วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

Facebook Line โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์มันคือพวก ตัวดูดสติ

เทศน์อบรมพระ ณ วัดบูรพาราม สุรินทร์
เมื่อวันที่ ๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๑
ฝากไว้เป็นข้อคิด
ถูกต้องแล้ว นั่งภาวนานี้คืองานของพระ เถลไถลหาดูที.วี. วิดีโอ เทวทัต
โทรศัพท์มือถือ เดี๋ยวนี้ถือว่าเป็นกิจของสงฆ์แล้วนะ พวกหนังสือพิมพ์ เพลิดเพลิน
เป็นบ้าตามโลก วิทยุ เทวทัต วิดีโอ โทรศัพท์มือถือ เวลานี้คือกิจของสงฆ์ไป
แล้วนะ กิจของสงฆ์ประเภทนี้กำลังทำลายศาสนาเวลานี้ จะไม่มีวัดวาอาว
าสเหลืออยู่เลย ดีไม่ดีคนจะไม่ใส่บาตร..วัดร้าง เพราะกิจสงฆ์เหล่านี้
เข้าไปทำลาย เวลามาทำประโยชน์ให้โลกนี้ไม่ใช่กิจสงฆ์ เวลาเอาเทวทัต
วิดีโอ โทรศัพท์มือถือ เข้ามาในวัดนั้นคือกิจสงฆ์ สมัยปัจจุบันนี้เป็นอย่างนั้นนะ
เทียบเอา พิจารณาซิ
เราพูดตามหลักความจริง ไม่อ้อมค้อม ธรรมพระพุทธเจ้าเป็นภาษาที่สะอา
ด พูดอย่างตรงไปตรงมา เรียกภาษาที่สะอาด ภาษาที่เชื่อถือได้คือธรรม
ที่เชื่อถือไม่ได้เลยคือกิเลส แต่โลกชอบเชื่อมัน นี่ละกองทัพมหาภ
ัยที่กำลังทำลายศาสนาเวลานี้ ในวงวัดวงวาศาสนาของเรานี้
ถูกทำลายด้วยมหาภัยสี่ห้าอย่างนี้ เวลานี้กำลังเต็มบ้านเต็มเมือง
เต็มวัดเต็มวา เต็มพระเต็มเณร เต็มไปหมด นี่คือกิจของสงฆ์เดี๋ยวนี้น่ะ กลาย
เป็นกิจของสงฆ์ไปแล้วเวลานี้
แต่กิจของสงฆ์ตามพระพุทธเจ้าทรงพาดำเนินนั้น ถือว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์
มันก็มีอันเดียวเท่านี้จะเป็นกิจของสงฆ์ ทุกวันนี้เด่นเอามาก กิจของสงฆ์ประเภ
ทนี้ เวลานี้กำลังระบาดสาดกระจายไปหมด ดีไม่ดียาเสพย์ติดจะเข้าในวัด
ในวาจะเป็นไรไป เมื่อไม่มีฝั่งมีฝาแล้วมันเข้าได้ทุกอย่างนั่นแหละ
ความชั่วช้าลามกนี้ไหลได้ตลอดเวลาไม่มียับยั้งเลยละ แต่เรื่องความดี
นี้มีนิดหน่อยถูกมันปัดตกห้าทวีปโน่น จึงน่าสลดสังเวชนะ
พระเณรเราให้ระมัดระวังให้มาก สิ่งเหล่านี้คือสิ่งทำลายพระโดยตรง
ทำลายพระวินัยของพระโดยตรง ไม่มีตีความหมาย ตรงไปตรงมาเลย
นี้คือข้าศึกของพระโดยแท้ ข้าศึกของพระวินัย ของพระโดยแท้ อันนี้คือสิ่งฉิ
บหายวายปวง เป็นเรื่องของโลกของสงสาร เรื่องกิเลสตัณหาล้วนๆ ไม่
ใช่เรื่องของธรรมที่พระจะไปสนใจมาเป็นกิจของสงฆ์อย่างปัจจุบันนี้นะ
เวลานี้มันกลายเป็นกิจของสงฆ์ขึ้นมาแล้ว วัดไหนกุฏิไหนไม่มีสิ่งเหล่านี้แล้ว
ถือว่ากุฏินั้นล้าสมัย วัดนั้นล้าสมัย ไม่ทันสมัย ไปแล้วนะเวลานี้
กิจสงฆ์มันระบาดไปอย่างนี้ละนะ
ไม่เอาออกมาพูดบ้างกิจสงฆ์อันนี้ กิจทำลายสงฆ์เห็นไหม ระบาดไปหมด
แล้วนะ ไม่อาย..พระเราเป็นยังไง หัวโล้นๆ ไม่อายบ้างเหรอผ้าเหลือง
พระพุทธเจ้าพาดูสิ่งเหล่านี้ พาเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้เมื่อไร ไล่เข้าป่า บวช
แล้วก็ รุกฺขมูลเสนาสนํ ขึ้นเลย ไล่เข้าป่าเข้าเขาตามถ้ำเงื้อมผา ซอกเขา
ทำสมณธรรม นั้นคือกิจของสงฆ์ กิจของพระโดยแท้ ตามเยี่ยงอย่างข
องพระพุทธเจ้าที่พาดำเนินมา กิจเหล่านี้เป็นกิจทำลายสงฆ์ เดี๋ยวนี้สงฆ์ถื
อว่าเป็นกิจสำคัญสำหรับสงฆ์เสียแล้ว เลยกลายเป็นสงฆ์
ทำลายศาสนาเสียแล้วเวลานี้จะเป็นอะไรไป
เรื่องทำลายเห็นอยู่ด้วยหูด้วยตา ก็ดูซิถ้าว่าเป็นเรื่องอุตริ นี่ละภาษาธรรม
พูดอย่างตรงไปตรงมาเรียกว่าภาษาธรรม ไม่หาอุตริมาพูดแหละ
เอาอย่างตรงไปตรงมา เป็นภาษาที่สะอาดที่สุด คือภาษาของพระพุ
ทธเจ้า ภาษาธรรม ภาษาที่สกปรกที่สุดคือภาษาของกิเลส
หลอกลวงต้มตุ๋นได้เก่ง ประดับหน้าร้านนี้สวยงามโก้หรูไปหมด แต่ภาย
ในเหมือนฟืนเหมือนไฟ เหมือนส้วมเหมือนถานเต็มอยู่ในหัวใจนั้น
กิริยาแสดงออกก็เป็นฟืนเป็นไฟออกมา
น่าสลดสังเวชนะ หัวโล้นๆ ด้วยกันนี้ ดูกันแล้วจะดูกันไม่ออกทุกวันนี้ มัน
เป็นอย่างนี้จะว่ายังไง หลักธรรมวินัยเป็นอันเดียวกัน ดูมาจากแบบพระพุ
ทธเจ้าแบบเดียวกัน แต่เวลามาประพฤติปฏิบัติมันเป็นอย่างนี้ละเวลานี้
กลับมาเป็นข้าศึกต่อพระพุทธเจ้าต่อศาสนาเสียเอง พวกเราพุทธบริษั
ทเลยกลายเป็นข้าศึกศัตรูต่อพุทธศาสนา ศาสนาก็หมด ฉิบหายไม่มีอะไร
เหลือเลย ถ้าเป็นอย่างที่กำลังเป็นอยู่เวลานี้ ต่อไปวัดวาอาวาสก็
จะมีแต่กุฏิกุฏัง อิฐ ปูน หิน ทราย ไม่เห็นวิเศษวิโสอะไร
ถ้าธรรมไม่มีในใจแล้ว อะไรก็อะไรเถอะ เป็นส้วมเป็นถานไปหมดนั่นแหละ
ถ้าใจมีธรรมครองใจเสียอย่างเดียว สง่าจ้าไปหมด พระพุทธเจ้าเอาธ
รรมมาสอนโลก ไม่ได้เอาอิฐเอาปูนเอาหินเอาทราย เอาเทวทัตเอาวิดีโอ
เอาโทรศัพท์มือถือ มาสอนโลก สอนแต่เรื่องละเรื่องถอน ไม่ได้สอนสิ่งเห
ล่านี้มาเผาหัวนะ เวลานี้กำลัง…
มันดื้อด้านขนาดนั้น เห็นไหมกิเลส มันอายใครเมื่อไร หัวโล้นๆ มันก็ไม่อาย
มันทำได้อย่างหน้าด้านเลยเทียวเดี๋ยวนี้ สมัยนี้เลยกลายเป็นสมัยพวกหัวโล
้นๆ พระเหล่านี้เป็นพระหน้าด้าน พูดแล้วละอายเหมือนกัน หลวงตาบัวก็เป็น
พระองค์หนึ่ง กลายเป็นพระหน้าด้านไปตามๆ กันหมดแล้วเวลานี้
ถ้ารู้สึกตัวว่าเป็นพระอยู่บ้างให้ระมัดระวังสำรวม สิ่งเหล่านี้คือภัยมหาภัย
โดยตรง ไม่มีตีความหมายว่าอ้อม ตามหลักพระวินัยตรงเป๋งเลย
ว่านี้คือข้าศึกของพระวินัย ของพระจริงๆ ข้าศึกศัตรูมหาภัยอย่างยิ่งคืออ
ันนี้เอง จะเป็นอะไรที่ไหนไป
พูดบ้างพูดไม่ได้ แต่สิ่งเหล่านี้เข้ามาทำลายจนประเทศไทยจะล่มจมไ
ปหมดเวลานี้ยังไม่เห็นพูดกันบ้างเลย เมื่อเวลาจะพูดเพื่อชำระสะสางสิ
่งเหล่านี้ทำไมจึงเป็นข้าศึกของชาติบ้านเมือง ของศาสนาเรา ถ้าไม่
ใช่บ้านเมืองศาสนาเรากลายเป็นเทวทัตต่อสู้พระพุทธเจ้าไปแล้วเวลานี้
จึงพูดเหล่านี้ออกมาไม่ได้ แสดงออกมาไม่ได้ กิเลสรุมตีๆ เวลานี้กิเลสมัน
คลื่นมหาสมุทรทะเลหลวงสู้ไม่ได้ มันตีแหลก ธรรมะจะแย็บออกมาไม่ได้
อย่างพูดเวลานี้ก็เป็นข้าศึกแก่พวกเทวทัต กองทัพทำลายศาสนาเวลานี้
เอาศาสนาออกมาพูดพูดไม่ได้นะ ขัดหูขัดใจขัดทุกสิ่งทุกอย่างขอ
งกิเลสไปหมดแล้ว
ต่อไปศาสนาจะออกไม่ได้นะ ธรรมจะออกไม่ได้ จะมีแต่พวกนี้ตีตลาดลาดเล
เป็นฟืนเป็นไฟไปตามๆ กันหมด ไม่ว่าในวัดนอกวัด ไม่ว่าพระว่าเณร
ไม่ว่าฆราวาส ไฟเหล่านี้เข้าไปเผาหัวใจได้หมด มันไม่ได้กลัวหัวโล้นๆ
ผ้าเหลืองๆ มันกลัวแต่ธรรมเท่านั้นแหละกิเลส ถ้าไม่มีธรรมในใจแล้วยังไงก็เป็
นปุ๋ยเป็นฝุ่นไปจนได้นั่นแหละ
มันน่าสลดสังเวชนะพวกพระเราด้วยกัน หัวโล้นๆ ด้วยกันนี้ พูดเรื่องราวของกัน
และกันเวลานี้ เอาธรรมวินัยออกมากางซิ เราพูดตามหลักธรรมหลักวินัย ไม่
ได้พูดเรื่องอุตริ มันเป็นอย่างนั้นเวลานี้จะให้ทำยังไง จมไปหมด ภายนอก โอ๊ย
ประดับประดาตกแต่งโก้หรูเสียทุกอย่าง ภายในเป็นส้วมเป็นถานมี
ความหมายอะไร ส้วมถานเอาไปไว้ในหอปราสาทก็เป็นส้วมเป็นถานไปห
มดละซิ ถ้าสิ่งสกปรกรกรุงรังนี้เข้าไปที่ไหนสกปรกไปหมด
กิเลสไม่ใช่ตัวสะอาด ตัวสกปรกที่สุดคือกิเลส เพราะฉะนั้นธรรมจึงได้ชะได้ล้าง
ได้บังคับบัญชาต้านทานเอาไว้ ถ้าไม่มีธรรมต้านทานมนุษย์เรานี
้เก่งกว่าหมานะ ผัวไม่มี เมียไม่มี ลูกเต้าหลานเหลนใครไม่มี สวมได้สวมใส่ดะไ
ปหมดเลย นี่เพราะมีธรรมครอบอยู่บ้าง พอมีหิริโอตตัปปะ มีเขามีเขา
มีผัวมีเมีย พอเป็นเกาะเป็นเขตเป็นฝั่งเป็นฝา นี้คือธรรมครอบเอาไว้พากันรู้เสีย
ถ้ายังไม่รู้ มีหิริโอตตัปปะความละอาย รู้จักสูงจักต่ำ รู้จักที่ลับที่แจ้งบ้าง
คือธรรมครอบเอาไว้นั้น ถ้าไม่มีธรรมเสียอย่างเดียวนี้หมาสู้ไม่ได้นะ
มนุษย์เราเลวยิ่งกว่าหมา ดื้อด้านยิ่งกว่าหมา เพราะฉลาดกว่าหมา
ทำลายอะไรได้มากยิ่งกว่าหมา
พากันจำเอานะ วันนี้ฝากธรรมะให้พี่น้องทั้งหลายทราบเอาไว้ เพื่อ
เป็นคติเครื่องเตือนใจ เราเป็นชาวพุทธ ทั้งพระทั้งเณรทั้งฆราวาสเป็นชา
วพุทธด้วยกัน ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก ไฟเป็นไฟ น้ำเป็นน้ำ เอามาแก้ตัวเอง
ดับไฟ เหล่านี้กำลังระบาดสาดกระจาย มหาภัยเวลานี้ คว้ามับๆ เอามา
จากที่ไหนคว้ามับ พวกนี้เขาฉลาดหาเงินตามทางของกิเลส พวกเราก็โง่วิ่ง
ตามเขา อะไรมาคว้ามับๆ เอามาเผาทั้งพ่อทั้งแม่ทั้งลูกทั้งหลาน
สังคมต่างๆ วงงานต่างๆ ฉิบหายไปด้วยสิ่งเหล่านี้ เพราะความฟุ้งเฟ
้อเห่อคะนองตามสิ่งเหล่านี้
เอาละต่อไปนี้จะให้ศีลให้พรพี่น้องทั้งหลาย แล้วหลวงตาบัวฝากคำนี้ไว้เป็นข้
อคิด นี้เป็นการรักษาศาสนา เป็นการต้านทานสิ่งชั่วช้าลามกทั้งหลาย
ให้ต่างคนต่างระมัดระวัง ฆราวาสก็มีหัวใจ พระก็มีหัวใจ ชั่วก็ฆราวาสชั่วได้
พระชั่วได้ ให้ต่างคนต่างแก้ ต่างคนต่างปัดออกสิ่งไม่ดีทั้งหลาย
เอาละให้พร
ฉันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะลาพี่น้องทั้งหลายกลับอุดรฯ แหละ ไปอยู่วันหนึ่งส
องวันก็ออกช่วยโลกดังที่ปฏิบัติมา เพราะฉะนั้นการช่วยโลก จึงมีการพูดเพื่
อต้านทานสิ่งนรกจกเปรตทั้งหลายเหล่านี้
# หลวงตาพูดถูกสุดๆเลย ครับถึงใจมาก
Facebook Line โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์มันคือพวก ตัวดูดสติ
พระองค์ไหนก็ตาม ที่ท่านโพสธรรมะ
ท่านเหล่านั้นมีจิตคิดเหมือนผมหรือเปล่าก็ไม่รู้ คือเมตตาอยากให้คน
อื่นตาสว่างตาม
ถึงตนเองจะเสียเวลาเจริญสติช้านิดหน่อยก็ไม่เป็นไร
ฉะนั้นองค์ไหนก็ตามที่ท่านโพส
ท่านเมตตามากนะอยากให้คนอื่นได้รู้ธรรม
ท่านเสียสละเวลาเจริญสติตัวเองมากนะ
ท่านตัดแบ่งเวลามาให้ธรรมะเรา เราอ่านแล้วฟังแล้วพากันลงมือปฏิบัติบ้างไหม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น