวงไม่ดีนะ เกี่ยวกับความรัก จะมีเหตุให้ตัองพรัดพรากจากคนที่รักที่พอใจหรือจากสิ่งอันเป็นที่รักที่พอใจ จะเสียของรักในเร็วๆนี้


มโนก็ถามต่อไปอีกว่า

เสียของรัก!

แม่ของมโนจะตาย หรือ พ่อของมโนจะตาย ค่ะ


ลุงก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า แม่หนูหรือพ่อหนูใครจะตาย

แต่คำว่าจะเสียของรัก ไม่ใช่จะหมายถึงแต่ว่า ต้องตาย อย่างเดียว

แต่ยังมีความหมายไปอีกแบบคือ ต้องจากกัน"


ถ้าหนูอยากรู้ เอาวันเดือนปีของแม่และพ่อหนูมาให้ลุงดูสิ

ลุงจะดูให้ ในเรื่องสุขภาพ ว่าเกณฑ์ชีวิตจะถึงค้าดที่ต้องตายในช่วงเร็วๆนี้หรือไหม


แต่ค่าดูของแม่และของพ่อหนู

จะต้องคนละ300บาทนะ


ค่ะ นี่ค่ะ 1,000บาท

ดูเรื่องสุขภาพให้หนูด้วยนะค๊ะ เกณฑ์อายุของหนูจะได้นานเท่าไร

หนูอยากรู้หนูจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่ปี


หลังจากนั้นลุงหมอดู

ก็คำนวนถอดรหัส ของคุณแม่ คุณพ่อ และของมโน โยงใส่กันก็ได้รู้ว่า

ที่มโนจะต้องสูญเสียงจากสิ่งที่รักนั้น ไม่ใช่คุณแม่ ไม่ใช่คุณพ่อ


(มโนเป็นคนหัวเร็ว ก็คิดไปที่ พี่สมาทร"

จะเสียพี่สมาทรไป เพราะพี่สมาทรเป็นสิ่งอันเป็นที่รัก)


หลังจากนั้นลุงหมอดูแจ้งตอบให้ทราบดังนี้ว่า

แม่หนู เกณฑ์อายุชีวิต 98 ปีนูนแหละ

พ่อหนู เกณฑ์อายุชีวิต 87 ปีนูนแหละ

ส่วนหนู..... ส่วนหนู......?


มโนตกใจก็เลยถามว่า หนูเกณฑ์อายุเท่าไรค่ะ

หนูจะมีชีวิตอยู่ได้เท่าไร่ค่ะ ตอบหนูมาเถอะค่ะลุง

หนูเสียเงินให้ลุงแล้วนะ

หนูไม่โกรธลุงหรอก


เกณฑ์ชีวิตหนู่ 50 ปี


มโนก็เลยร้องไห้กับชีวิตตนเอง

ที่ชีวิตนี้มันน้อยนัก สั้นนัก


ลุงหมอดู ก็เลยปรอบ เกณฑ์ชีวิตของลุงเอง 77 ปี อีก2ปี ลุงก็จะถึง 77 ปีแล้ว ลุงก็จะไปก่อนก่อนหนูแล้ว นี้ก็หาเงินเตรียมทำศพให้ตนเองอยู่ ลูกเมียของลุงต่างก็ไปก่อนลุงหมดแล้ว




จนเวลาเลิกเรียน มโนจ แวะไปหาหมอดูจิตสะ


มโนหาทางพอที่จะแก้ไข มโนจึงไปหาหมอจิตสะอาดนั้น



มโน: แล้วถ้าไม่ใช่คู่บารมี ได้มารู้จักกันได้ไงค่ะ


หมอดู: 

การที่คุณกับเขาได้รู้จักกันนี่

ก็เพราะว่าในชาติก่อน

ได้ทำกรรมดีร่วมกันกับเขาไว้ อันเป็นบุญกรรมดีอันดี จึงต้องได้เกี่ยวโยงกันเวียนมาพบกันอีก

ข้ามภพข้ามชาติ มารู้จักกันจนได้ และตอนนี้กรรมนั้นก็กำลังให้ผลกับหนูและเขาอยู่


ถึงเวลาถึงคราวให้ผลแล้นนี้

จึงได้เกี่ยวโยงกัน

เกี่ยวข้องกันดังที่เป็นแฟนกันที่เห็นๆอยู่นี้แหละ


แต่เมื่อจะหมดเหตุ หมดปัจจัยที่ต้องได้เกี่ยวข้องกันเกี่ยวโยงกัน ตามธรรมชาติของมันก็จะคลายกันออก แปรปวนเป็นธรรมดาอย่างนี้แหละ

เหมือนกับที่คุณเริ่มทะเลาะกันมีปากเสียง

พ้นไฟใส่กัน




ทำไมความคิดคนเราถึงเปลี่ยนยากนัก?


เพราะความคิดคือมโนกรรม


ถ้าเปลี่ยนความคิดได้ก็เท่ากับ


เปลี่ยนเส้นทางกรรมด้วย


อันเป็นสิ่งเปลี่ยนยากที่สุด



มโน แปลว่า ใจ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น