วันพุธที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

คนเฮายากนำแต่แนวอื่นจนเป็นทุกข์แต่บ่เคยยากนำสิฮู้วิธีดับทุกข์


คนเฮายากนำแต่แนวอื่นจนเป็นทุกข์
แต่บ่เคยยากนำสิฮู้วิธีดับทุกข์
ท่านผู้ฉลาดทั้งหลาย รีบบำเพ็ญบารมีประดับจิตไว้เถิด
คือการฝึกไม่ถือสาสิ่งภายนอก อันได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส สิ่งกระทบต้องกาย อันจะมายั่วยุให้เกิดความโกธรที่ใจ
อันจะมายัวยุให้เกิดความโมโหที่ใจ
อันจะมายัวยุให้เกิดความโลภที่ใจ
เช่น เราเห็นคนทำท่ากวนตีน ยกนิ้วชี้และนิ้วก้อยขึ้นให้เรา มีความหมายว่าเป็นการด่าเราว่าไอ้ควาย"
ที่ได้เห็นนั้นเราก็ไม่ถือสาไม่ถือมั่น
ความโกธรความโมโหก็เกิดขึ้นที่ใจไม่ได้
หรือเราเห็นแฟนเราควงแขนไปกับคนอื่น
ที่เห็นนั้นเราก็ไม่ถือสาไม่ถือมั่น
ความโกธรความโมโหก็เกิดขึ้นที่ใจไม่ได้ ( พอแฟนกลับมาค่อยถามหาเหตุหาผลว่าจะเอายังไง)
_________
เสียง เช่น เราได้ยินเสียงคนด่าเราหรือพูดอย่างใดอย่างหนึ่งกับเราอย่างร้ายแรง ด่าพ่อแม่ ด่าเพื่อน ด่าคนรัก
ที่ได้ยินนั้นเราก็ไม่ถือสาไม่ถือมั่น
ความโกธรความโมโหก็เกิดขึ้นที่ใจไม่ได้
หรือได้ยินเสียงพูดอันหยาบคาย ส่อเสียด ว่าให้เราหรือว่าให้คนที่เรารู้จัก
ที่ได้ยินนั้นเราก็ไม่ถือสาไม่ถือมั่น
ความโกธรความโมโหก็เกิดขึ้นที่ใจไม่ได้
_________
กลิ่น เช่น
ผัวเมียนอนด้วยกัน เมียตด
ผัวก็ต้องไม่ถือสาไม่ถือมั่นกลิ่น
ความโกธรความโมโหก็เกิดขึ้นที่ใจไม่ได้
หรือ ข้างบ้านดูดส้วมมีกลิ่นเหม็น
เราก็ไม่ถือสากลิ่นไม่ถือมั่นกลิ่น
ความโกธรความโมโหก็เกิดขึ้นที่ใจไม่ได้
ถ้าจะเลี่ยงก็เดินหนีออกไปห่างๆ
หรือกลิ่นอื่นๆก็เช่นกัน
__________
รส เช่น แม่ค้าทำกับข้าวรสชาติไม่อร่อยเลย แกงจืดรสจืดยังกะต้มน้ำเปล่า
,ข้าวพัดจืดยังกะข้าวเปล่าๆ หรือผัดเปรี้ยวหวานหวานยังกะบ้านเป็นโรงงานผลิตน้ำตาลเอง หรือรสอื่นๆ
ถ้าทานแล้วมันจะขาดใจตายเพราะไม่ได้รสชาติที่ชอบใจ ก็ค่อยหาเดินไปปรุงอาหารใหม่
___________
โผฏฐัพพะ เช่น เขาเอามือมาลูบหัว เขาเหยียบเท้า เขาผลัก เขาต่อย เดินชนตู้ เดินเบียดเสียดกับคนมาก เขามาโดนถูกต้องกาย หรือสัมผัสสิ่งถูกต้องกายอื่นๆ
ก็ทำนองเดียวกัน
เราก็ไม่ถือสาไม่ถือมั่นมัน
นี่ก็คือการฝึกจิตใจให้เป็นกลาง
แต่ถ้าจิตยังไม่เป็นกลางจริง ยังมีความถือสาก็จะเกิดความชอบใจบ้าง
เกิดความไม่ชอบใจบ้าง
ถึงตรงนี้พระพุทธเจ้าคงรู้เห็นแล้วว่า
ผู้ที่ต่ำกว่าอนาคามี จะต้องมีความชอบใจ และความไม่ชอบใจ เกิดขึ้น
ก็เลยมีมรรคสอนใส่ตรงจุดนี้เลย
คือเมื่อความชอบใจเกิดขึ้น หรือความไม่ชอบใจ
เกิดขึ้นแล้ว ก็ดูสภาวะความชอบใจ
หรือความไม่ชอบใจ ที่ปรากฏเด่นชัดๆนั้นแหละ
แล้วเอาไตรลักษณะ๓
๑อนิจจัง(มันไม่เที่ยง) ๒ทุกขัง(มันทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้)
๓อนัตตา
เข้าไปวัดมันเลย หรือเอาข้อใดข้อหนึ่งก็ได้ไปวัดมัน ดูซิมันจะเที่ยงไหม
ก็จะเห็นสภาวะ ความชอบใจเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แปรปรวนดับไป อยู่อย่างนี่เรื่อย
ก็จะเห็นสภาวะ ความไม่ชอบใจเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แปรปรวนดับไป อยู่อย่างนี้เรื่อย โดยที่มันก็เกิดขึ้นแล้วก็ค่อยๆแปรดับหายไปของมันเอง ไม่ได้เกี่ยวกับเราเลย
พระพุทธเจ้าผู้มีสัพพัญญูตญาณ(รู้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง เข้าใจหมดทุกเรื่อง อดีต อนาคต)
ตรัสว่า สภาวะทั้งหลายทั้งปวง
นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เรา นั่นไม่ใช่อัตตาเรา
สภาวะทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง
ไม่ควรเข้าไปถือเอาไว้ว่าเป็นของเรา
ถ้าเราเห็นสภาวะต่างๆ ทั้งชอบใจ ทั้งไม่ชอบใจ ทั้งโกธร ทั้งโลภ เกิดดับอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ จนเบื่อหน่าย ก็ให้เห็นสภาวะเบื่อหน่ายเกิดดับด้วย
เมื่อเห็นความชอบใจ
เกิดขึ้นดับไปบ่อยๆมากๆ
เมื่อเห็นความไม่ชอบใจ
เกิดขึ้นดับไปบ่อยๆมากๆ
ความเบื่อหน่ายก็จะเกิดขึ้นมา
ก็ให้เห็นความเบื่อหน่ายนั้นว่าตกเป็นไตรลักษณ์เหมือนกัน
__
ยังกิญจิ สมุทยธัมมัง สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สัพพันตัง นิโรธธัมมันติสิ่งนั้นทั้งหมดก็มีความดับไปเป็นธรรมดา สาธุค่ะ
__
พระมงคลชัย กิตติโสภโณ อย่าหลงวิบากเด้อ
สาธุ
___
พระมงคลชัย กิตติโสภโณ อย่าหลงวิบากเด้อ
พระอรหันต์ไม่กล้ารับรองศรัทธา
สมัยพุทธกาล มีโยมมาถวายทานกับ
(พระโมคคัลลานะ หรือ พระอนุรุทธะ ท่านใดท่านหนึ่งนี่แหละจำได้ไม่ชัด)
จากนั้นโยมเขาก็ขอ
1. ขอให้มีศรัทธามั่น
2. ขอให้มีโภคะทรัพย์มาก
#ข้อ3(จำไม้ได้ จำได้แค่2ข้อ)
แต่ท่านไม่กล้ารับรอง ที่โยมขอทั้งหมด
ข้อ 1 ไม่กล้ารับรอง
ข้อ 2 กล้ารับรอง
ข้อ 3 กล้ารับรอง
มาพิจารณาแล้ว โยมดังตฤณ
ที่แรกจะสละทรัพย์ สร้างพระประธาน คนเดียว โดยไม่ได้เรี่ยไร่เอากับแฟนเพจ
แต่ทีนี้แฟนเพจอยากร่วมด้วย
จึงแตกยอดออกมาเป็นโครงการพระประธานทั่วหล้า
ถวายให้แก่วัดที่ขอมา ทั้งในประเทศไทย และนอกประเทศ
เป็นมหาสังฆทาน (ในด้านวิบากตีกลับคืนมาคือศรัทธา)ที่ยิ่งใหญ่มากจริงๆ (โครงการพระประธานทั่วหล้า เมื่อปีที่แล้วนี่เอง)
และโยมมีคนที่สร้างเว็บ 84000org ก็ร่วมด้วยตั้งแต่เริ่มต้นเลย
กล่ววย่นย่อแล้วกัน
คือใครได้โอนเงินไปร่วมกับโครงการนี้นะ ไอ้ตัวกรรมที่สร้างเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ทำให้คนอื่นมีศรัทธา
มันจะกลับคืนมาหาตน
กลับคืนมาสู่จิตสู่ใจตนอย่างแน่นอน
เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องพื้นๆ แต่ก็สำคัญในจุดเริ่มต้น ของภพชาติใหม่ที่จะมีต่ออีกนะ
ถ้าเกิดมาแล้ว
ไม่มีศรัทธามันก็เหมือนคนจนนะ
พระพุทธเจ้าว่าอย่างนั้นเลย คือคนจนเข็นใจไร้ทรัพย์ ไม่มีอริยะทรัพย์ภายในเลย
แม้มีคนชักจูงมาทางธรรม
ก็ไม่อยากจะมาง่ายๆ
โยมลองเข้าไปในลิงค์นี้นะ
แล้วอ่านดูและพิจารณา ว่าควรร่วมบุญใหญ่นี้หรือไม่ควรร่วมหนอ
  • ค่ะโยมจะลองเข้าไปดูอนุโมทนาสาธุค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น